- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 May 2016 18:58
- Hits: 690
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET SET50 SET100
1,382.41 -7.72 874.54 -8.32 1,952.99 -15.33
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 47,641.34
สถาบัน +435.96
บัญชีหลักทรัพย์ -1,070.18
ต่างประเทศ -1,002.21
ในประเทศ +1,636.43
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
20.40 1.81 3.43
ที่มา : www.set.or.th
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -217.23, NASDAQ -49.19, S&P -19.93, FTSE +5.84, CAC -21.54 และ DAX -70.12
แม้ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่ยังไม่สามารถชดเชยปัจจัยลบจากกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์ผู้บริโภค หลังวอลท์ดิสนีย์ และเมซีย์ อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป ที่ได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด เช่น คาร์ลสเบิร์ก และเทเลโฟนิกา เป็นต้น
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$1.57 อยู่ที่ US$46.23 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 540 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ที่รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.45 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 543.1 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจาก เหตุการณ์โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในไนจีเรียทำให้การผลิตน้ำมันภายในประเทศลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปี
ขณะที่ยังอยู่ระหว่างการประชุมรอบใหม่ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก และนอกกลุ่มโอเปก) ในเดือนมิ.ย. เพื่อหารือในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$10.7 อยู่ที่ US$ 1,275.5ต่อออนซ์ หลังเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งช่วยให้สัญญาทองคำที่ซื้อขายในสกุลเงินสหรัฐฯ มีราคาลดลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,002 ล้านบาท สะสม YTD +8,243 ล้านบาท (ปี'57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 12 - 13 พ.ค. 2559
12/5/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
(1) ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย.
(2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
13/5/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
(1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.
(2) ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.
(3) สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค.
(4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ค.
ทิศทางตลาด
คาดมีความผันผวน? คาดมีโอกาสลดลงตามตลาดต่างประเทศ แม้ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่ตลาดส่วนใหญ่ไม่ตอบรับต่อประเด็นดังกล่าว คาดภาพรวมยังคงมีความกังวลต่ออุปทานน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEP แนะนำเพียงเก็งกำไรตามราคาน้ำมันดิบ + /-
ขณะที่คาดตลาดส่วนใหญ่กลับมีความกังวลต่อทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว ทั้งจากตัวเลขการค้าของจีนที่เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ และผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ
ส่วนประเด็นในประเทศ แม้ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ แต่คาดตลาดฯ ยังถูกกดดันจาก Fund Flow หลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง และยังอยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน 1Q/59 ที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลางเดือนนี้ ส่วนผลประชุม กนง. วานนี้ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามคาด ที่ 1.50%
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มการบินและสนามบิน เช่น AOT, BA, AAV
(2) กลุ่มพลังงาน PTT และ PTTEP จะมีแรงเก็งกำไรตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
(3) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, TPIPL
(4) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, ERW)
(5) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(6) กลุ่มโรงกลั่น มีโอกาสรีบาวน์ หลังจากผลการดำเนินงาน 1Q/59 ออกมาดีกว่าคาด แนะจับตา IRPC, TOP และ SPRC
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 1.74% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.'54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.06 อยู่ที่ 14.69
หุ้นแนะนำ : BRR
หุ้นแนะนำ
BRR : ราคาเป้าหมาย (ปี 2559) 16.30 บาท
ภายใต้คาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลทรายโลกปี 2558/59 ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่บราซิลปรับเพิ่มสัดส่วนผสมเอทานอลจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 27 และคาดผลผลิตอ้อยต่อพื้นที่เพาะปลูก (Yield) ของประเทศผู้ผลิตน้ำตาลทรายหลักของโลก เช่น ไทย และอินเดีย อาจลดลง โดยได้รับผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ ล่าสุด สัญญาน้ำตาลดิบส่งมอบ- ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ 4.7% อยู่ที่ 16.77 เซนต์/ปอนด์
ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ที่ 16.80 เซนต์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่ BRR มีแผนเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกอ้อยเป็น 3 แสนไร่ จากปัจจุบัน 2 แสนไร่ ทำให้คาดปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายของ BRR เพิ่มขึ้น 8% ต่อปี (ภายใต้สมมติฐานผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยที่ 1.19) และจากปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายที่มากขึ้น ทำให้สามารถส่งออกน้ำตาล (โควต้า ค.) ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยหนุนให้
ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ประเมินราคาเป้าหมายปี '59 อยู่ที่ 16.30 บาท
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788