- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 30 May 2016 17:20
- Hits: 1183
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ซื้อเก็งกำไร/ถือต่อเมื่อ SET ยังเหนือ 1400"
Stock Picks-May 2016 : Fundamental : ADVANC, AOT, BA, LPH, TMT
Dark Horse : FSMART, RS
Fundamental Pick -Today: IVL(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev : LH 16%, TISCO 12%, PTTEP 11%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ โดยมีลุ้นเด้งก่อนลงต่ำต่อ
Support Resistance Stop Loss
SET 1380-1370 1420,1430 หลุด 1400
SET50 880-870 910-920,930 หลุด 890
Technical Picks - Today CKP, CPN, ESSO, BBL, VIH, BWG, SPA
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : TRC (จากซื้อเป็นถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นเล็กน้อยหลังประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ระบุว่าเฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปถ้าเศรษฐกิจขยายตัวอย่างที่คาดการณ์และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น และกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 2/59 ฟื้นตัวดีขึ้นหลังชะลอไปในไตรมาส 1/59 ซึ่งตลาดตีความว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนก.ค.59 มีมากขึ้น แต่ยังไม่น่าจะปรับขึ้นในการประชุม 14-15 มิ.ย.นี้เพราะอังกฤษจะทำประชามติว่าจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่วันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งผลการทำประชามติอาจทำให้ตลาดเงินและหุ้นผันผวนได้
วันที่ 31 พ.ค.จะเป็นวันที่ MSCI Quarterly Review มีผลบังคับใช้ โดยในดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้ามาคำนวณใหม่ คือ ROBINS, EGCO และไม่มีหุ้นออก ส่วน MSCI Global Small Cap หุ้นไทยที่เข้ามาคำนวณใหม่เป็น DNA, GL, S ส่วนหุ้นออก คือ EFORL, SAMTEL, SAT, SRICHA, TIPCO, TTCL
สำหรับในประเทศ ในระดับมหภาคยังเป็นการติดตามความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐที่ถูกคาดหวังให้เป็น Key Growth ของเศรษฐกิจไทยใน 2H59 ส่วนระดับจุลภาคก็เป็นการเคลื่อนไหวของรายอุตสาหกรรมและรายบริษัท กลยุทธ์ : การลงทุนหรือเก็งกำไรในช่วงนี้ เรายังคงเน้นเป็นรายบริษัท ส่วนภาพรวมตลาด เราประเมินกรอบล่าง-บนของ SET Index ในระยะ 1 เดือนข้างหน้าไว้ที่ 1380-1370, 1350 จุด และ 1420, 1440-1450 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น IVL
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ ต่อ โดยมีสิทธิรีบาวด์ต่อได้ในวันนี้ แนวต้านระยะสั้น 1420, 1430 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ หรือต่ำกว่า 1400 จุด การอ่อนตัวจะมีแนวรับเก็งกำไร 1380-1370, 1360-1350 จุด กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวกและไม่ควรหวัง Gap มาก
สำหรับ การ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและมีโอกาสปรับขึ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ CKP, VIH, SPA, CPN, BWG ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, KAMART, MALEE, GLOBAL, PTTGC, TNH, SIRI, BEM หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ IVL, VNG, GPSC, VIBHA หุ้นที่หลุด List -ไม่มี-
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : GDP Growth งวด 1Q59 ประมาณการครั้งที่ 2 เพิ่มขึ้น
สหรัฐประกาศตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับอัตราการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP Growth) ประจำไตรมาส1/59 อยู่ที่ระดับ 0.8% สูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 0.5%
สหรัฐ : ประธานเฟดเห็นว่าสหรัฐควรปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นางเยลเลนกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปและระมัดระวังถ้าเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาส1/59 ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์และราคาน้ำมันกำลังปรับตัวมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% สำหรับตลาดแรงงานก็ใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีความอ่อนแอในด้านค่าจ้าง และการเติบโตของประสิทธิภาพการผลิต
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : จากถ้อยแถลงดังกล่าว เราคาดว่าเฟดมีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค.59 และอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งในปี 59 ถ้าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังต่อเนื่องในไตรมาส 3/59 ส่วนการประชุมกลางเดือนมิ.ย.นี้ เราคาดว่าจะมีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์คงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0.50% ก่อน แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เฟดโหวตให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นก็ตาม เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า อังกฤษจะทำประชามติว่าจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.59
อังกฤษ : นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นว่าอังกฤษไม่ควรถอนตัวจากสหภาพยุโรป
นักเศรษศาสตร์ของอังกฤษส่วนใหญ่เชื่อว่าการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป (EU) หรือ Brexit จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดยมีการสอบถามนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานในสถาบันการเงิน ธุรกิจขนาดเล็ก และสถาบันการศึกษาในลอนดอนจำนวน 600 รายพบว่า 88% ของผู้ตอบคำถามระบุว่า Brexit จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า และ 82% ระบุว่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อรายได้ของภาคครัวเรือน ทั้งนี้อังกฤษจะทำประชามติว่าจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.59
ตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์
ดัชนี DJIA ปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด หรือ +0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.74 จุด หรือ +0.65% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือ +0.43% สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ดัชนีดาวโจนส์ +2.1% ดัชนี S&P 500 +2.3% และดัชนี NASDAQ +4.3%
***สำหรับวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.59 ตลาดหุ้นและตลาดเงินสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day***
ราคาน้ำมันดิบวันศุกร์อ่อนลงเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 49.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นราว 3% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นราว 1%...นักลงทุนรอดูผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 2 มิ.ย.59 เพื่อหาว่าจะมีสัญญาณการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่
- ราคาน้ำมันทองคำลดลงต่อ
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,216.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
7 เดือนแรกปีนี้ 3 กรมเก็บภาษีได้น้อยกว่าเป้าหมาย…กังวลการลงทุนรัฐล่าช้า
แม้ว่าตัวเลขยอดรายได้ของรัฐบาลใน 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 59 (ต.ค.58-เม.ย.59) จะเกินเป้าหมาย 7.05 หมื่นล้านบาท เป็นเพราะมีรายได้จากการประมูล 4G เข้ามา 4.82 หมื่นล้านบาทและรายได้จากรัฐวิสาหกิจ 1.68 หมื่นล้านบาท แต่ในส่วนของการเก็บภาษีของ 3 กรมต่ำกว่าเป้าหมาย 2.94 หมื่นล้านบาท (พลาดเป้าหมายไป 2.4%) ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐต้องใช้ระบบ Public Private Partnership : PPP มากขึ้นเพื่อลดภาระการลงทุนของรัฐบาล แต่การลงทุนร่วมในลักษณะนี้อาจทำให้โครงการลงทุนต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากภาคเอกชนต้องใช้เวลาในการพิจารณาความเป็นไปได้ของการลงทุนด้วย
วันนี้กพช.ประชุมเรื่องแหล่งก๊าซที่จะหมดสัมปทาน และการรับซื้อไฟจาก SPP ที่จะหมดอายุสัญญาปี 60-68
คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะประชุมวันนี้ (30 พ.ค.) วาระสำคัญคือการหาแนวทางบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติซึ่งสัมปทานจะหมดอายุปี 65-66 ซึ่งเตรียมไว้ 2 แนวทาง คือ 1. เจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม คือ PTTEP และเชฟรอน หรือ 2. เปิดประมูลบนเงื่อนไขรัฐได้ผลประโยชน์มากกว่าเดิม และอีกวาระคือการพิจารณาเงื่อนไขส่งเสริมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ที่จะหมดสัญญาซื้อขายปี 60-68 จำนวน 25 ราย ซึ่งรัฐต้องการให้ลดปริมาณการผลิตลงเหลือ 560 MW จากปัจจุบันที่ผลิตเข้าระบบ 1,787 MW รวมทั้งการพิจารณาอนุมัติโครงการสถานีรับจ่าย LNG แห่งที่ 2 ของ PTT วงเงินลงทุน 3.85 หมื่นล้านบาท
- PTT ให้ TRC หยุดโครงการขยายอายุใช้งานระบบท่อส่งก๊าซบนบกเส้นที่ 1 หลังเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร
จากเหตุการณ์ไฟฟ้าแรงสูงลัดวงจรและเกิดเพลิงลุกไหม้รถบรรทุกติดเครนของ TRC ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโครงการขยายอายุการใช้งานระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 1 ขณะนี้ปตท.ได้ขอให้ผู้รับเหมาระงับการปฎิบัติงานใด ๆ ในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุชั่วคราว และอยู่ระหว่างติดตามรายงานจากบริษัทผู้รับเหมาเพื่อสอบสวนถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งหารือและทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานต่อไป
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]