- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 May 2016 17:52
- Hits: 391
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ ฟื้นตัวขึ้นมาแกว่งบริเวณ 1,390-1,395 จุด หุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร / พลังงาน /ปิโตรเคมี ขยับขึ้นได้เด่น สอดคล้องกับภาพรวมของตลาดหุ้นในเอเชีย ปิดรอบเช้า SET INDEX อยู่ที่ 1,397.63 จุด บวกเป็นวันที่ 2 อีก 13.37 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,021 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 366 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 7,375 สัญญา และคงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 498 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามผู้ว่าการ ธปท. เป็นองค์ปาฐกถาในงาน Euro Money ต่อทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน
ติดตามการประชุม G-7 ที่ญี่ปุ่น วันที่ 26-27 พ.ค.
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ทุกตลาดวานนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 3)
เราประเมินตลาดหุ้นทั่วโลกจะกลับมาแกว่งในกรอบแคบอีกครั้ง เพื่อรอดู GDP ใน 1Q59 รอบที่ 2 ของสหรัฐฯ และความเห็นของประธานเฟด Janet Yellen ที่เป็นองค์ปาฐกถาที่มหาวิทยาลัย Harward ในคืนวันศุกร์ (ตามเวลาประเทศไทย) สำหรับตลาดหุ้นไทย เรายังให้โอกาสที่จำกัดสำหรับการปิดยืนเหนือ 1,400 จุดในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ แรงขายทำกำไรระยะสั้นจะมากขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้
สำหรับตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.ที่กลับมาหดตัวแรง 8.0% yoy กลายเป็นความเสี่ยงให้แก่ GDP ใน 2Q59 อาจชะลอตัวจาก 3.2% yoy ใน 1Q59 แต่น่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่ง Upside จำกัด แต่แน่นอนว่า Downside ก็จำกัดเช่นกัน เพราะภาคเศรษฐกิจภายในประเทศ และการท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยผลักดันหลักในปีนี้
จับตาภาวะฝนตกทั่วประเทศที่มากขึ้นในช่วงนี้ ย่อมทำให้แรงกดดันต่อปัญหาภัยแล้งคลายตัวลง กำลังซื้อภายในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ จากปัญหาดังกล่าวที่คลายตัว เป็นบวกต่อกลุ่ม Domestic Play ให้แข็งแกร่งกว่าภาพรวม เช่นเดียวกับกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เราแนะนำเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัวที่มีประเด็นเชิงบวก
Stock Pick of The Day
1. เก็งกำไร PTTGC : ราคาปิด 61.25 บาท ราคาเหมาะสม 70.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาดต่อในวันนี้ จากการไต่ระดับขึ้นต่อของราคาน้ำมันดิบ NYMEX อีก +0.7% dod เป็น US$49.56/barrel ทำระดับสูงสุดใหม่ของปี 2559
b) PTTGC เป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตเป็น Gas Base ดังนั้น ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีจะเร่งตัวได้เร็วกว่าคู่แข่งซึ่งเป็น Naphtha Base
c) คาดกำไรสุทธิ 2Q59 จะเติบโตสูง qoq จากส่วนต่างราคา Ethylene - Naphtha เพิ่มขึ้น +14% qoq และ HDPE - Naphtha เพิ่มขึ้น +4.2% qoq และแรงหนุนจากกำไรสต็อกน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบ QTD เพิ่มขึ้นถึง +26% เป็น US$46.61
2. เก็งกำไร PLAT : ราคาปิด 6.60 บาท ราคาเหมาะสม 8.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารวานนี้ และคาดว่าผลประกอบการ 2Q59 จะเติบโต yoy ต่อเนื่อง จากการลดค่าใช้จ่าย และปรับขึ้นค่าเช่าโครงการเดอะแพลทินัม
b) ขณะที่ Skyline เฟส 1 สร้างเสร็จแล้ว และคาดว่าจะเปิดภายในเดือน มิ.ย. ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าเข้าโครงการเดอะแพลทินัม และส่งผลให้บริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มค่าเช่าของอาคาร 2 ขึ้นได้ เนื่องจากปัจจุบันค่าเช่าเฉลี่ยยังต่ำกว่าอาคาร 1
c) คาดกำไร 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยราว 8% ต่อปี และจะเติบโดดเด่นตั้งแต่ 2H61 และปี 2562 จากการรับรู้รายได้โครงการ The Market ซึ่งจะส่งผลให้ PER ลดลงจากปัจจุบันที่ 27.2 เท่า เหลือ 22.5 เท่าในปี 2561 และ 15.3 เท่าในปี 2562
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาซื้อสุทธิ US$295 ล้าน จากวันก่อนหน้าขาย
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติทยอยปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แต่ก็เพียง 366 ล้านบาทเท่านั้น ผลักดันให้ YTD ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น 12,885 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 7,375 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ยอดสุทธิ QTD สถานะยังคง Short สุทธิแต่ลดลงเป็น 4,240 สัญญา และทำให้ S50M16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้ง 1.38 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.35 จุด
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 498 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,534 ล้านบาท เนื่องจากราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ โดยพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 3.90bps จากวันก่อนหน้าลดลง 4.01bps ปิดที่ 2.077%
Short-Selling วานนี้
ทรงตัวในระดับต่ำ 545 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 590 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 กลับมาเน้นกลุ่มพลังงาน - ปิโตรเคมีเด่นอีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิอีก 534 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิเพียง 84 ล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิ 6,047 ล้านบาท ยังคงเน้นกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี อย่างโดดเด่น
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ดุลการค้าเดือนเม.ย.ขาดดุลน้อยกว่าคาด: ขาดดุล US$5.75 หมื่นล้าน ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดขาดดุล US$6.02 หมื่นล้าน แต่ขาดดุลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ US$5.56 หมื่นล้าน ทั้งนี้การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.8% mom และนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.3% mom
ยุโรป
กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือรอบใหม่: เจ้าหนี้เตรียมให้เงินช่วยเหลือรอบใหม่ 1.03 หมื่นล้านยูโร จากยอดรวมทั้งหมด 3.21 แสนล้านยูโร หลังการประชุมรมว.คลังอียู
S&P เตือนเงิน GBP อาจไม่อยู่ในสกุลเงินทำสำรองระหว่างประเทศหาก Brexit: หากอังกฤษตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียู "Brexit" อาจะทำให้ค่าเงิน GBP นั้นไม่อยู่ในสถานะที่จะเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศได้ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษที่ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ AAA
จีน
จีนกำหนดค่าเงินหยวนต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554: อัตราแลกเปลี่ยนกลาง ณ วันที่ 25 พ.ค. เท่ากับ 6.5693 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง 0.3% dod หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554
จีนเตรียมหารือถึงช่วงเวลาที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย: การประชุมระหว่างสหรัฐฯ และจีน ประจำปี วันที่ 6-7 มิ.ย.นี้ จีนเตรียมถามสหรัฐฯ ถึงช่วงเวลาที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังมีโอกาสที่เฟดจะขึ้นในการประชุมกลางเดือนมิ.ย.นี้ เพราะทางการจีนต้องการเตรียมตัวถึงผลกระทบดังกล่าวต่อค่าเงินหยวน และตลาดเงิน
เอเชียแปซิฟิก
รมว.คลัง ญี่ปุ่นยืนยันญี่ปุ่นเตรียมขึ้นภาษีเป็น 10% ตามแผน: นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม G7 ระดับผู้นำทางการเงินซึ่งมีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ว่า ญี่ปุ่นเตรียมดำเนินการขึ้นภาษีบริโภคตามกำหนดการเดิมปีหน้า ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีแผนปรับขึ้นภาษีการบริโภค 2% เป็น 10% ในเดือนเม.ย.ปีหน้า แต่ก็ยังไม่มีทิศทางแน่นอน หลังการบริโภคส่วนบุคคลนั้นค่อนข้างซบเซา แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ขยายตัวเล็กน้อยในไตรมาสแรกของปีนี้
ไทย
ส่งออกไทยเดือนเม.ย.กลับมาหดตัวแรงกว่าคาด: กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือนเม.ย.59 พลิกกลับมาหดตัว 8.0% มาที่ 15,545 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้า เม.ย. มีมูลค่า 14,824 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 14.92% ดุลการค้าเม.ย. เกินดุล 721 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกปี 59 (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออก มีมูลค่า 69,374 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 1.24% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 60,464 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 12.73% ส่งผลให้ดุลการค้า เกินดุล 8,910 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530