- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 July 2014 15:07
- Hits: 2347
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
ปัจจัยภายนอกกดดันแนวรับ 1,520 จุด…คง VAT 7% ถึง ก.ย.15: SET ปรับสูงขึ้นแกร่งนำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง TRUE, TMB, PTT, และ SAWAD ปิดตลาดที่ 1,535.66 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,866 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกด้วยแนวรับ 1,520 จุด หลังเครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตกบริเวณพื้นที่ความขัดแย้งระหว่างยูเครน กับรัสเซีย ส่งผลให้ดัชนีหุ้น Dow Jones ปรับลดลง 0.94% เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ประเด็นการคง VAT ที่ 7% ต่อไปจนถึง ก.ย.15 และจะเพิ่มเป็น 10% ตั้งแต่ ต.ค.15 เป็นต้นไป เป็นปัจจัย “ลบ” เชิง Sentiment ต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก + Consumption Play อื่นๆ แต่ประเมินผลกระทบเชิงพื้นฐานจำกัด
BBL SCB กำไรดีกว่าคาด ขณะที่ KBANK ใกล้คาด: การ “พักฐาน” ของ SET วันนี้ ที่แนวรับ 1,520 จุด เป็นการลดภาวะ Overbought ทางเทคนิค เพื่อปรับสูงขึ้นต่อระยะสัปดาห์ แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไร 2Q14 ขยายตัวสูงบริเวณแนวรับ อย่าง GFPT, KTB, KCE*, BCP, BGH, THREL*, HEMRAJ, MC, THCOM, SIM, SAMART (*Consensus) ขณะที่กลุ่มธนาคาร SCB BBL กำไรแข็งแกร่ง ขณะที่ KBANK เท่าคาด
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ “ถือ” BTS, CPALL, DEMCO, EA, GFPT, HEMRAJ, INTUCH, SAMART, SPALI และ SPCG ต่อเนื่อง
GFPT: “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 16.50 บาท ล่าสุดราคาหุ้นปรับสูงขึ้นถึงเป้าหมายระยะสั้นที่ 14.0 บาท (ถึงเป้าหมาย 5% ของ Trigger Five แล้ว) และมีเป้าหมายถัดไปที่ 14.8-15.0 บาท คาดการณ์กำไร 2Q14 เติบโตแข็งแกร่ง y-y จากราคาไก่ทรงตัวระดับสูง 42 บาท/กก. ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ต่ำเป็นปัจจัยหนุนอัตราการทำกำไร
VAT เพิ่มขึ้นเป็น 10% ตั้งแต่ ต.ค.15: การประกาศเพิ่ม VAT ขึ้นเป็น 10% ตั้งแต่ ต.ค.2015 เป็นต้นไป จากปัจจุบันที่ 7% จะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มที่ผู้บริโภคมีความไวต่อราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก ขณะที่กลุ่มที่มีความไวต่อราคาที่เพิ่มขึ้นต่ำอย่างโรงพยาบาล สนามบิน รถไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ คาดว่าได้รับผลกระทบจำกัด ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากหุ้นใน Tactical Portfolio เราประเมินผลกระทบจำกัด เนื่องจาก BTS, DEMCO, EA, GFPT, HEMRAJ, INTUCH, SPALI, SPCG ได้รับผลกระทบจำกัด ขณะที่ SAMART และ CPALL อาจได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่ทำให้พื้นฐานเปลี่ยนไป
Technical
ตลาดอาจจะพักตัวระยะสั้นไม่ต่ำกว่า 1510 จุด: ดัชนี SET ระดับสูงสุดคือ 1535 จุด ใกล้ระดับแนวต้านสัปดาห์ 1537-1540 จุด มีสัญญาณขัดแย้งที่ควรระมัดระวังดัชนี SET ปิดต่ำกว่า 1525 จุด จะเกิดสัญญาณขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง มีจุดซื้อกลับที่บริเวณแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 2 สัปดาห์ 1510 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ: GCAP ทะลุผ่านยอดเดิม 4.06 บาท เกิดสัญญาณซื้อ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 4.50 บาท เป้าหมายสำคัญอยู่ที่ยอดเดิม 5.00 บาท CKP จังหวะดีดตัวขึ้นทะลุผ่าน 13.00 บาท กลับขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 วัน เป็นโอกาสซื้อ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 14.00 บาท BCP ขึ้นทะลุผ่านแนวต้านหลักที่ระดับ 30.50 บาท เป็นสัญญาณซื้อ ระยะสั้นคาดว่าจะทดสอบแนวต้านย่อย 33 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ในรูปแบบ Let the Profit Run ต่อเนื่อง ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,016 จุด โดยการปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop จะเป็นสัญญาณปิดสถานะ Long ไปก่อน
Gold Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Short สัญญา GFQ14 เพื่อ Stop Loss ไปก่อน เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกปรับสูงขึ้นแข็งแกร่ง 1.32% เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังเครื่องบินมาเลเซียถูกยินในพื้นที่ความขัดแย้งระหว่างยูเครน รัสเซีย
Oil Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Short หลังจาก BRQ14 ปรับสูงขึ้นเหนือ Trailing Stop บริเวณ 3,450 เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเหตุยิงเครื่องบินมาเลเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น US$0.72/bbl เมื่อคืนนี้
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล