WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ช่วงนี้เน้นเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบบวกต่อไป...

  กลยุทธ์ : หลังจากสัปดาห์ก่อน SET พยายามรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งบวก แต่กรอบบวกยังค่อนข้างจำกัด และมีแรงขายช่วงบวกกดดันอยู่อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว เราเริ่มเห็นดัชนีปรับตัวลงจริงจังมากขึ้น ทำให้ FSS ยังคาดหมายโอกาสแกว่งพักตัวลงต่ออีกสักระยะมากกว่า ก่อนที่จะมีสิทธิพลิกกลับไปขยับขึ้นรอบใหม่ในช่วงถัดไปได้ตามคาดเดิม ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วง SET ลบต่อไป โดยใช้วิธีเลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยเข้ารับช่วงตลาดปรับลง จากนั้นแนะนำให้เน้นถือเพื่อลุ้นรอบขึ้นจริงจังในช่วงถัดไปได้ โดยไม่ควรรีบร้อนขายทำกำไรเร็วเกินไปนัก
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEAUTY, RML, ROBINS(buy back)
  แนวโน้ม : SET ติดวันหยุดเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านั้นดัชนีเริ่มมีจังหวะปรับตัวลงแรงพอควร แต่เมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่สามารถพลิกกลับมาปิดเป็นบวกได้ ทำให้ตลาดหุ้นไทยต้นสัปดาห์นี้อาจมีจังหวะรีบาวด์กลับไปแกว่งบวกได้บ้างเช่นกัน หลังจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดของสหรัฐลงบ้าง เพราะมีตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสเกินคาดของสหรัฐช่วยหนุนแทน แต่การอ่อนแอลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ยังกดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้กลับมาปรับตัวย้อนลบกันอีกครั้ง ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบบวกของ SET น่าจะยังค่อนข้างจำกัด และมีลุ้นแนวโน้มที่จะแกว่งตัวลงต่อได้อีกมากกว่าดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วงตลาดเป็นลบต่อไป ไม่ต้องรีบร้อนไล่ซื้อในช่วงบวกมากนัก จากนั้นแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่อง เพื่อรอรอบบวกจริงจังอีกครั้งในช่วงถัดไป
  แนวรับ 1382-1380, 1375-1365 จุด
  แนวต้าน 1388-1392 , 1394-1397 จุด
  Fund Flow เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$370 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$284 ล้าน และอินโดนีเซีย US$51.2 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$3.7 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่น่าจะชะลอตัวลงหลังจากนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวหลังตัวเลขดัชนีภาคการผลิตสหรัฐออกมาอ่อนแอ เช้านี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อย

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) ความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนหน้ายังกดดันราคาโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า นักลงทุนยังรอตัวเลข GDP 1Q16 (รายงานครั้งที่ 2) ศุกร์นี้ และตัวเลขการจ้างงานศุกร์หน้า อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองบวกต่อ SET Index ในครึ่งปีหลังจากความคาดหวังการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐซึ่งจะสร้าง sentiment ที่ดีต่อภาคเอกชนในการขยับขยายลงทุนและการบริโภค
  (+) TK ทิศทางธุรกิจยังคงเป็นบวกและน่าจะโตสวนอุตสาหกรรม ยอดขายมอเตอร์ไซค์น่าจะโตเป็นปีแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่ธุรกิจที่กัมพูชาและลาวขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คุณภาพหนี้ดีมาก TK มีแผนเปิดสาขาเพิ่มที่กัมพูชาอีก 2 แห่งและที่ลาวอีก 1 แห่ง แม้กำไร 1Q16 จะน้อยกว่าคาดจากค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้น แต่จะเริ่มเก็บเกี่ยวประโยชน์ใน 2Q16 เราจึงคาดกำไร +14% Q-Q, +16% Y-Y ทั้งที่เป็น Low season เรายังคาดกำไรสุทธิปีนี้ +28.6% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 12 บาท
  (+) CK เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 41% ทำให้กำไรปกติ +999% Y-Y หลังได้งานโครงการไซยะบุรีเพิ่ม 1.94 หมื่นล้านบาท (รับรู้ปีนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท) ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 800 ล้านบาทจากการตีกลับดอกเบี้ยจ่ายของโครงการไซยะบุรีที่บันทึกไว้ล่วงหน้า (ไม่ใช่เงินสดและเกิดขึ้นปีนี้ปีเดียว) เราคงราคาพื้นฐาน 40 บาท (SOTP) แนะนำซื้อจากความหวังงานประมูลภาครัฐ ล่าสุดรถไฟรางคู่ประจวบคีรีขัน-ชุมพร คาดประมูล มิ.ย.-ก.ค. สุวรรณภูมิเฟส 2 ยื่นซอง 20-21 มิ.ย. รถไฟฟ้าสายสีส้มคาดขายซอง มิ.ย. ส่วนรถไฟฟ้าสีชมพูและเหลืองอยู่ระหว่างจัดทำ TOR
  (-) MAKRO ปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างหนื่อยสำหรับบริษัทจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ การแข่งขันรุนแรงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการเร่งเปิดสาขาอีก 14-15 แห่งในปีนี้ การขยายธุรกิจไปต่างประเทศอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร ซึ่งอาจขาดทุนในช่วงแรกของการดำเนินงาน เราปรับกำไรปีนี้ลง 10% เหลือโตเพียง 8% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานเหลือ 38 บาทจาก 42 บาท แนะนำเพียงถือ
  (+) ALT ทำธุรกิจโทรคมนาคมครบวงจร คือให้บริการสร้างและติดตั้งสถานีฐาน ขายสินค้า และให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมฯ การเปลี่ยนเทคโนโลยีจาก 2G เป็น 3G และกำลังจะเป็น 4G เป็นประโยชน์โดยตรงต่อ ALT เห็นได้จากสัดส่วนของรายได้ธุรกิจติดตั้งสถานีฐานที่เพิ่มจาก 31% ในปี 2013 เป็น 67% ปีก่อน ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเพราะมีมาร์จิ้นสูงกว่างานขายสินค้า กำไรสุทธิปี 2013-15 โตเฉลี่ย 110% เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +43% Y-Y จากงานติดตั้งสถานีฐานที่โตแข็งแกร่งใน 3 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย และการขายสินค้า Fiber Optic ที่จะทำตลาดมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานที่จะมีบทบาทมากขึ้นตั้งแต่ 2H16 เป็นต้นไป เราประเมินราคาพื้นฐาน 6.90 บาท อิง PE 22 เท่า ซึ่งคิดเป็น PEG เพียง 0.5 เท่า (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ ALT)

  (0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนบวกได้ แต่อย่างไรก็ตามดัชนีปรับตัวลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์โดยตลาดกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆนี้
  (+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวกได้ค่อนข้างแรง หลังจากที่ถูกกดดันในช่วงก่อนหน้าจากกระแสความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
  (-) อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดในแดนลบโดยเฉพาะญี่ปุ่นหลังตัวเลขส่งออกที่อ่อนแอ รวมถึงความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
  (0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 35.60-35.72 บาท/ดอลลาร์
  (0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 0.41 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.75 ดอลลาร์/บาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็ง อย่างไรก็ตลาดยังจับตาดูเรื่องอุปทานของน้ำมันว่ายังอยู่ในภาวะล้นตลาดหรือไม่
  ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ขยับลง 1.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,252.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงแรงสุดในรอบเกือบ 2 เดือนจากกระแสความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

23 พ.ค. - ไทย: กสทช.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าประมูลคลื่น 900MHz

- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(พ.ค.)
24 พ.ค. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)

- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (พ.ค.)
25 พ.ค. ไทย: ดุลการค้า (เม.ย.)

- สิงคโปร์: 1Q16 GDP
27 พ.ค. - ไทย: ประมูลคลื่น 900MHz

- ไต้หวัน: 1Q16 GDP (ตลาดคาด -0.8% Y-Y เท่า 4Q15)

- สหรัฐ: 1Q16 GDP (ตลาดคาด +0.8% annualized Q-Q ดีขึ้นจาก 4Q15 ที่+0.5%)
30 พ.ค. - สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day
31 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.

- อินเดีย: 1Q16

- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)

- สหรัฐ: ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller (มี.ค.)
1 มิ.ย. - จีน: Manufacturing and Non-manufacturing PMI (พ.ค.)

Contact person : Somchai Anektaweepon  Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!