- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 May 2016 17:40
- Hits: 3935
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เน้นจังหวะย่อทยอยสะสมหุ้นที่คาด Earning momentum เด่น (CPF) ผสานกลุ่มที่คาดเข้าคำนวณ SET50/100 รอบใหม่ (BCH, MTLS)
Nomura : Key Factors
(+) EU Econ: คาด PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน, เยอรมนี ฝรั่งเศส วันนี้ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
(+) Ex Factor: ผลการประชุม G7 หนุนการใช้นโยบายทางการคลังเพิ่มเติม
(+/-) US Econ: ยอดการขายบ้านมือสอง ที่ 5.45 ล้านยูนิต ดีกว่าคาดที่ 5.4 ล้านยูนิต
(*) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F ที่ 14.81 เท่า ใกล้เคียง LT Avg PER 14.7 เท่า
(*) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 131 ลบ., Short Future 10172, ซื้อ Bond 9379 ลบ.
(*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวันศุกร์ WTI -0.85% สู่ $47.75/bbl ขณะที่เช้านี้รีบาวน์สู่ 48.15
(-) Ex Factor: FED Minutes มีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจUS หนุนโอกาสขึ้นดอกเร็วขึ้น
SET PER 16F: CNS 14.85x (EPS 93.25) vs Cons.14.81x (LT-Avg 14.7x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 93.25, PER16.25x)
Nomura Daily Top Picks: CPF, BCH, MTLS
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ย่อแล้วดีด ในกรอบแนวรับ 1381/1373จุด และแนวต้าน 1392/1400 จุด การรายงานดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา (วันศุกร์ที่ผ่านมายอดการขายบ้านมือสอง สหรัฐฯ ขยายตัวสู่ระดับ 5.45 ล้านยูนิต ดีกว่าคาดที่ 5.4 ล้านยูนิต) ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่หนุนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในปีนี้อาจเร่งตัวขึ้นมากกว่าเดิม สอดคล้องกับผลสำรวจจาก Bloomberg Consensus ในสัปดาห์ทีผ่านมาที่บ่งชี้ว่าโอกาสในการประชุม FED เดือน มิ.ย. ขยับขึ้นสู่ระดับ 32% จากเพียงแค่ 12% ในสัปดาห์ก่อนหน้า ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง-ยาว ยังคงน่าสนใจอยู่ หลังจากการประชุม G7 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมยังคงพยายามกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้น โดยแนะผ่านการใช้นโยบายทางการคลังให้มากขึ้น รวมถึงคาดการเลื่อนการขึ้นภาษีผู้บริโภคของญีปุ่น (Consumption Tax) จาก เม.ย. 2017เป็น เม.ย. 2019 ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside Risk ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ หลังจากผ่านช่วงการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยช่วง 1Q16 ไปแล้ว
หากมาพิจารณาภาพโดยรวมจะพบว่า จากบริษัทจดทะเบียนที่ส่งงบการเงินทั้งหมด 514 บริษัท พบว่ามียอดขายสุทธิรวมทั้งสิ้น 2.38 ล้านล้านบาท (-6.17%y-y) แม้ว่าจะปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ดีหากมองในเชิงของกำไรสุทธิกลับพบว่ากำไรปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 2.33 แสนล้านบาท (+0.96%y-y, +28.43%q-q) ซึ่งมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งได้รับอานิสงค์บวกจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวลดลง เช่นต้นทุนด้านพลังงาน ส่งผลบวกต่อภาคธุรกิจโดยรวม โดยหมวดธุรกิจที่มีการฟื้นตัวเด่น ส่วนใหญ่อยู่ใน ภาคการบริการ และอุปโภคบริโภค เช่น หมวดขนส่ง, อาหารและเครื่องดื่ม, อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง, เหล็ก, พาณิชย์, บรรจุภัณฑ์, แฟชั่น, ของใช้ในครัวเรือนสำนักงาน และบริการเฉพาะกิจ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นนี้อาจนำไปสู่โอกาสในการปรับลดกำไรตลาด (Market EPS) ของนักวิเคาะห์ในช่วงที่ผ่านมา น่าจะเข้าสู่จุดสิ้นสุดลงแล้ว กระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในระยะกลาง-ยาว หนุนการฟื้นตัวของ SET Index ในช่วงถัดไป
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Short-Term Strategy : สลับมาเน้นหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไรช่วงปี 2016 ยังคงปรับตัวขึ้นโดดเด่น นำโดย CPF, STA, KAMART, ERW, BWG, XO, PSTC ผสานกลุ่มที่มีสตอรี่หนุนเด่น เช่น หุ้นที่คาดจะเข้าคิดคำนวน SET50/100 รอบใหม่ ดังนี้ กลุ่มที่คาดเข้า SET50 (BEM, SPRC, KCE, MTLS, GPSC) และ กลุ่มที่คาดเข้า SET100 (SPRC, MTLS, SUPER, GLOBAL, BCH, TVO, TKN, IFEC, JWD, ERW) แนะทยอยสะสม ขณะที่กลุ่มที่คาดจะถูกนำออกจาก SET50 (TASCO, ITD, JAS, SCCC, M) และ กลุ่มคาดนำออกจาก SET100 (RS, SGP, TTCL, SCN, SCCC, M, PLAT, TICON, UV, SAMTEL) แนะนำหลีกเลี่ยง ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว เน้น Portfolio Top picks MAY 2016 PTTEP, ERW, KAMART, BWG, TVT, MAJOR ส่วนสำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: CPF, BCH, MTLS*
Mid-Long Term Strategy : แนวโน้มตลาดเดือน พ.ค. 2016 Fund Flow น่าจะไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเอเซียและกลุ่มโภคภัณฑ์-ทองคำ หลังเศรษฐกิจของ DM ยังมีความเสี่ยง ประกอบกับ Nomura คาด GDP 1Q16 จะฟื้นตัวเด่น 3.5%y-y ดีกว่าตลาดคาดอาจทำให้เดือน พค นี้ SET แกว่งขึ้นดีกว่า Consensus คาด โดยเราให้กรอบต้าน 1453/1475จุด สำหรับหุ้น Big Cap ที่คาดนำตลาดขึ้น ยังเป็น Theme Inflation Hedge ที่ราคา Product ขึ้นต่อเนื่องทั้ง น้ำมัน, ฝ้าย, น้ำตาล, หมู ไก่ กุ้ง และถั่วเหลือง (PTTEP, PTT, IVL, BRR, CPF, GFPT, TVO) ผสานกลุ่ม ICT แนะนำ INTUCH, ADVANC(Downside Limited) และหุ้น Mid-Small Caps ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว เช่น 1) กลุ่มที่คาดกำไรเด่น (TVT, CI, KAMART, XO, ERW, SC, SAWAD, MTLS, AAV, ROBINS) และ2 ) กลุ่มพลังงานทางเลือก (BWG, PSTC, GUNKUL, TPCH) และ 3)หุ้น Seasonal ที่แนวโน้มกำไรดีขึ้น แนะนำ MAJOR สำหรับเดือนนี้เรามีการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนใหม่ โดยลดส่วนเงินสดลงจาก 22.5% เหลือ 12.5% ไปเพิ่มให้ทองคำเป็น 12.5% สำหรับ Portfolio Top picks MAY 2016 PTTEP, ERW, KAMART, BWG, TVT, MAJOR และ DARK Horse ADVANC, IVL, CI, PSTC
Investment Theme:
· 2016 AEC Connectivity : WISE
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT
. 2Q16 Top Picks : PTTEP, SCC, SCB, BDMS, CK, PTT, IVL, VIBHA
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CPF (TP35*): Support 28/26.5 Resistance 30/33
Theme: Consumer Spending Recovery
Earning Outlook : คาดผลประกอบการ 2Q16F-3Q16F มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง จากคาดกำไรสุทธิปี 16F จะขยายตัว 43% y-y
Valuation : ปรับราคาเป้าหมายขึ้นที่ 35 บาท อิง PER16F 16.2x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 18.6x มี Upside 20.7%
Catalyst : จากธุรกิจกุ้งที่ฟื้นตัว (high season ในไตรมาส 2) และแนวโน้มราคาสุกรในประเทศปรับตัวขึ้น หนุนผลประกอบการ 2Q16F มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
BCH (TP12.2*): Support 10.2/10 Resistance 11/11.4
Theme: Earnings Momentum
Earning Outlook : คาดกำไร 2Q16F สามารถเติบโต y-y, q-q ตามการเพิ่มขึ้นของลูกค้าเงินสดและประกันสังคม และผลบวกจาก Economy of scale ของ โรงพยาบาล เวิลด์เมดิคอล เซ็นเตอร์ (WMC)
Valuation : แนะนำ “ซื้อ”ที่ 12.20 บาทต่อหุ้น โดยปัจจุบันซื้อขาย PER16F ที่ 39x ถูกกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มการแพทย์ที่ PER16F 42x
Catalyst : คาด BCH จะเข้าคำนวณดัชนี SET100 รอบถัดไป เป็นอานิสงค์เชิงบวกต่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
MTLS (TP25*): Support 19.7/19.3 Resistance 20.7/21.3
Theme: Earnings Momentum
Earning outlook : แนวโน้มกำไร 2Q16F สามารถเติบโต y-y, q-q จาก NIM ที่ปรับตัวดีขึ้นและต้นทุนทางการเงินลดลง หนุนกำไรสุทธิ 16F เติบโตสูงถึง 50% y-y
Valuation : ราคาเป้าหมาย 25.0 บาท ปัจจุบันซื้อขาย PER16F ที่ระดับ 34.3x มี Upside 25.6%
Catalyst : คาด MTLS จะเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 รอบถัดไป เป็นอานิสงค์เชิงบวกต่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)