- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 July 2014 14:57
- Hits: 2258
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 18-7-14
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -161.39, NASDAQ -62.52, S&P -23.45, FTSE -46.35, CAC -52.94 และ DAX -105.39 ภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดและความขัดแย้ง (1) ยูเครนและรัสเซีย ที่มีสัญญาณว่าจะลุกลามขึ้น หลังกลุ่มกบฎชาวยูเครนได้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ (MH17) ตกลงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งทำให้ทั้งสหรัฐฯ และกลุ่มผู้นำของอียู ตัดสินใจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย (2) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล สั่งการให้กองทัพอิสราเอลเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในภาคพื้นดินที่ฉนวนกาซา หลังข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลได้สิ้นสุดลงวานนี้
.....นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยลบจากตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐฯ - มิย. ลดลง 9.3% อยู่ที่ 893,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่กย.’56 สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.02 ล้านยูนิต และตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้าน - มิย. ลดลง4.2% อยู่ที่ 963,000 ยูนิต สวนทางกับที่คาดเช่นกันว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.04 ล้านยูนิต อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ลดลง 3,000 ราย สู่ 302,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 10 พค. ที่ผ่านมา
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (Nymex) ส่งมอบ สค. +US$1.99 อยู่ที่ US$103.19 ต่อบาร์เรล ภายใต้สถานการณ์กดดันข้างต้น ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์การเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน อาจจะลุกลามและส่งผลให้อุปทานน้ำมันทั่วโลกตกอยู่ในภาวะตึงตัว
…..ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน สค. อยู่ที่ +US$17.1 อยู่ที่ US$1,316.9 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยข้างต้น กระตุ้นให้มีการเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,866 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -25,337 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสลดลง โดยให้น้ำหนักประเด็นต่างประเทศ จากประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศข้างต้นที่มีแนวโน้มลุกลาม ซึ่งคาดส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนทั่วโลก อย่างไรก็ตามแนะจับตากลุ่มพลังงานที่อาจได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น
.....สำหรับในประเทศคาดได้รับปัจจัยลบบ้างจากประเด็นการปรับขึ้น VAT (รวมภาษีท้องถิ่น) จาก 7.0% เป็น 10% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1/10/58 หรือตั้งแต่ปีงบประมาณปี’59 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่อง อีกเกือบ 1,900 ล้านบาท และคาดมุมมองของต่างชาติต่อการลงทุนหลังจากนี้ไปมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ ส่วนหนึ่งคาดจากทิศทางโรดแมพของ คสช. ที่ชัดเจน โดยคาด (1) ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว - กค. (2) ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ - สค. (3) แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี - กย. (4) ตั้งสภาปฏิรูป - ตค. และ (5) จัดการเลือกตั้ง -ประมาณตค. ’58 รวมถึงความคืบหน้างบประมาณปี’58 วงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท ที่เตรียมเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 6/8/57 โดยในจำนวนนี้ ประมาณ 450,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนที่ส่วนใหญ่เน้นการจัดการระบบน้ำและงานถนน
.....ยังแนะติดตาม (1) ความชัดเจนของแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่อเนื่อง เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ทางด่วน และโครงการขยายสนามบิน ทั้งสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เป็นต้น เบื้องต้นคาดใช้ระยะเวลา 8 ปี (ปี’58 – 65) วงเงินลงทุน 2.4 - 3.0 ล้านล้านบาท (2) กลุ่มพลังงาน ภายใต้การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี และ (3) การเก็งกำไรผลประกอบการ – 2Q/57 และเงินปันผล ที่จะเริ่มจากกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มแรกที่จะทยอยประกาศผลการดำเนินงาน
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.06 อยู่ที่ 2.48% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +3.54 อยู่ที่ 14.54
หุ้นแนะนำ : PTTEP
ประเด็นที่ต้องติดตาม (18 กค.’57)
18/7/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - กค. (2) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - มิย.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788