- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 May 2016 18:50
- Hits: 1204
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกเก็งกำไรตามค่าบวก'
Stock Picks-May 2016 : Fundamental : ADVANC, AOT, BA, LPH, TMT
Dark Horse : FSMART, RS
Fundamental Pick -Today: JASIF(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev : PS 13%, AAV 12%, VGI 11%, BDMS 10%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ โดยมีลุ้นเด้งก่อนลงต่ำต่อ
Support Resistance Stop Loss
SET 1370,1360-50 1390,1400-10 ค่าลบ
SET50 870-860 890-900,910 ค่าลบ
Technical Picks - Today THANI, TTCL, RML, SCI, GLOBAL, BWG, MALEE, TFG
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ขยับขึ้นเล็กน้อย 2.57 จุดปิดที่ 1384.26 โดยนักลงทุนมีการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายบริษัทและกระจายไปหลายกลุ่มอุตสาหกรรม รวมๆ แล้วตลาดช่วงนี้อยู่ในภาวะ Wait & See ทำให้การซื้อก็ไม่แข็งแกร่งแต่การขายก็ไม่มาก ซึ่งตลาดหุ้นภูมิภาคก็เป็นลักษณะเดียวกัน ปัจจัยหนึ่งที่ติดตาม คือ ตัวเลข PMI ภาคการผลิตและบริการของประเทศชั้นนำต่างๆ ทิศทางราคาน้ำมันดิบ รวมถึงกระแสคาดการณ์เรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐก่อนการประชุม 14-15 มิ.ย.นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นในรอบหลายวัน เป็นสัญญาณบวกที่กลับเข้ามาและน่าจะหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียและไทยมีรีบาวด์หลังแกว่งลงมา 4-5 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังผันผวน ทำให้ระยะทางของการปรับขึ้นจะยังจำกัด และนักลงทุนส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะซื้อขายเก็งกำไรรอบสั้นๆไปก่อนในระหว่างที่ยังไม่เห็นสัญญาณบวกที่ชัดเจน การลงทุนหรือเก็งกำไรช่วงนี้ยังคงเน้นเป็นรายบริษัท ส่วนภาพรวมตลาด เราประเมินกรอบล่าง-บนของ SET Index ในระยะ 1 เดือนข้างหน้าไว้ที่ 1380-1370, 1350 จุด และ 1420, 1440-1450 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น JASIF
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ โดยมีสิทธิรีบาวด์ต่อได้ในวันนี้ แนวต้านระยะสั้น 1390-1400, 1410 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ การอ่อนตัวจะมีแนวรับเก็งกำไ 1370, 1360-1350 จุด กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวกและไม่ควรหวัง Gap มาก ส่วนการลงทุน เน้นทยอยซื้อสะสมหุ้นหลักพื้นฐานดีจังหวะราคาอ่อนตัว
สำหรับการ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและมีโอกาสปรับขึ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ THANI, IVL, MALEE, GLOBAL ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ ESSO, RATCH, KAMART, SCI หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ BWG, PACE, KTP หุ้นที่หลุด List -ไม่มี-
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.แข็งแกร่ง
ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 16.6% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 619,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.51 ส่วนราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 9.7%YoY สู่ระดับ 321,100 ดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้อานิสงค์จากตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวและอัตราค่าแรงงานเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ
+ ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นแรง…นำโดยกลุ่มการเงินซึ่งตอบรับการสิ้นสุดขาลงของดอกเบี้ยสหรัฐ
ดัชนี DJIA ปิด +213.12 จุด หรือ +1.22% ดัชนี NASDAQ ปิด +95.28 จุด หรือ +2.00% ดัชนี S&P500 ปิด +28.02 จุด หรือ +1.37% หนุนโดยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นแรงเกินคาด และการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงินซึ่งได้รับผลประโยชน์จากการสิ้นสุดอัตราดอกเบี้ยขาลงและกำลังค่อยๆปรับขึ้น
แรงงานฝรั่งเศสปิดโรงกลั่นทั่วประเทศ...อุปทานหายไป 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน
เจ้าหน้าที่สมาพันธ์สหภาพแรงงานฝรั่งเศส (CGT) ระบุว่า โรงกลั่นน้ำมันทั้ง 8 แห่งของฝรั่งเศสได้ระงับการดำเนินงานในเมื่อวานนี้ เนื่องจากแรงงานได้ทำการผละงานประท้วงกฎหมายปฏิรูปแรงงานที่รัฐบาลผลักดันผ่านรัฐสภาในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีการจำกัดสิทธิของแรงงาน ขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในการทำงาน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และทำให้ฝ่ายนายจ้างสามารถจ้างงานและปลดพนักงานได้ง่ายขึ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่าผลการผละงานนี้ทำให้ฝรั่งเศสสูญเสียศักยภาพในการผลิตน้ำมัน 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนจะกระทบราคาน้ำมันดิบหรือไม่ขึ้นกับระยะเวลาในการผละงาน
+ ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 48.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 48.61 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐสัปดาห์ก่อนจะลดลง ซึ่ง EIA จะรายงานตัวเลขจริงคืนนี้ (เวลาไทย)
- ราคาทองคำร่วงแรง หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐบวกอย่างแข็งแกร่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 22.30 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ระดับ 1,229.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยกดดัน คือ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยออกมาแข็งแกร่งเกินคาดด้วย
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอยู่ในระดับแข็งค่าก่อนการประชุม FOMC
เมื่อพิจารณาจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Cash Index) พบว่ายังคงอยู่ในระดับ 95.6+/- ซึ่งปรับขึ้นมาเป็นเวลา 17 วันทำการต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดของรอบนี้ที่ 91.919 หรือบวกขึ้นมาราว 4% ... สิ่งที่ต้องระวังคือ เมื่อใกล้หรือจบการประชุม FOMC ในกลางเดือนมิ.ย.อาจมีแรงขายแบบ Sell on fact เกิดขึ้นได้
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
ไทย : รัฐลดวงเงินก่อหนี้สาธารณะปี 59 ลง 6.81 หมื่นล้านบาท
ครม.รับทราบการปรับลดกรอบวงเงินบริหารหนี้สาธารณะปี 59 ลงจาก 1.74 เป็น 1.67 แสนล้านบาท หรือลดลง 6.81 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโครงการมอเตอร์เวย์ 2 โครงการของกระทรวงคมนาคมเปลี่ยนจากการกู้ยืมไปใช้งบประมาณรายปีและโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆเปลี่ยนไปใช้วิธีเอกชนร่วมทุน (PPP) รวมทั้งรฟท.ยังไม่สามารถลงนามโครงการรถไฟสายสีแดงมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาทได้ทันในปีนี้
ADVANC (ราคาปิด 152 บาท) : ยืนยันอัตราการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 80% ของกำไรสุทธิ
ราคาหุ้น ADVANC ผันผวนหลังจากมีความชัดเจนว่าจะเป็นผู้ประมูลใบอนุญาต 4G ย่าน 900 MHz เพียงรายเดียวที่คาดว่าจะจบราคาเดียวกับที่ JAS ประมูลได้ที่ 75.6 พันล้านบาท (ตัดจำหน่ายค่าใบอนุญาต 15 ปี @ 5.0 พันล้านบาท/ปี) ทำให้กังวลว่าเงินลงทุนที่ต้องใช้มากขึ้นทั้งจ่ายค่าใบอนุญาตและลงทุนด้านโครงข่าย วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงการแข่งขันตัดราคาที่สูงในอุตสาหกรรมจะทำให้อัตราการจ่ายปันผล (Payout ratio) ของบริษัทจะลดลงหรือไม่
ทาง DBSV ประเมินไว้ว่าอัตราการจ่ายปันผลของ ADVANC จะลดลงจากที่ผ่านมาซึ่งจ่าย 100% ของกำไรสุทธิ แต่จะไม่น้อยกว่า 80% ของกำไรสุทธิ ซึ่งเราประมาณการ EPS ของปี 59-60 ไว้ที่ 11.50 บาท/หุ้น และ 12.0 บาท/หุ้น ตามลำดับ หากให้อัตราการจ่ายปันผลเท่ากับ 90% จะจ่ายปันผล 10.35 บาท/หุ้น และ 10.80 บาท/หุ้น ตามลำดับ คิดเป็น Dividend Yield 6.9% และ 7.1% ตามลำดับ
ในกรณีอนุรักษ์นิยม หากให้อัตราการจ่ายปันผลของปี 59-60 เท่ากับ 80% เงินปันผลจ่ายของปี 59-60 จะอยู่ที่ 9.20 บาท/หุ้น และ 9.60 บาท จะได้ Dividend Yield 6.0% และ 6.3% ตามลำดับ ซึ่งยังคงสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดที่ประมาณ 3.5% และหุ้นก็มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงด้วย ในเชิงปัจจัยพื้นฐานยังคงคำแนะนำซื้อ ADVANC โดยให้ราคาพื้นฐาน 180 บาท ส่วน INTUCH ให้ราคาพื้นฐาน 62 บาท (Discount 15% จาก Target NAV)
PTT (ราคาปิด 295 บาท) : ศาลยังไม่รับคำฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัว PTT ในคดีท่อก๊าซ
ผู้บริหารระดับสูงของ PTT กล่าวว่าขณะนี้ศาลปกครองยังไม่ได้รับคำฟ้องกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินฟ้องหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมทั้ง PTT ในกรณีการโอนท่อก๊าซซึ่งได้รับการกล่าวหาว่าโอนไม่ครบ แต่ศาลฯได้ประกาศไม่รับคำฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 8 รายไปแล้ว เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นพ้นตำแหน่งไปแล้วและไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐตามวิธีการพิจารณาของศาลปกครอง
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]