- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 May 2016 17:53
- Hits: 1184
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักฐานรอถ้อยแถลงของ Yellen
คาดหุ้นไทยวันนี้พักฐานเพื่อรอแถลงการณ์ของประธาน Fed ในวันนี้ซึ่งจะมีน้ำหนักต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการพักฐานของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ในส่วนของปัจจัยในประเทศ ธปท. ยังคงเชื่อมั่นภาคการส่งออกไทยที่จะสามารถฝ่าแรงเสียดทานการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้ แม้ว่าตัวเลขเดือน เม.ย. จะหดตัว 8% YoY โดยยังคงมุมมองภาคการส่งออกไทยไว้เช่นเดิม
หุ้นเด่นวันนี้ : KCE (80.75 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 95 บาท)
บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ ที่เป็นผู้ผลิตแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ชั้นนำของโลก น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ จากการมาของเทคโนโลยีรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าและรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนของมูลค่าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่อมูลค่ารถหนึ่งคัน สถานะอันโดดเด่นในตลาด PCB โลก แนวโน้มระยะยาวของการอ่อนค่าของเงินบาทเทียบดอลลาร์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงกำลังการผลิตที่มากขึ้น (เพิ่มอีก 60%) จากโรงงานใหม่น่าจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทได้เป็นอย่างดี เราคาดว่ายอดขายจะเติบโตดี 15-16% ในปี 59 และ 60 การผลิตในสองเฟสแรกของโรงงานใหม่พึ่งเต็มกำลังการผลิตไปและบริษัทเตรียมเปิดเฟส 3 ใน ก.ค.นี้ โรงงานใหม่นั้นมีเครื่องจักรที่ทันสมัยกว่าเดิมซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและอัตราของเสียอย่างมาก บริษัทยังได้รับประโยชน์จากราคาโลหะอุตสาหกรรมที่ตกต่ำในตลาดโลก โดยเฉพาะทองแดงซึ่งจะช่วยผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นเข้าไปอีก เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตแข็งแกร่งที่ 22% ปี 59 และ 18% ในปี 60 ตามลำดับ Price Pattern ของ KCE กลับมาเกิดความแข็งแกร่งอีกครั้งจากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal ซึ่งบอกว่าการปรับฐานที่ผ่านมาเพื่อสะสมกำลังในการปรับตัวขึ้นรอบใหม่นั้นได้จบสิ้นแล้ว คาดว่าจะได้เห็นการทำ New High ครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 88.50 บาท โดย KCE มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 76.75 บาท (แนวต้าน: 81.25, 81.75, 82.50; แนวรับ: 80.25, 79.50, 79.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ธปท. คงเป้าส่งออกปี 59 ลดลง 2% ในรูปเงินดอลลาร์ แม้ว่าการส่งออกจะลดลง 8% ในเดือน เม.ษ. เนื่องจากในเดือนเม.ษ.เป็นเดือนที่มีการหยุดผลิตของโรงงานประจำปี จึงไม่ควรมองตัวเลขเดือนดังกล่าวเป็นการชี้วัด นอกจากนี้ ธปท. ยังเชื่อว่าประเทศไทยแข็งแกร่งพอที่จะทนต่อความผันผวนของตลาดโลกจากหนี้ต่างประเทศรวมถึงการลงทุนในตลาดหุ้นและหุ้นกู้ของต่างชาติที่ยังอยู่ในระดับต่ำช่วยลดความเสี่ยงจากเงินไหลออก กล่าวโดยนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (Bangkok Post)
อีเพย์เมนต์ต้องเกิดภายในปี 62 บริษัททั้งหมดในประเทศไทยจะต้องเข้าสู่ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีเพย์เมนต์) ภายในปี 62 กล่าวโดย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากสังคมที่ใช้เงินกระดาษเป็นระบบไร้เงินกระดาษและยังช่วยให้รัฐบาลลดการหลีกเลี่ยงภาษีรวมถึงเพิ่มรายได้ของรัฐบาล (Bangkok Post)
อัตรากำไรของโรงกลั่นยังคงแข็งแกร่ง ข้อมูลจากฟิสต์เรตติ้ง ผลประกอบการของโรงกลั่นไทยและผู้ผลิตปิโตรเคมียังมีแนวโน้มแข็งแกร่งในปี 59 จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุปสงค์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตรากำไรอาจลดลงจากปี 58 เนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตและแรงกดดันต่อสินค้าก๊าซธรรมชาติเหลวขั้นกลาง (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
กลุ่มจี 7 มีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา (emerging economies) แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นเผยว่าในการประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่ม G7 ว่า ผู้นำต่างแสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาหรือเศรษฐกิจเกิดใหม่ (emerging economies) อย่างไรก็ตาม พวกเขามองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ถึงขั้นวิกฤต (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัส หลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่แสดงว่าการลงทุนของภาคธุรกิจ (business spending plan) อ่อนตัวลง ทำให้ลดความคาดหวังว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หรือ ก.ค. ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดที่ 94.938 จุดซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 วัน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดในกรอบแคบ ๆ ในวันพฤหัสหลังจากปรับตัวขึ้นมา 2 วัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นปรับตัวลดลงหลังที่ขยับขึ้นไปเหนือระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 เดือน นอกจากนี้ นักลงทุนรอคำแถลงจากนางเจเน็ต เยลเล็น ประธาน Fed ในวันศุกร์นี้เพื่อหาเงื่อนงำเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องบินลดลง คำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. และสูงกว่าระดับที่ 0.5% จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ซึ่งรอยเตอร์สได้ทำผลสำรวจความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวเนื่องจากมีความต้องการผลิตภัณฑ์ยานพาหนะเพื่อใช้ในการขนส่งสูงและผลิตภัณฑ์อื่นอีกหลายอย่าง แต่การลงทุนของภาคธุรกิจยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องบ่งบอกว่าความตื่นตระหนกเกี่ยวกับการผลิตยังไม่สิ้นสุด ยอดสั่งซื้อสินค้าทุนนอกภาคกลาโหมซึ่งเป็น ตัวแทนการลงทุนของภาคธุรกิจลดลง 0.8% หลังจากที่ร่วงลง 0.1% ในเดือนก่อน (Reuters)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงเกินคาดในสัปดาห์ก่อน ถอยกลับไปใกล้ระดับต่ำสุดเนื่องจากตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวหลังจากที่สะดุดลงในไตรมาสแรก ตัวเลขเบื้องต้นของจำนวนผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลง 10,000 รายสู่ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ค. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงสู่ระดับ 275,000 ราย (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมาธิการยุโรปอาจจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กนำเข้า หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น นำโดยหุ้นอาร์เซลอร์มิททัลที่พุ่งขึ้น 6.9% เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมาธิการยุโรปอาจจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กนำเข้า หลังจากสหรัฐได้นำร่องด้วยการประกาศเพิ่มการจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าต่อต้านการสึกกร่อน (CORE) จากจีน อินเดีย อิตาลี เกาหลีใต้ และไต้หวัน หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นพีเอสเอ เปอร์โยต์ ซีตอรง และหุ้นเรโนลท์ ที่ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2.5% (Reuters)
เอเชีย :
กระทรวงพาณิชย์ของจีน ( MOC ) ได้โต้กลับสหรัฐฯ ในการพิจารณาคดีครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับการต้านเหล็กของจีน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศที่จะป้องกันการทุ่มตลาดโดยใช้อัตราภาษี anti-dumping ร้อยละ 209.97 และต่อต้านการอุดหนุน anti-subsidy duties ร้อยละ 39.05 สำหรับเหล็กป้องกันการกัดกร่อนจากประเทศจีน โดยในวันพุธจีนจะ ใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมและรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ (Reuters)
มณฑล Hebei ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กหนึ่งในสี่ของประเทศ ตั้งเป้าหมายตัดกำลังการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าปีนี้ โดยสินแร่เหล็กจะลดลง 17.26 ล้านตัน จากเป้าหมายเดิม ที่ 10 ล้านตัน และลดการผลิตเหล็ก 14.22 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายก่อนหน้านี้ 8 ล้านตัน เป้าหมายใหม่มีเข้ามาหลังจากถูกวิจารณ์หนักจากกลุ่มตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางที่มี 2,800 ข้อกังวลเข้ามา โดยมลฑลนี้ ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะตัดซัพพลายของทั้งเหล็ก ปูนซีเมนต์และ ถ่านหิน รวมกัน 160 ล้านตัน และอีก 36 ล้านตันของของกระจกในปี 2560 (Reuters)
กลุ่มจี-7 แสดงความวิตกในวันนี้เกี่ยวกับความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกและยืนยันที่จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในแถลงการณ์หลังสิ้นสุดการประชุมสุดยอด 2 วัน ผู้นำกลุ่มจี-7 ได้ยืนยันที่จะหลีกเลี่ยงการแข่งขันกันลดค่าเงิน ขณะที่เตือนเกี่ยวกับการปรับตัวอย่างรุนแรงของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งแสดงถึงการประนีประนอมระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ โดยญี่ปุ่นได้ขู่ที่จะแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเยน ขณะที่สหรัฐคัดค้านการแทรกแซงตลาด. จี-7 ระบุว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในอัตราปานกลางและต่ำกว่าแนวโน้ม ขณะที่ยังคงมีความเสี่ยงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นภารกิจเร่งด่วนอันดับแรก (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลง แกว่งตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ กดดันจากความเห็นของหนึ่งในคณะผู้ว่าการของ Fed ซึ่งระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยราคาทองคำสหรัฐฯ ล่วงหน้าส่งมอบเดือน มิ.ย.ปรับตัวลดลง 0.3% ปิดที่ระดับ 1,220.40 ดอลลาร์ฯ/ออนซ์ (Reuters)
ราคาทองแดงเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ สอดคล้องกับการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบและการอ่อนค่าของดอลลาร์ฯ อย่างไรก็ตามอาจเห็นแรงกดดันจากนี้จากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่สดใส โดยราคาทองแดงในตลาด London Metal Exchange ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 4,661 ดอลลาร์ฯ ต่อตัน ขณะที่ในระหว่างวันปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 4,712 ดอลลาร์ฯ ต่อตัน (Reuters)
ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันพฤหัสบดีแตะระดับ 50 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ก่อนที่จะปิดตลาดปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดมองว่าราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวอาจทำให้กำลังการผลิตส่วนเกินกลับมาอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 0.15 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 49.59 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.08 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 49.48 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331