- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 30 May 2016 16:43
- Hits: 822
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: รอทะลุผ่าน 1430 จะเป็นจังหวะซื้อเพิ่ม
SET Index: 1424.23 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1420 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1404 จุดขึ้นมาได้ ทำให้โครงสร้างการเคลื่อนไหวในระยะกลางประมาณ 2 สัปดาห์มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1450 จุด โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1430 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1400 จุดเป็นจุดถอยสำหรับการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคาร และสื่อสาร
แนวต้าน : 1427 และ 1430
แนวรับ : 1422 และ 1420
ADVANC = 162 / 165, KBANK = 172 / 173, IVL = 33.00 / 34.00, PTT = 310 / 314, SCB = 132 / 134
TMB Bank (TMB TB; THB 2.30) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.40 และ 2.46 / แนวต้านสำคัญ 2.52
แนวรับ : 2.30 และ 2.28
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เริ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขาทำกำไรในระยะสั้นเหนือแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ TMB โดยมีแนวรับที่ 2.30 และ 2.28 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.40 และ 2.46 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.24 ลงไป รอซื้อเพิ่มที่ 2.16
Khon Kaen Sugar Industry (KSL TB; THB 4.02) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.20 และ 4.40 / แนวต้านสำคัญ 4.50
แนวรับ : 4.02 และ 4.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 3.90 แต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ KSL โดยมีแนวรับที่ 4.02 และ 4.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.20 และ 4.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.90 ลงไป
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ 910 ทะลุผ่าแนวต้านสำคัญของแนวโน้มด้านข้างในระยะยาว ทำให้ทิศทางการเคลื่อนไหวในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 930 ละ 940 และมีแนวรับสำคัญที่ 908 ถ้าย้อนกลับลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 900
แนวต้าน : 917 และ 920
แนวรับ : 914 และ 912
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50M16 ต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่ 912 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 930 และ 940
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50M16 ปรับตัวลดลงหลุด 908 ลงไป
CKPM16
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.50-2.56 และมีแนวรับสำคัญที่ 2.30 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย
แนวต้าน : 2.44 และ 2.50
แนวรับ : 2.36 และ 2.30
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน CKPM16 ที่แนวรับ 2.36 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.50
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า CKPM16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 2.30 ลงไป
TMBM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 2.30 เมื่อพิจารณาโครงสร้างในระยะยาวยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.40 และ 2.50 และมีแนวรับสำคัญ 2.28 ถ้าหลุดจะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลลดลงไปทดสอบ 2.00 อีกครั้ง
แนวต้าน : 2.40 และ 2.44
แนวรับ : 2.30 และ 2.28
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TMBM16 ที่แนวรับ 2.30 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.40 และ 2.50
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TMBM16 ปรับตัวลดลงหลุด 2.27 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET....เมื่อเดือนนี้ตลาดสหรัฐไม่ลง หลังจากนี้ให้เพิ่มความระมัดระวัง
ก่อนหน้านี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จะมีการปรับฐานในเดือนนี้ จากปัจจัยกดดัน 2 ประการคือ 1. พื้นฐานของตลาดและเศรษฐกิจ และ 2. ผลทางจิตวิทยาของหุ้นในเดือน พ.ค. ในประเด็นแรก ปรากฏว่า แม้ตัวเลข EPS growth Q1/16 ของ S&P 500 จะออกมาติดลบ 5-7% แต่กลับกลายเป็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐไม่รับข่าวแต่กลับให้ความสนใจกำไรใน Q2/16 ที่คาดว่าจะเป็นบวก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจกลับกลายว่าหลายๆตัวดีขึ้นตามลำดับ จนนำไปสู่แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. หรือ ก.ค. ส่วนประเด็นที่สอง ซึ่งดูกันมานาน ว่าเดือน พ.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวลง แต่ถึงตอนนี้กลับไม่ลง
ในรายละเอียดของผลตอบแทนของตลาดหุ้นสหรัฐประเดือน พ.ค. ตั้งแต่ปี 1928 ถึง 2015 กลับพบว่าดัชนี S&P 500 ในเดือน พ.ค. กลับเป็นบวกถึง 49 ครั้งเป็นลบแค่ 39 ครั้ง และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยของเดือน พ.ค. ลบเพียง -0.1% โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 23.1%(1933) และต่ำสุด -23.9%(1932) แต่อย่างไรก็ตามมาดูผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 นับตั้งแต่ปี 1928 ถึง 2015 ข้อมูลที่เกิดขึ้น พบว่าผลตอบแทนของ S&P 500 ที่ดีที่สุดจะอยู่หลังเดือน พ.ค. คือระหว่างเดือน พ.ย. ถึงเดือน เม.ย.คือ 5.1% ส่วนผลตอบแทนระหว่างเดือน พ.ค. ถึง พ.ย.ให้ผลตอบแทนเพียง 1.9% ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นสหรัฐยังไม่ลง
หากตัวเลขในอดีตยังสามารถอธิบายได้ถูกต้อง หลังจากนี้ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังมีสิทธิปรับฐาน จากเหตุผลของผลตอบแทนที่ต่ำ (พ.ค.-พ.ย. ที่ 1.9%) แรงกดดันจากกำไรต่อหุ้นของตลาดยังต่ำ ดัชนีขึ้นมาเล่นกันที่ P/E 12 เดือนล่วงหน้าที่แพงโดยปัจจุบันเทรดกันที่ 17.3 เท่าเทียบค่าเฉลี่ยระยะยาว 15 ปีที่ 16.5 เท่า และความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตามหากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐยังไปต่อ ตลาดหุ้นไทยยังมีสิทธิขึ้นยืนเหนือ 1400 จุดได้แต่ไปได้ไม่ไกล อย่างมากไปที่เดิม คือ 1430 จุด แต่หากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่ดัชนี SET จะลงไปที่ 1350 จุดหรือต่ำกว่านั้น
ในภาวะที่ตลาดกำลังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจในวันที่ 3 มิ.ย. และรอการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐอีกครั้งในวันที่ 6 มิ.ย. มีแนวโน้มว่าตลาดหุ้นไทยในอาทิตย์นี้ จะกลับมาผันผวนแรงขึ้นทั้งเชิงบวกและลบ โดยมีราคาน้ำมันเป็นตัวแปร หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นและผลการแถลงของประธาน FED ออกมาทำนองว่าพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ย (แต่ยังดูตัวเลขเศรฐกิจต่อ) และราคาน้ำมันทรงๆตัวหรือปรับลง ดัชนี SET จะผันผวนไม่มาก จนกว่าจะเห็นการแถลงของประธาน FED อีกครั้งในวันที่ 6 มิ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงดูหุ้นเป็นรายตัวและให้ลดพอรท์การลงทุนลง หากดัชนี SET ขึ้นไปในกรอบ 1410-1420 จุด กลุ่มอุตสาหกรรมที่ถือว่ายังไปได้ ยังคงเป็นกลุ่ม อาหาร/เครื่องดื่ม (TU CBG) เกษตร (TVO CFRESH STA) ค้าปลีกบางตัว (CPALL) สื่อสารเล็ก (JAS) ในขณะที่หากตลาดผันผวนเป็นขาลง (จากความกังวลเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง) หุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงจะเป็นทางเลือกในการพักเงินที่ดี โดยหุ้นที่เราทำการศึกษาที่ให้อัตราเงินปันผลสูง 5 ลำดับแรกประกอบไปด้วย JASIF (9.4%) INTUCH (7.4%) PS (6.7%) LH (6.7%) และ ADVANC (6.3%) วันนี้มองดัชนี SET จะเริ่มแกว่งตัวจากแรงขายทำกำไรหลังขึ้นมาติดต่อกัน 3 วัน ปริมาณการซื้อขาย คาดยังคึกคักก่อนการ MSCI Rebalancing ในวันพรุ่งนี้ วันนี้มองแนวต้านที่ 1416-1420 จุด ส่วนแนวรับที่ 1408-1404 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร THAI
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,424.23 จุด เพิ่มขึ้น 11.56 จุด (+0.82%) มูลค่าการซื้อขาย 22,100.41 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นต่อเนื่อง SET ดีดแกว่งเหนือ 1420 จุด โดยมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร สื่อสาร และพลังงาน ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่เป็นบวก ตามตลาดสหรัฐ หลังประธานเฟดสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดหุ้นกลุ่มธนาคารยังนำตลาดต่อเนื่อง ภาพรวมตลาดเกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง ซึ่งจะนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและสื่อสาร โดยมองกลุ่มธนาคารมี Gap การขึ้นต่อที่ค่อนข้างเด่นกว่ากลุ่มสื่อสาร เรามอง SCB น่าสนใจมีกรอบแนวต้านที่ 137 บาท แนวรับ 131.50 บาท ส่วน SET Index มองกรอบการขึ้นที่ 1436 จุด และ 1452 จุด มีแนวรับที่ 1420 จุด แนะนำถือหุ้นต่อ
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
TMB Bank (TMB TB; THB 2.30) - ซื้อ
Khon Kaen Sugar Industry (KSL TB; THB 4.02) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]