- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 May 2016 17:33
- Hits: 1270
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (16-20 พฤษภาคม 59)
SET ปิดปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน จากแรงกดดันของความกังวลต่อประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED แม้ว่าจะได้รับผลดีจากการรายงาน GDP ไตรมาส 1 ที่ออกมาในระดับดีก็ไม่สามารถพยุงดัชนีได้ ปิดที่ 1385.86 ลดลง -8.83 จุด -0.63%WoW
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) ความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ หลังการรายงาน GDP ไตรมาส 1 ออกมาน่าพอใจเมื่อสัปดาห์ก่อน และการดำเนินแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
(-) ความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐมีเพิ่มขึ้น หลังประธาน FED หลายสาขา มีความเห็นสนับสนุนให้ FED ขึ้นดอกเบี้ย เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
(-) ราคาน้ำมันมีแนวโนัมปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อปัญหา Oversupply ในตลาดโลก
(-) นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ กล่าวว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาช่วง 4 YTD ติดลบ -8%YoY ประเมินไตรมาส 2 จะยังคงติดลบ คาดทั้งปี ติดลบอยู่ที่ 9-10%
(+/-) นิด้าโพล สำรวจความเห็นของประชาชนพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 43.28% ระบุว่ามีความสุขเท่าเดิม 37.68% ระบุว่ามีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะบ้านเมืองสงบเรียบร้อย และประชาชนส่วนมาก 46.5% ยังคงให้โอกาส คสช.แก้ปัญหาประเทศต่อไปอีก 2 ปีขึ้นไป
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซนในวันอังคาร
การแถลงผลงานครบรอบ 2 ปีของคสช. ในวันที่ 25 พ.ค.
การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศจี 7 (G7 summit) ที่อิเซ-ชิมะ ในญี่ปุ่น เป็นเวลา 2 วันช่วง 26-28 พ.ค.
การเปิดประมูล 4G รอบใหม่ วันที่ 27 พ.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจไทยสัปดาห์ตัวเลขการส่งออก และยอดขายรถยนต์
ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ สหรัฐ PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น, ยอดขายบ้านใหม่ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงคลัง ด้านยุโรป มาร์กิต PMI และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ความเห็นของประธาน FED สาขาต่างๆ ต่อแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ
การประชุม OPEC ในวันที่ 2 มิ.ย. ต่อแนวโน้มกำลังการผลิต
ความคิดเห็น
ประเมินภาพรวมดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อในสัปดาห์นี้ ในกรอบที่จำกัดมากขึ้น โดยประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการลงทุน เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ยังคง ได้รับแรงกดดันจากปัญหา Over supply ด้านในประเทศ ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นหลัง GDP ไตรมาส 1 ได้ตามเป้า ติดตามการรายงานตัวเลขการส่งออกในสัปดาห์นี้
กลยุทธ์การลงทุน (23-27 พฤษภาคม 59)
เรายังคงเน้นการลงทุนในหุ้นรายตัวมากกว่า จากภาพรวมดัชนีที่ยังคงอ่อนแอ โดยเน้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศเป็นหลัก และหุ้น Defensive อย่างโรงพยาบาล
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 23-27 พ.ค. 59
ภาพรวม ไม่น่าไว้ใจ
SET Closed 1,385.86 จุด
High: 1,411.02 จุด
Low : 1,384.12 จุด
Resistant : 1,395 , 1,412
Support : 1,375 , 1,352
SET ปิดตัวต่ำลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบว่าในระยะต้นสัปดาห์มีความพยายามขึ้นทดสอบแนว 1412 จุดอีกครั้งแต่ไม่สามารถผ่านได้ และมีแรงขายกดดันออกมา ทั้งนี้ทางเทคนิคส่งสัญญาณการเกิด Negative divergence ก่อนหน้าทำให้การขึ้นมีข้อจำกัด ขณะที่การอ่อนตัวลงเมื่อปลายสัปดาห์ทำให้สัญญาณในหลายเครื่องมือดูแย่ลง และต้นสัปดาห์นี้หากไม่สามารถดีดตัวกลับไปเหนือ 1,390 ขึ้นไปได้จะกดดันให้ MACD ตัดลงเป็น sell signal ในระยะ week อีกครั้ง ซี่งจะทำให้กรอบการเคลื่อนไหวเปลี่ยนจาก Mid to High กลายเป็น Mid to Low แทน ดังนั้นหาก SET หลุดต่ำกว่า 1,380 จุด จะมีสัญญาณขายที่แข็งแรงขึ้น
กลยุทธ์
1.เน้นเก็งกำไรระยะสั้นมาก ถือครองหุ้นปริมาณน้อยลง
2.ปรับกลยุทธ์เป็นหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก ลดขนาดหุ้นใหญ่มีแต่น้อย
3.ยิ่งปิดต่ำ ยิ่งส่งสัญญาณไม่ดี แต่หากปิดสูงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดสัปดาห์เก็งกำไรหุ้นได้มากขึ้น
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
BCH
รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ขยายตัว +64% สู่ 156 ล้านบาท
คาดหมายการฟื้นตัวของผลประกอบการปี 59 จากรายได้กลุ่มประกันสังคม และ ผลงานของสาขา World Medical Center ที่ดีขึ้น
โอกาสการพลิกกลับมามีกำไรของ World Medical Center เป็น Upside ที่สำคัญในระยะยาว
BCH
ราคาปิด 10.50 บาท
แนวต้าน 11.50 บาท
แนวรับ 10.30 บาท
แนว Stop Loss เมื่อราคาหุ้นใกล้หลุดแนว 10.00 บาท
กราฟ BCH เริ่มฟอร์มตัวเป็น U-curve หลังจากย่อตัวปรับฐานถึงบริเวณ 10 บาท ซึ่งเป็นแนว Oversold ทางเทคนิค โดยการดีดตัวเริ่มเกิดขึ้นช้าๆ จนกลายเป็นแนวโน้มเชิงบวก และมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นไปยังแนวสูงสุดใหม่ที่ 11.50 บาทไม่ยาก
กลยุทธ์
1.แนะนำซื้อเก็งกำไร ตามจังหวะ
2.หากอ่อนตัวให้เข้ารับ เนื่องจากสัญญาณเทคนิคลงต่ำแล้ว
ทีมวิเคราะห์