- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 May 2016 16:53
- Hits: 574
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
กลัว Fed ขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก จากทีท่าของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed ที่เรียงหน้ากันพูดถึงการจะปรับดอกเบี้ยขึ้นในเดือน มิ.ย. และอีก 2-3 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ เสริมปัจจัยลบด้วยตัวเลขดัชนี PMI สำหรับสหรัฐ ยูโรโซน และญี่ปุ่น ล้วนบ่งชี้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในเดือน พ.ค. ยกเว้นเยอรมันที่ขยายตัวดีขึ้น ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่อาจต้านทานกระแสลบของโลกได้ แต่การที่สหภาพยุโรปให้เวลาไทยแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายอีก 6 เดือน ทำให้คลายความยากลำบากในอุตสาหกรรมประมง ชาวประมงไทยและผู้เกี่ยวข้องในระดับรากหญ้า
หุ้นเด่นวันนี้ : CKP (ราคาปิด 2.18 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 3.25 บาท)
เราเลือกบมจ. ซีเค พาวเวอร์ เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ด้วยกลยุทธ์ Defensive play ท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนของตลาดในปัจจุบัน ประกอบกับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในปีนี้จากสถานการณ์ที่เป็นลบจากภัยแล้งเมื่อปีที่แล้ว โดยล่าสุดผู้บริหารเปิดเผยว่าปริมาณน้ำไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 กำลังการผลิต 615 เมกะวัตต์ปัจจุบันกำลังฟื้นตัวและทยอยเพิ่มมากขึ้นในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งมาพร้อมกับหน้าฝนที่กำลังจะมาถึง รวมไปถึงความคาดหวังของปรากฎการณ์ La Nina ต่อจากนี้ในระยะยาวหลังจากผ่านพ้นช่วง El Nino ที่กำลังจะหมดลง ขณะที่ผลประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ที่อยู่ในระดับต่ำของโรงไฟฟ้าโคเจน กำลังการผลิต 117.5 เมกะวัตต์ จะเริ่มรับรู้อย่างเต็มที่ในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้เราเชื่อว่าจะช่วยให้กำไรสุทธิของ CKP ปีนี้ฟื้นตัวโดดเด่น 35% จากปีที่แล้ว ขณะที่แนวโน้มในระยะยาวยังคงสดใส โดยเราคาดหวังจะเห็นการทำระดับสูงสุดใหม่ของกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตทบต้นต่อปีเฉลี่ย (CAGR) ที่ 31% แตะระดับ 2.0 พันลบ. ในปี 2563 จากการทยอยผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้าในมือที่อยู่ในช่วงของการก่อสร้างและพัฒนากว่า 1,560 เมกะวัตต์ ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2563 โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (1,280 เมกะวัตต์) ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมาก ในส่วนของ Price Pattern ของ CKP ยังคงมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดย ยังคงรอการกลับมาเกิด Monthly Buy Signal หากสามารถปิดตลาดรายเดือน ได้เหนือ 2.28 บาท ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ CKP ที่ปัจจุบันมีความแข็งแกร่งจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal นั้น คาดว่ามีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 2.38 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 2.68 บาท ตามลำดับ โดย CKP มีจุด Stop Loss ระยะสั้นในรอบนี้อยู่ที่ 2.12 บาท (แนวต้าน: 2.20, 2.22, 2.26; แนวรับ: 2.16, 2.14, 2.10)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ไทยได้เวลาเพิ่มหกเดือนจัดการประมงผิดกฎหมาย สหภาพยุโรป (อียู) ตัดสินใจให้เวลาไทยอีกหกเดือนในการจัดการปัญหาประมงผิดกฎหมายก่อนจะมีการประเมินในครั้งหน้า กล่าวโดยรองนายกรัฐมนตรี นายประวิตร วงษ์สุวรรณ นับว่าเป็นข่าวดีเนื่องจากอียูยังไม่ได้ให้ใบแดงแก่ไทย แม้ว่ายังคงมีปัญหาในหลายประเด็น แต่อียูได้ประเมินว่ารัฐบาลไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่อย่างเต็มที่ (Bangkok Post)
ลดหย่อนกฎการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากรได้ผ่อนคลายกฎที่เกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยว (VAT) สำหรับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าและบริการแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการยกเลิกการกำหนดทุนจดทะเบียนของบริษัทขั้นต่ำ ซึ่งก่อนหน้าถูกกำหนดไว้ที่ 2 ล้านบาทหากตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และ 5 แสนบาทสำหรับผู้ที่อยู่ในต่างจังหวัด (Bangkok Post)
ADVANC (151 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 195 บาท) ได้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นในการเป็นผู้ประมูลใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์ในวันศุกร์ อีกด้านหนึ่งก็ได้ร่วมมือกับ 20 หอพักราว 4,700 ยูนิตใกล้มหาลัยเพื่อเปิดตัวอินเทอร์เน็ตตามสายแบบพรีเพด ที่เรียกว่า AIS Fibre Dorm Net คาดว่าจะมีลูกค้าอินเทอร์เน็ตตามสายได้ 4 แสนรายและคาดสัดส่วน 10% จะเป็นลูกค้าพรีเพด (The Nation) ความเห็น: เป็นก้าวที่ดีในการครองตลาดทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามสายและมือถือ
ต่างประเทศ
คณะกรรมการเฟดต่างออกมาหนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันจันทร์ โดยนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟียให้ความเห็นว่าเฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางเดือนมิ.ย. นอกเสียจากว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหลุดจากเส้นทางที่เป็นบวก ส่วนนายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกมองว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนจะรับฟังเงื่อนงำความตั้งใจของเฟดอีกครั้ง จากคำแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ พวกเขาจะรอดูประมาณการจีดีพีสหรัฐในไตรมาส 1/59 ครั้งที่ 2 ในวันเดียวกันอีกด้วย (Reuters)
ผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นแตะใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในไม่ช้านี้ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีอยู่ที่ 0.905% ใกล้ระดับดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ 0.920% ส่วนราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีปิดเพิ่มขึ้น 4/32 และผลตอบแทนอยู่ที่ 1.835% ลดลง 0.01% จากเมื่อวันศุกร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเทียบกับเงินยูโรเมื่อวันจันทร์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินในเชิงคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับเงินเยนเนื่องจากข้อมูลการค้าของญี่ปุ่นและการต่อต้านของสหรัฐต่อการแทรกแซงค่าเงินเยนของญี่ปุ่น เงินยูโรล่าสุดปรับตัวลง 0.29% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1190 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์สหรัฐล่าสุดปิดลดลง 0.71% อยู่ที่ 109.36 เยน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเมื่อวันจันทร์ จากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น (Reuters)
ภาคการผลิตสหรัฐได้คืบเข้ามาใกล้ภาวะชะลอตัวในเดือนพ.ค. จากรายงานดัชนี Markit Flash Manufacturing PMI จัดทำโดยสถาบันข้อมูลทางการเงินมาร์กิตว่าดัชนีดังกล่าวอยู่เหนือระดับ 50.0 เพียงเล็กน้อยที่ 50.5 ลดลงมาจากระดับ 50.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าภาวะธุรกิจโดยรวมดีขึ้นเล็กน้อยซึ่งนับว่าต่ำสุดนับแต่เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในเดือน ต.ค. 52 (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลง นำโดยการลดลงของตลาดหุ้นเยอรมนีที่ปรับตัวลดลง 0.74% ขณะที่ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสปรับตัวลดลง 0.66% และดัชนี FTSE 100 ในลอนดอนปรับตัวลดลง 0.32% (Reuters)
Markit รายงานดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและการบริการในยูโรโซนเดือน พ.ค. อ่อนตัวลง อยู่ที่ระดับ 52.9 จาก 53.0 ในเดือน เม.ย. ก่อนหน้า นับเป็นการส่งสัญญาณถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ช้าลง นอกจากนี้หากเทียบจากตัวเลขในไตรมาส 1 ซึ่งอยู่ที่ 53.2 แล้วพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเห็นตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 2 (Markit)
ตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมนีที่แข็งแกร่ง ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการของเยอรมนีในเดือน พ.ค. พุ่งขึ้นแตะ 54.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบห้าเดือน จากระดับ 53.6 ในเดือนเม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งภาคการผลิตและภาคบริการที่ขยายตัวแข็งแกร่ง (Markit)
เยอรมัน มูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือ ธนาคารดอยซ์ เยอรมัน ในวันจันทร์ที่ผ่านมา สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ได้ปรับลดลงอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ไม่มีหลักประกันของธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี ของ ประเทศเยอรมันนี จาก ลงไปสองขั้น สู่ Baa 2 แต่ยังสูงกว่าระดับ Junk ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ (The Wall Street Journal)
เอเชีย :
ญี่ปุ่น PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นร่วงเร็วในเดือน พฤษภาคม Markit Flash สำรวจ Japan Manufacturing PMI ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 47.6 เทียบกับ 48.2 ในเดือนเมษายน เป็นสัญญาณให้เห็นการลดลงเร็วของ PMI นับตั้งแต่ ธันวาคม 2555 (Reuters)
หุ้นจีน ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ตลาดยังคงแนวโน้มขาลง (Bearish) สวนรัฐบาลยืนกรานให้มีมาตรการกระตุ้นต่อไป(Reuters)
เหล็กจีน ราคาไม่เดินหน้าต่อ ตลาดฟิวเจอร์สเหล็กและสินแร่เหล็กของจีน ลดลงไปต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม เหล็กเส้นตลาดฟิวเจอร์สที่เซี่ยงไฮ้ ลดลงสูงสุด 6% สู่ระดับต่ำสุดของรอบการเทรด ณ 1,930 หยวน หรือ 295 เหรียญสหรัฐฯ อ่อนแอที่สุดนับจาก 7 มีนาคม ที่ปรับตัวลง 5.2 % ที่ 1,947 หยวน ส่วนในตลาด Dalian แร่เหล็กปรับตัวลง 6% เป็น 350 หยวนต่อตัน ต่ำสุดนับตั้งแต่ 4 มีนาคม ที่ขณะนั้นลง 5% ที่ 353.50 หยวน(Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันในวันจันทร์ปรับตัวลดลง หลังจากอิหร่านยืนยันว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตและเพราะการลดลงของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐยังคงที่หลังจากลดไปแล้ว 8 สัปดาห์ติด น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 37 เซนต์ ปิดที่ 48.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในกลาง เม.ย. ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 33 เซนต์ปิดที่ 48.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำปรับลดลงสู่จุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ครึ่ง เมื่อคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย แต่ราคาก็ออกมาจากจุดต่ำสุดเพราะช่วงปลายวันมีการปิดสถานะชอร์ตเข้ามาในตลาด ราคาสปอตของทองคำ]fลง 0.1% ไปปิดที่ 1,250.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากหล่นลงไปถึง 1,242.63 ดอลลาร์สหรัฐ จุดต่ำสุดนับแต่ 28 เม.ย. (Reuters)
ทองแดงร่วงลงในวันจันทร์ สู่จุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน มิ.ย. ทำให้กลับมากังวลเรื่องอุปสงค์ที่อ่อนแอของจีนที่เป็นผู้ใช้รายใหญ่สุด ราคาทองแดงอ้างอิงในตลาด LME ปิดลดลง 0.4 % ที่ 4,562 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หลังลงไปแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 4,540 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลาง ก.พ.59 (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331