- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 May 2016 16:49
- Hits: 476
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET lndex: แนวโน้มลงทดสอบ 1360
SET lndex: 1380.48 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1380 จุดหลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1390 จุดลงไป แต่มูลค่าการซื้อขายยังไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวลดลงอยู่ในกรอบจำกัด ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1360 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
โดยที่หุ้น PTT ที่เริ่มปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นลงไป น่าจะเป็นตัวกดดันให้มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และมีแนวรับถัดไปที่ 280 และ 270 เป็นความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง
แนวต้าน : 1385 และ 1388
แนวรับ : 1380** และ 1374
PTT = 292 / 297, lVL = 30.50 / 31.00, TRUE = 7.30 / 7.40, SOLAR = 4.40 / 4.60, AOT = 390** / 394
Singha Estate (S TB; THB 5.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 5.70 และ 5.80
แนวรับ : 5.25 และ 5.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 5.00 ที่สร้างฐานเอาไว้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ฟื้นตัวเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ S โดยมีแนวรับที่ 5.25 และ 5.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.70 และ 5.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.00 ลงไป
Seafco (SEAFCO TB; THB 9.80) - ซื้อ
แนวต้าน : 10.50 และ 10.70 / แนวต้านสำคัญ 12.00
แนวรับ : 9.80 และ 9.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เริ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ยังสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้ต่อเนื่อง ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
MACD ฟื้นตัวทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ SEAFCO โดยมีแนวรับที่ 9.80 และ 9.70 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.50 และ 10.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.35 ลงไป
SET50 Index Futures
S50M16 เคลื่อนไหวในกอรบแคบต่ำกว่าระดับ 880 หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 885 ลงไป ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 867-870 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดระดับ 865 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 850 เป็นเป้าหมายในการปรับตัวลดลง
แนวต้าน : 878 และ 880
แนวรับ : 874 และ 870
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50M16 โดยมีแนวต้านที่ 878-880 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 867-870
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 886 กลับขึ้นไป
ITDM16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง และจุดต่ำสุดเดิมที่ 6.30 ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 7.50 ซึ่งแต่เราคาดว่า โครงสร้างการเคลื่อนไหวในระยะยาวน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวเหนือระดับ 6.30 กลับขึ้นไป
แนวต้าน : 6.60 และ 6.70
แนวรับ : 6.44 และ 6.40
คำแนะนำ : เราแนะนำให้ Open Long ใน ITDM16 ที่แนวรับ 6.40-6.44 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.80 และ 7.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDM16 ปรับตัวลดลงหลุด 6.28 ลงไป
IRPCM16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 5.00 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงไปทดสอบแนวต้านที่ 5.25-5.30 แรงกว่าที่คาดไว้ แต่ยังคงมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.70 และ 4.50 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว
แนวต้าน : 4.94 และ 5.00
แนวรับ : 4.80 และ 4.70
คำแนะนำ : เราแนะนำให้ Open Short ใน IRPCM16 ที่แนวต้าน 4.94-5.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.70 และ 4.50
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCM16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 5.10 ขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET....ซึมลง
ทิศทางดัชนี SET เปิดขึ้นมาในอาทิตย์นี้ ยังคงอยู่ในภาวะซึมตัว หลังตลาดรับข่าวการประกาศงบ Q1/16 โดยหลังจากนี้ทิศทางดัชนี SET น่าจะยังอยู่ในภาวะซึมลงต่อ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศอย่างสหรัฐ เริ่มมีแรงกดจากความกังวลว่าทางธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐซึมตัวลงเรื่อยๆ ส่วนราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวขึ้นลงตามตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐ โดยยังไม่สามารถขึ้นทะลุยืนเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ได้ หลังตัวเลขหัวขุดเจาะของสหรัฐเริ่มนิ่ง ขณะที่ทางอิหร่านออกมาบอกว่าปริมาณการผลิตของกลุ่ม OpEC จะเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านบารเรล์ต่อวันเป็น 2.2 ล้านบารเรล์ต่อวัน
คาดทิศทางดัชนีในอาทิตย์นี้หรือถึงปลายเดือน น่าจะยังซึมลงต่อเนื่องจากการไร้ปัจจัยหนุน โดยปัจจัยใหม่ๆทั้งเชิงบวกและลบ ยังไม่ปรากฏ หากจะมีและเป็นตัวเลขสำคัญ คือ การประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ดังนั้นเราจึงมองว่าดัชนี SET จะลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1350 จุด หากไม่หลุดจะรีบาวน์กลับ แต่หากหลุด 1350 จุด ดัชนีอาจลงไปถึงกรอบ 1320-1300 จุดได้ สำหรับปัจจัยหนุนตลาดในตอนนี้ คือ ราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจภายในยังทรงตัวและแนวโน้มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในครึ่งปีหลัง ส่วนปัจจัยกดดันตลาด คือ อัตราการทำกำไรของตลาด (EpS growth) ยังอ่อนแอ
กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่ายังคึกคัก ซึ่งดูจากการปรับแนวโน้มการทำกำไร (EpS) ของนักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ยังกระจุกอยู่ในกลุ่ม ค้าปลีก อาหาร โยงท่องเที่ยว พลังงานและปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มที่ถูกลดแนวโน้มการทำกำไรและราคาเป้าหมายลง คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และสื่อสาร ราคาหุ้นในกลุ่มที่ถูกปรับแนวโน้มกำไรและราคาเป้าหมายขึ้น ส่วนใหญ่รับข่าวไปเกือบหมดแล้ว สังเกตุจากราคาหุ้นเทียบราคาเป้าเหมายเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์ ส่วนราคาหุ้นกลุ่มที่ถูกลดก็คล้ายๆกันคือ ราคาลงมารับข่าว ดังนั้นเราจึงมองว่าดัชนี SET จะซึมตัวและเริ่มแกว่งในกรอบแคบ จนกว่าจะเห็นปัจจัยบวกและลบ
ทิศทางดัชนีในภูมิภาคประจำเดือน พ.ค. ถึงปัจจุบัน ปรากฏว่า ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ต่างปรับตัวลง แต่ไม่แรงอย่างที่คาดไว้เดิม ซึ่งอาจยังต้องดูไปถึงสิ้นเดือน ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ขึ้นได้มากที่สุดในตลาดหุ้นไทย คือ กลุ่มอาหารเครื่องดื่ม ไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านและค้าปลีก ส่วนกลุ่มใหญ่ต่างปรับตัว
สภาพการลงทุนในช่วงนี้จะเริ่มมีหุ้นให้เล่นน้อยลง หากจะมีก็คงเป็นหุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงาน Q1/16 ออกมาดีกว่าคาดหรือหุ้นที่นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มแนวโน้มการทำกำไร ส่วนหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักอย่างพลังงาน สื่อสาร ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีกและโยงท่องเที่ยว จะซึมตัวลงและมีแรงขายทำกำไร วันนี้เรามองว่าดัชนี SET จะยังมีแนวโน้มซึมลงหลังดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง ขณะที่ราคาน้ำมันยังทรงๆ ตัว มองวันนี้มีแนวรับที่ 1376-1372 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1385-1389 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ BDMS และ JAS
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,380.48 จุด ลดลง 1.21 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 16,115.76 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ หลังตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นลบ เนื่องจากตลาดกังวลเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนออกมาสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด (ศุกร์นี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งตัวลง ภาพรวม SET มีสัญญาณขายต่อเนื่อง 1) โดยค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงแรง จากความกังวลเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด 2) การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในประเทศไทย 3) ทางเทคนิค SET ยังไม่สามารถสร้างสัญญาณการกลับตัวได้ ซึ่งก็คือต้องกลับไปยืนเหนือ 1393 จุด ทำให้ภาพรวมยังต้องอยู่ในโหมดระมัดระวังตัวต่อไป คือเน้นเล่นสั้นเล่นรอบเก็งกำไร โดยจะยืนยันสัญญาณขาย ถ้า SET ปรับตัวหลุดต่ำกว่าระดับ 1380 จุดลงไป และ SET จะเข้าสู่ภาวะตลาดหมี โดยมีกรอบการลงที่ 1352 จุด หุ้นน่าสนใจและมีสัญญากลับตัว TWPC (รับ 7.50, ต้าน 7.85 บาท), JMART (รับ7.30 บาท,ต้าน 7.60,7.85 บาท), TASCO (รับ 24.30 บาท, ต้าน 25.25 บาท)
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Singha Estate (S TB; THB 5.25) - ซื้อ
Seafco (SEAFCO TB; THB 9.80) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]