- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 May 2016 18:44
- Hits: 2644
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อเก็งกำไรเมื่อ SET ไม่หลุด 1390'
Stock Picks-May 2016 : Fundamental : ADVANC, AOT, BA, LPH, TMT
Dark Horse : FSMART, RS
Fundamental Pick -Today: WORK(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev : BJC 26%. TU 22%, SVI 17%, LPN 16%, PTTEP 11%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ
Support Resistance StopLoss
SET 1380,1360-1350 1405-1410, (1420) ค่าลบ
SET50 870 - 860 895 - 905, (910) ค่าลบ
Technical Picks - Today WHA SGP IRPC KTC BEM CBG ERW VIH
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : AMATA (จากซื้อเป็น ถือ), HANA (จากซื้อเป็น ถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,397.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด (+0.21%) โดยในช่วงเช้าอยู่ในแดนบวกตลอด แต่ช่วงบ่ายมีลบบ้าง กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,392.99-1,406.03 จุด โดยรายงาน GDP Growth ประจำ 1Q59 ที่เติบโต 3.2%YoY ไม่ได้กระตุ้นตลาดได้มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเติบโตที่สูงกว่าคาดมาจากการส่งออกทองคำที่เติบโตแข็งแกร่ง และทำให้มูลค่าส่งออกหดตัวเพียง 1.4% ใน 1Q59 แต่ถ้าไม่รวมส่งออกทองคำ มูลค่าส่งออกจะลดลง 5.1% ใน 1Q59
ประธานเฟดริชมอนด์ออกมาหนุนความเห็นประธานเฟดบอสตันให้คณะกรรมการ FOMC พิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มิ.ย.59 ทั้งนี้เพราะอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นมาใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% อัตราการว่างงานก็ลดลงมายังเป้าหมายแล้วและเริ่มตึงตัว ประกอบกับ Policy Normalisation ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งความเห็นดังกล่าวอาจกดดันตลาดหุ้นเป็นช่วงๆ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ตลาดยังมีเรื่องบวกในกลุ่มพลังงานช่วยหนุนไว้ โดยราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเพราะคลายกังวลเรื่องอุปทานล้นหลังหลายประเทศประสบปัญหาการผลิตและแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐก็ปิดตัวลงไปมาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเรายังต้องระวังการแกว่งหรือปรับฐานหลังจาก Earning season กลยุทธ์ : เลือกเป็นรายบริษัท แต่การเก็งกำไรก็ไม่ควรหวัง Gap มาก ส่วนการลงทุน เป็นลักษณะทยอยซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีช่วงราคาหุ้นอ่อนตัว สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น WORK
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ แนวต้านระยะสั้น 1405-1410, (1420) จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก และไม่ควรหวัง Gap มาก ส่วนการลงทุน เน้นทยอยซื้อสะสมหุ้นหลักพื้นฐานดีจังหวะราคาอ่อนตัว
สำหรับ การ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี น่าสนใจซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก หุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ WHA IRPC GLOBAL SENA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ MTLS SF KTC GPSC ESSO RATCH MILL XO หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ CBG KAMART PLAT หุ้นที่หลุด List เป็น LIT KKC
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- ประธานเฟดริชมอนด์เป็นอีกรายที่หนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิ.ย.นี้
นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวในทิศทางเดียวกันกับประธานเฟดบอสตันว่าเฟดควรพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.59 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐกำลังปรับตัวไปสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และตลาดแรงงานอยู่ในภาวะค่อนข้างตึงตัว ทั้งนี้ เฟดมีกำหนดประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 14-15 มิ.ย.59
- สหรัฐ : ดัชนีภาคผลิตเดือนพ.ค.หดตัว
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ครายงานวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ทรุดตัวลงในเดือนพ.ค. เป็น -9.0 จาก +9.6 ในเดือนเม.ย. แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ +7.2 ในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ภาวะหดตัว ขณะที่เหนือระดับ 0 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว
สหรัฐ : ความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวในเดือนพ.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวเป็นเดือนที่ 4 โดยอยู่ที่ระดับ 58 ในเดือนพ.ค.59 แต่ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 54 แม้ว่าจะลดลงจากระดับ 65 ในเดือนต.ค.58 ก็ตาม
จีน : การบริโภคหนุนการเติบโตของ GDP ใน 1Q59 มากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่าการบริโภคขั้นสุดท้ายเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนถึง 84.7% ในไตรมาส 1/59 เมื่อเทียบกับ 66.4% ในปี 58 บ่งชี้ว่าความพยายามของรัฐบาลในการลดการพึ่งพาการลงทุนและการค้ากำลังบรรลุผล สำหรับการลงทุนช่วยหนุนการเติบโต 35.8% ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการฉุดการขยายตัว 20.5% ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้ 6.7% ใน 1Q59
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น หนุนโดยการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,710.71 จุด พุ่งขึ้น 175.39 จุด หรือ +1.00% ปัจจัยหนุน คือ การปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบที่ทำให้ราคาหุ้นพลังงานเพิ่ม รวมทั้งการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีก็ช่วยหนุนด้วย
+ ราคาน้ำมันดิบบวกต่อ…คลายกังวลเรื่องอุปทานล้นเกิน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 47.72 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 48.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้วาณิชธนกิจขนาดใหญ่ คือ โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มประมาณการราคาน้ำมันดิบ WTI ว่าจะมีค่าเฉลี่ย 45 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงไตรมาส 2/59 และอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ใน 2H59 ส่วนปี 60 คาดว่าจะเท่ากับ 52.5 ดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 57.5 ดอลลาร์ และเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน เปิดเผยว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐ ปรับตัวลดลง 10 แท่น เป็น 318 แท่นแล้ว
ราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,274.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
สศช.ประกาศ GDP Growth 1Q59 ของไทยที่ +3.2%
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหล่งชาติ (สศช.) แถลงว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/59 ขยายตัวที่ 3.2% เติบโตสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาส โดยมาจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ รวมถึงการส่งออกภาคบริการในด้านการท่องเที่ยวเป็นตัวช่วยสนับสนุน การใช้จ่ายภาคครัวเรือน +2.3% จาก +2.6% ใน 4Q58 ด้านการลงทุนรวม +4.7% ลดลงจาก +9.4% ใน 4Q58 โดยการลงทุนภาครัฐ +12.4% จาก +41.2% ใน 4Q58 ส่วนการลงทุนภาคเอกชน +2.1% จาก +1.9% ใน 4Q58 สำหรับมูลค่าส่งออกรูปดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 1/59 หดตัวที่ -1.4% จาก -7.9% ใน 4Q58 แต่ถ้าไม่รวมส่งออกทองคำที่ยังไม่ขึ้นรูปจะ -5.1%
+ WORK (ราคาปิด 37.50 บาท) : 1Q59 พลิกเป็นกำไร
บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q59 เท่ากับ 29 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 25 ล้านบาทใน 1Q58 ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจทีวีดิจิตอล รายได้ค่าโฆษณาดีขึ้น (+28%YoY เป็น 547 ล้านบนาท แต่ลดลง 15%QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล) อัตราค่าโฆษณาเพิ่มจาก 3 หมื่นบาท/นาทีในปีก่อนเป็นประมาณ 4.7 หมื่นบาท/นาทีใน 1Q59 แนวโน้ม 2Q59 ยังไปได้ดี อัตราการใช้โฆษณาในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 70% จาก 62% ใน 1Q59 ซึ่งโดยปกติแล้วไตรมาส 1 เป็นช่วง Low ของการโฆษณา นักวิเคราะห์ในตลาดประเมินว่ากำไรสุทธิปี 59 ของบริษัทจะเติบโตก้าวกระโดดจากฐานที่ต่ำปีก่อน และขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปี 60 ซึ่งเป็นไปตามความนิยมในทีวีดิจิตอลที่มากขึ้น และธุรกิจที่ดำเนินการผ่านสื่อมีมากขึ้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 46 บาท (Median ของ IAA Consensus)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]