- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 18 May 2016 18:35
- Hits: 1193
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เก็งกำไรเมื่อ SET ไม่หลุด 1400"
Stock Picks-May 2016 : Fundamental : ADVANC, AOT, BA, LPH, TMT
Dark Horse : FSMART, RS
Fundamental Pick -Today: TU (ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev : BLA 36%. BJC 19%, AMATA 17%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ แต่ยังไม่ทิ้งความผันผวน
Support Resistance Stop Loss
SET 1380,1360 1410,1420 หลุด 1395
SET50 870-860 905-910,920 หลุด 890
Technical Picks - Today KBANK, THANI, AP, EGCO, TU, BCH, WICE, VIH
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SRICHA (จาก Fully Valued เป็น ขาย)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และธนาคารพาณิชย์ ปิดตลาด SET Index +8.94 จุดที่ 1406.57 สถาบันในประเทศนำซื้อสุทธิ 3.5 พันล้านบาท พอร์ตบล.ซื้อขายใกล้เคียงกัน ส่วนต่างชาติและรายย่อยขายสุทธิ
ความกังวลว่าสหรัฐอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิ.ย.มีน้ำหนักกดดันตลาดมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.59 ออกมาเพิ่มขึ้น (CPI +0.4%MoM, +1.1%YoY) และประธานเฟดอย่างน้อย 4 สาขาหนุนให้คณะกรรมการ FOMC พิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ โดยอาจเริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้เลย นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐมีการปรับลดพอร์ตบางส่วนสะท้อนความไม่แน่นอนเรื่องนี้ และถ้าการเปิดเผยรายงานการประชุมรอบ 26-27 เม.ย.ออกมาหนุนความกังวลนี้ก็อาจมีการปรับพอร์ตอีกระลอก ดังนั้นในระยะสั้นต้องระวังการแกว่งตัว ส่วนปัจจัยในประเทศ หลังจบรายงานกำไรสุทธิ 1Q59 ก็ยังไม่มีข่าวใหม่ระดับมหภาคที่มีนัยสำคัญเข้ามา จึงเป็นลักษณะของการซื้อเก็งกำไร/ลงทุนเป็นรายบริษัทมากกว่า กลยุทธ์ : เลือกซื้อ โดยการเก็งกำไรก็ไม่ควรหวัง Gap มาก ส่วนการลงทุน เป็นลักษณะทยอยซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีช่วงราคาหุ้นอ่อนตัว สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น TU
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ แนวต้านระยะสั้น 1410, 1420 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ หรือ SET ต่ำกว่า 1395จุด กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก และไม่ควรหวัง Gap มาก ส่วนการลงทุน เน้นทยอยซื้อสะสมหุ้นหลักพื้นฐานดีจังหวะราคาอ่อนตัว
สำหรับ การ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี น่าสนใจซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก หุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ THAI, SPALI, VIH, WICE ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ SF, ESSO, GPSC, RATCH, WHA, IRPC, GLOBAL, SENA หุ้นที่หลุด List เป็น MTLS, KTC, MILL, XO
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ : อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.4%MoM ในเดือนเม.ย.59 เป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.56 และเพิ่มขึ้น 1.1%YoY เนื่องจากราคาน้ำมันและอาหารสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
- ยูโรโซน : ส่งออกหดตัว 1%YoY ใน 1Q59ยูโรสแตทระบุว่าการส่งออกของยูโรโซนในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 1.778 แสนล้านยูโร (2.013 แสนล้านดอลลาร์) โดย -3%YoYส่วนการนำเข้า -8%YoY สู่ระดับ 1.492 แสนล้านยูโร เกินดุลการค้าในเดือนนี้ 2.86 หมื่นล้านยูโร สำหรับ 1Q59 มูลค่าส่งออก -1%YoY สู่ระดับ 4.858 แสนล้านยูโร ขณะที่การนำเข้า -3% สู่ระดับ 4.320 แสนล้านยูโร โดยการส่งออกที่ลดลงมาจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงราว 1% ... วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิ.ย.59อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ประกอบกับมีประธานเฟดอีก 2 สาขา คือ แอตแลนต้าและซานฟรานซิสโก ออกมาหนุนให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ สอดคล้องกับความเห็นของประธานเฟด 2สาขา คือ ริชมอนด์ และบอสตัน ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้นักลงทุนในตลาดต้องลดความเสี่ยงด้วยการขายหุ้นบางส่วนออกไปก่อน ปิดตลาดดัชนี DJIA -180.73 จุด หรือ -1.02% ปิดที่ 17,529.98 จุด
• ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นต่อ...แต่ควรระวังความผันผวนที่ระดับ 50+/- US$/bblสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 48.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 49.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุน คือ ปริมาณการผลิตของหลายประเทศชะลอตัวลงทำให้อุปทานที่ล้นเกินหายไปบางส่วน แต่อาจะเป็นเพียงชั่วคราว เพราะเมื่อราคานํ้ามันดิบเพิ่มขึ้นเป็นระดับ50+/- ดอลลาร์/บาร์เรล ก็จะกระตุ้นให้หลายประเทศกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งอิหร่านก็มีแผนผลิตและส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นหลังการคว่ำบาตรยุติลง
• ราคาทองคำปรับขึ้นเล็กน้อยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ระดับ1,276.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้เป็นทิศทางอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• กำไรสุทธิบจ.งวด 1Q59 ทรงตัว YoY แต่เติบโต 41%QoQจากการรวบรวมของฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ DBSV พบว่ากำไรสุทธิ 1Q59 ของบริษัทจดทะเบียนทรงตัวเมื่อเทียบ YoY แต่ปรับขึ้น 41%QoQ เป็น 2.36 แสนล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นจาก 4Q58 เป็นผลจากฐานที่ต่ำมาก ซึ่งเกิดจากหลายบริษัทมีขาดทุนจากการตั้งสำรองด้อยค่าในทรัพย์สินและเงินลงทุนจำนวนมาก บริษัทในกลุ่มโภคภัณฑ์มีขาดทุนในสต็อกและอัตราแลกเปลี่ยน แต่ใน 1Q59 รายการหักเหล่านี้ลดลงไปกลุ่มที่มีกำไร 1Q59 เติบโตดีเมื่อเทียบ YoY คือ กลุ่มพาณิชย์ (นำโดย GLOBAL, LOXLEY, BIG, SPI) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง(นำโดย SCC, DCON, DRT, TMT, VNG) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (นำโดย BJCHI, SYNTEC) กลุ่มอาหาร (นำโดย CBG,CPF, MINT, OISHI, TKN) กลุ่มปิโตรเคมี (นำโดย IVL, TPC) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (นำโดย ANAN, GOLD, LALIN, LH,LPN, MK, PF, PLAT, PS, QH, SAMCO, SC, SF, TICON, WHA) กลุ่มขนส่ง (นำโดย AAV, BA, BEM, BTSGIF, THAI)ส่วนกลุ่มที่เหลือจะทรงตัวและลดลงเมื่อเทียบ YoY
สำหรับกลุ่มที่มีกำไรพลิกฟื้นเมื่อเทียบ QoQ จะเป็นธุรกิจเกษตร, พลังงาน, เหล็ก, อาหาร, สื่อสาร, บรรจุภัณฑ์, ปิโตรเคมี,ท่องเที่ยว และขนส่ง ซึ่งเป็นผลจากฐานกำไรที่ต่ำใน 4Q58 (ดังกล่าวไว้ข้างต้น) และปัจจัยฤดูกาลฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ DBSV มีการปรับประมาณการกำไรบจ.หลังจากจบรายงานกำไรสุทธิ 1Q59 ซึ่งพบว่าคาดการณ์กำไรสุทธิโดยรวม +30%YoY (เท่ากับก่อนรายงานกำไร 1Q59) แต่ถ้าไม่รวมกลุ่มโภคภัณฑ์และขนส่งพบว่าคาดการณ์อัตราการขยายตัวของกำไรสุทธิขยับขึ้นเป็น +3.3% (จากเดิม +2.4%)
+ ADVANC (ราคาปิด 159.50 บาท) : เป็นผู้ประมูล 4G ย่าน 900 MHz รอบใหม่เพียงรายเดียวบอร์ด TRUE มีมติไม่เข้าประมูล 4G ย่าน 900 MHz ในวันที่ 27 พ.ค.นี้เพราะมีคลื่นความถี่เพียงพอที่จะให้บริการแล้วขณะที่ DTAC ประกาศไม่เข้าร่วมประมูลไปก่อนหน้าแล้ว ดังนั้น ADVANC จะเป็นรายเดียวที่จะประมูลในวันดังกล่าวคาดว่าจะเคาะและปิดประมูลที่ราคาเปิด 75,654 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับราคาที่ JAS ชนะประมูลในรอบแรกที่ผ่านมาความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : ในประมาณการของ DBSV ได้สะท้อนการชนะประมูลใบอนุญาต 4G ที่ราคาดังกล่าวข้างต้นไว้แล้ว และรวมค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับ TOT 1 หมื่นล้านบาทต่อปี แต่ไม่มีค่าโรมมิ่งกับ DTAC ยังผลให้มูลค่าหุ้น ADVANC ที่ประเมินด้วยวิธี DCF จะอยู่ที่ 180 บาท ส่วนราคา INTUCH จะเท่ากับ 62 บาท (ให้ส่วนลด 15%จาก Target NAV) เราคงคำแนะนำซื้อ ADVANC และ INTUCH โดยความโดดเด่นในปี 59-60 ยังคงเป็นการจ่ายปันผลสูง(คาด Yield 6.5-7.0% ต่อปี) ฐานะการเงินดี และคงความเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อสารของไทย
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]