- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 May 2016 16:44
- Hits: 578
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ลงเพื่อสร้างฐานสำหรับรอบขึ้นใหม่ ดังนั้นเลือกหุ้นทยอยซื้อ
กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET จะยังมีกรอบบวกจำกัด และมีแนวโน้มที่จะอยู่ระหว่างแกว่งตัวลงต่อเนื่อง เพื่อรอสร้างฐานสำหรับรอบขึ้นครั้งใหม่ตามคาดเดิม ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วง SET ลบต่อไป แล้วเน้นถือเพื่อลุ้นรอบขึ้นจริงจังในช่วงถัดไปได้ โดยไม่ควรรีบร้อนขายทำกำไรเร็วเกินไปนัก
หุ้นเด่นทางเทคนิค : DELTA, MINT, GLOW(buy back)
แนวโน้ม : SET ยังมีกรอบบวกจำกัด และถูกแรงขายช่วงบวกกดดัน ทำให้ดัชนียังอยู่ในช่วงแกว่งตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า (14-15 มิ.ย.) ยังกดดัน หลังมีเจ้าหน้าที่เฟดออกมาสนับสนุนการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เริ่มอ่อนแอลงหลังจากดีดตัวขึ้นมามากพอควรในรอบที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดตลาดน้ำมันถูกกดดันจากข่าวอิหร่านที่ประกาศว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิต ทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกจะมีนัดประชุมหารือในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ก็ตาม โดยตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ก็ปรับตัวลง ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวผันผวน โดยแม้ว่าจะแกว่งด้านบวกเกือบทั้งวัน แต่สุดท้ายก็ยังย้อนลงมาปิดสิ้นวันเป็นลบเล็กน้อย ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดทำการด้วยการปรับตัวลงอีกครั้ง ซึ่ง FSS คาดว่าน่าจะกดดัน SET ให้แกว่งตัวลงต่อเนื่องได้ตามคาด อย่างไรก็ตามด้วยสภาพคล่องในตลาดที่ยังมีมากพอควร รวมทั้งความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้มีโอกาสที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงตลาดในช่วงปรับลงได้ ก่อนจะลุ้นผลักดันให้ดัชนีมีจังหวะแกว่งบวกขึ้นอีกครั้งในช่วงถัดไป ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ทยอยซื้อลบ แล้วเน้นถือต่อ
แนวรับ 1380-1375, 1370-1365 จุด
แนวต้าน 1384-1386 , 1388-1392 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$297 ล้าน ไหลเข้าไต้หวันประเทศเดียวกว่า US$276 ล้าน ที่เหลือเป็นการไหลเข้าอินโดนีเซีย และไทยที่ละ US$13 ล้าน ขณะที่ไหลออกฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้ US$4.6 ล้าน และ US$2.4 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนในภูมิภาคมีทิศทางไหลออกหลังจากมีเสียงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหนาแน่นขึ้นตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดสาขาต่างๆที่ให้สัมภาษณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่เหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) บรรยากาศการลงทุนระยะนี้ไม่เอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยง นักลงทุนต่างรอคำพูดของประธานเฟด Yellen ศุกร์นี้ว่าจะส่งสัญญาณใดๆหรือไม่ รวมถึงรอดูตัวเลข GDP (รายงานครั้งที่ 2) และการจ้างงานของสหรัฐ 27 พ.ค. และ 3 มิ.ย. รวมถึงคำแถลงของ Yellen อีกครั้งในวันที่ 6 มิ.ย. ท่ามกลางบรรยากากศ Risk off mode เม็ดเงินยังคงไหลเข้าพันธบัตรเงินดอลลาร์ รวมถึงเงินเยน ซึ่งเงินเยนที่แข็งค่ากดดันดัชนีนิกเกอิให้ -0.7% เช้านี้ สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วงที่บรรยากาศโดยรวมเป็นลบ กลุ่มที่ประคองตัวได้ดีกว่ากลุ่มอื่นมักเป็นกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ โรงแรม และโรงพยาบาล
(-) ราคาน้ำมันปิดลบหลังอิหร่านเพิ่มการส่งออก จาก 2 ล้านบาร์เรล/วัน เป็น 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงฤดูร้อนนี้ ทำให้ความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตในการประชุม OPEC วันที่ 2 มิ.ย.นี้เลือนลาง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากไฟไหม้ที่แคนนาดาเริ่มคลี่คลายหลังเจ้าหน้าควบคุมไฟป่าได้แล้ว
(-) สินเชื่อเดือน เม.ย. ยังซบเซา ขยับขึ้นเพียง 0.05% M-M โดย BAY มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากสุด +1.3% M-M ตามด้วย TMB +0.9% M-M ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อภาคธุรกิจ SME และ Corporate และเป็นสินเชื่อระยะสั้น ส่วน KTB -0.7% M-M ขณะที่ธนาคารเช่าซื้อยังมีสินเชื่อที่ลดลงทั้ง KKP (-1.7% M-M) และ TISCO (-1.3% M-M) จากการชะลอตัวของยอดขายรถยนต์ ยอดรวมสินเชื่อ 4M16 ยังลดลง 0.58% YTD ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แนวโน้มกำไรใน 2Q16 มีทิศทางลดลง Q-Q จากการตั้งสำรองที่ยังสูง และยังถูกกระทบจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว เรายังคงแนะนำให้ชะลอการลงทุนในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ไปก่อน เราชอบธนาคารกลาง-เล็กมากกว่า เนื่องจากสัญญาณทั้งสินเชื่อและคุณภาพหนี้ดีขึ้น Top Pick ยังเป็น TISCO (ราคาพื้นฐาน 52 บา?)
(+) BEM การประชุมครม.วันนี้จะพิจารณาข้อพิพาทค่าทางด่วน 8 พันล้านบาท (เงินต้น 4.4 พันล้านบาท + ดอกเบี้ยที่คิดเป็นรายวันตั้งแต่ เม.ย. 2008) ที่อนุญาโตตุลาการชี้ขาดตั้งแต่ต้น มี.ค. ให้กทพ.จ่ายค่าชดเชยให้ BEM ทางเลือกมี 3 ทางคือ 1. กทพ.ชำระเป็นเงินสด 2. หากไม่มีเงินจ่าย เปลี่ยนเป็นการขยายอายุสัมปทานแทน (BEM ขอต่อ 10 ปี) 3. ไปสู้คดีในศาลปกครอง เราคิดว่าการขยายอายุสัมปทานเป็นไปได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ กทพ. และยังได้ส่วนแบ่งรายได้ (60%) จาก BEM ด้วย สำหรับเม็ดเงิน 8 พันล้านบาทคิดเป็น 2.5 เท่าของกำไรของ BEM หรือคิดเป็น 0.53 บาท/หุ้น ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเรามองเป็นโอกาสในการซื้อ ไม่เกี่ยวกับคดีดังกล่าว แต่เป็นโอกาสในการได้งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม (คาดเปิดประมูล 2H16) ซึ่งจะเชื่อมกับสายสีน้ำเงินที่ให้บริการอยู่
(0) PLANB การประกาศขายซองประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 489 คันของ ขสมก. และจะเปิดประมูล 8 ก.ค. นี้หลังจากล่าช้ามาจากปีก่อน จะช่วยหนุนการขายสื่อโฆษณารถเมล์ของ PLANB ซึ่งทำรายได้ประมาณ 9% ของรายได้รวม อย่างไรก็ตาม แม้ราคาพื้นฐานที่ 7 บาท (รวมรายได้โฆษณาจากรถเมล์และสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลใน 4 ปีข้างหน้าไว้แล้ว) จะมี upside จากราคาหุ้นปัจจุบัน แต่แนะนำเพียงถือจากตลาดโฆษณาโดยรวมที่ยังถูกดดันจากภาวเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางโดยนักลงทุนยังจับตาดูสัญญาณหรือตัวชี้วัดเพิ่มเติมในเรื่องช่วงเวลาการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบหลังราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมากระจัดกระจาย ขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในอนาคตยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตา
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบเช่นกันตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นโดยนักลงทุนยังตับตาดูเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED อย่างใกล้ชิด
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างค่อนมาทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 35.62-35.75 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 0.33 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังอิหร่านจะเพิ่มปริมาณการผลิต ขณะที่ยังมีแรงหนุนได้บ้างจากรายงานที่ว่าสต๊อกน้ำมันดิบ ณ จุดส่งมอบของสหรัฐฯปรับตัวลดลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ขยับลง 1.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,251.50 ดอลลาร์/ออนซ์ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์จากกระแสคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. แต่ยังมีแรงหนุนจากการทำ Short-Covering ในช่วงท้ายตลาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 พ.ค. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (พ.ค.)
25 พ.ค. ไทย: ดุลการค้า (เม.ย.)
- สิงคโปร์: 1Q16 GDP
27 พ.ค. - ไทย: ประมูลคลื่น 900MHz
- ไต้หวัน: 1Q16 GDP (ตลาดคาด -0.8% Y-Y เท่า 4Q15)
- สหรัฐ: 1Q16 GDP (ตลาดคาด +0.8% annualized Q-Q ดีขึ้นจาก 4Q15 ที่+0.5%)
30 พ.ค. - สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day
31 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.
- อินเดีย: 1Q16
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- สหรัฐ: ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller (มี.ค.)
1 มิ.ย. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- จีน: Manufacturing and Non-manufacturing PMI (พ.ค.)
- ออสเตรเลีย: 1Q16 GDP
- สหรัฐ: Fed Beige Book
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch