- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 July 2014 15:34
- Hits: 2245
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ซื้อ/ถือต่อเมื่อไม่หลุด 1520”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ภาพตลาดวันก่อน : # ปรับขึ้นต่อ เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิด +5.24 จุดที่ 1535.66 มูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 6 หมื่นล้านบาท นับว่าแข็งแกร่งมาก โดยนักลงทุนต่างชาติและพอร์ตบล.ยังคงซื้อสุทธิต่อ ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยขายสุทธิ ทั้งนี้แรงซื้อกระจายไปยังกลุ่มต่างๆ โดยเน้นไปยังหุ้นขนาดกลาง-เล็กมากขึ้น ส่วนกลุ่มแบงค์ที่รอผลประกอบการ 2Q57 มีโอกาสขยับขึ้นต่อถ้ากำไรออกมาดีกว่าคาด
ปัจจัยและกลยุทธ์ : # เหตุเครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตกกดดัน โดยสถานการณ์การเมืองโลกมีแนวโน้มจะเข้มข้นมากขึ้น สหรัฐ+ประเทศพันธมิตรอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม และเหตุการณ์ดังกล่าวกดหุ้นในกลุ่มสายการบินให้อ่อนตัวลง ซึ่งเป็น Sentiment ทางลบกับ AOT และTHAI แต่หนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นถึง 2% (หุ้น Top Pick กลุ่มพลังงานเป็น PTT รองลงมาเป็น PTTEP,PTTGC) อย่างไรก็ตาม น้ำหนักทางลบมากกว่าทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศร่วงแรง และนักลงทุนโยกย้ายการลงทุนบางส่วนกลับไปในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ มากขึ้น
# การคง VAT ไว้ที่ 7% เป็นเรื่องดี แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นการลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคและบริโภคยังต้องระมัดระวังสูง เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับขึ้นมากและอยู่บน Valuation โซนสูง ในเชิงกลยุทธ์ จึงเน้นซื้อจังหวะอ่อนตัวเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว สำหรับผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์พบว่ากำไรสุทธิ 2Q57 ของ BBL และ SCB ดีกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ KBANKออกมาดีตามคาด ยังคงชอบหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ดังนั้นการอ่อนตัว/ปรับฐานของหุ้นเป็นจังหวะซื้อ
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก การอ่อนตัวต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ 1520 จุด มีแนวเด้ง 1500+/- จุด ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1540-1550 จุด อย่างไรก็ดี ระยะสั้นมากควรระวังการอ่อนตัวให้มากขึ้น สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น PTTEP
Fundamental Pick
PTTEP แนะนำซื้อ ราคาปิด 165 บาท เป้าหมาย 194.6 บาท*
* ราคาเป้าหมายของ SAA Consensus
# ราคาน้ำมันดิบที่ดีขึ้นแรงเพราะปัญหาการเมืองที่เข้มข้นขึ้นในตะวันออกกลาง รวมถึงเหตุการณ์ยิงเครื่องบินมาเลเซียตกในพื้นที่ยูเครนใกล้ชายแดนรัสเซียก็ทำให้มีความกังวลกับการเมืองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น และประเด็นนี้อาจผลักดันให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นได้อีกระลอกซึ่งเป็นผลดีกับ PTTEP ซึ่งดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตก๊าซ & น้ำมัน
# กำไรสุทธิ 2Q57 คาดว่าจะแข็งแกร่ง โดยคาดว่าทั้งปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยจะสูงขึ้นส่วนใน 2H57 จะมีปริมาณการผลิตจากโครงการ Zawtika เข้ามาเสริม ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย SAA Consensus 194.6 บาท (Update เดือนมิ.ย.-ก.ค.57)
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
- เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ถูกยิงตกที่ชายแดนยูเครน-รัสเซีย เสียชีวิตทั้งลำ...กดดันหุ้นกลุ่มสายการบิน
# กลุ่มกบฎชาวยูเครนได้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ MH-17 ตกลงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารพร้อมลูกเรืออยู่บนเครื่องจำนวน 295 คนเสียชีวิตทั้งหมด
# ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินของยุโรปและสหรัฐร่วงลง โดยหุ้นแอร์ ฟรานซ์ เคแอลเอ็มร่วงลง 1.5% ขณะที่หุ้นลุฟฮันซา ดิ่งลง 2.4% หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดท แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ร่วงลง 3.4% ส่วนหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง4.1% และหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ ปรับตัวลง 3.5%
- กองทัพอิสราเอลปฎิบัติการทางทหารเข้มข้นขึ้นในฉนวนกาซา
# นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ออกมาสั่งการให้กองทัพอิสราเอลเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในภาคพื้นดินที่ฉนวนกาซา และมีรายงานว่าเด็กชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 3 คนหลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา
- สหรัฐ : ตัวเลขก่อสร้างบ้านมิ.ย.อ่อนแอกว่าคาด
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.3%MoM แตะที่893,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.56 ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.02 ล้านยูนิต ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านเดือนมิ.ย.ลดลง 4.2%MoMแตะที่ 963,000 ยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.04 ล้านยูนิต
- ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งแรงหลังมีข่าวเครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตก + ตัวเลขสร้างบ้านที่ลดลงเกินคาด
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,976.81 จุด ร่วงลง 161.39 จุด หรือ -0.94% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,363.45 จุด ลดลง 62.52 จุด หรือ -1.41% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,958.12 จุด ลดลง 23.45 จุด หรือ -1.18% ปัจจัยกดดัน คือ การที่กลุ่มกบฎชาวยูเครนได้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ พร้อมผู้โดยสาร 295 คนตกลงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมดและตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.ของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด
+ สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแรง...วิตกการเมืองโลกเข้มข้นขึ้น
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.99 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 103.19ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอนเพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 107.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนโดยข่าวเครื่องบินมาเลเซียที่ถูกยิงตกในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน ใกล้ชายแดนรัสเซีย (ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นแรงกว่า BRENT เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงแรงเกินคาด)
+ สัญญาทองคำ COMEX พุ่งขึ้นแรง 1.3%
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 17.1ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 1,316.9 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังมีเหตุยิงเครื่องบินมาเลเซีย และตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด
ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
# คสช.มีมติคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)7% ไปถึง 30 ก.ย.58 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย...หุ้นเด่นในกลุ่มที่เกี่ยวกับอุปโภคบริโภค คือ CPALL, BIGC, TCAP และ VGI
# นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประกาศขยายเวลาลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เหลือ 7% จาก 10% ออกไปอีก 1 ปีสิ้นสุด 30 ก.ย.58 โดยโครงสร้างภาษีเป็นส่วนของภาษีสรรพากร 6.3% และภาษีที่จัดเก็บแทนองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอีก 0.7% ดังนั้น หลังจาก 30 ก.ย.57 ประชาชนจะยังเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% เท่าเดิมจนถึง 30 กย.58 จากนั้นจะคิดอัตราตามที่กำหนดไว้เดิมที่10% (รวมภาษีที่จัดเก็บให้ท้องถิ่น)
# ความเห็น Retail Research DBS : การคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้ที่ 7% เป็นสิ่งที่ตลาดประเมินไว้อยู่แล้ว และคาดว่าจะช่วยให้การฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคในประเทศสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วง 2H57 ทั้งนี้การบริโภคภาคเอกชนคิดเป็น 48-51% ของ GDP สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคนั้น เราให้น้ำหนักเป็น Neutral ทั้งในกลุ่มพาณิชย์, เช่าซื้อ, สื่อและบันเทิง เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่มี Valuation สูง สำหรับหุ้นเด่น คือCPALL, BIGC, TCAP และ VGI
- หุ้นกลุ่มการบิน (AOT, THAI) : ถูกกระทบจากเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซียตก
# เหตุการณ์กลุ่มกบฎชาวยูเครนได้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ MH-17 ตกฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินทั่วโลกให้อ่อนตัวลง และคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อ Sentiment การลงทุนใน AOT และ THAI ในระยะสั้นด้วย
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]