- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 May 2016 18:54
- Hits: 701
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
กนง. มองแนวโน้มการเติบโตไปทางด้านต่ำมากขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบจากผลประกอบการบริษัทภาคเอกชนที่แย่กว่าคาดและกังวลการชะลอตัวของอุปสงค์ผู้บริโภค DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -1.21%, -1.02%, -0.96%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.70%, 0.09%, -0.50%, -1.32%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ น 1.57 ดอลลาร์ปิดที่ 46.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.60 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงหนุนจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังสามารถยืนเหนือแนวรับ 1380 จุด ที่เราให้ไว้ได้ โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานที่ outperform ตลาด และพยุงตลาดไว้ได้ ในระยะสั้นยังคงแนะนำให้เก็งกำไรสั้นๆ หากดัชนีเทรดเหนือระดับ 1380 โดยใช้แนว 1400-1410 จุด ในการปรับลดพอร์ท โดยแนวโน้มราคาน้ำมันดิบระยะสั้นยังเป็นแค่การแกว่งตัวในกรอบ sideway หลังจากที่ตลาดคาดว่ากลุ่ม OPEC ไม่น่าจะเจรจาเรื่องการคงกำลังการผลิต เนื่องจากให้ความเห็นว่าราคาน้ำมันดิบเริ่มกลับมามีเสถียรภาพแล้ว โดยนักลงทุนต่างเฝ้าติดตามตัวเลขปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ว่าจะปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9 หรือไม่ ผลปรากฎว่าข้อมูลสต๊อกน้ามันดิบของ EIA ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540 ล้านบาร์เรล สวนทางกับข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ของ API ที่รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.45 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 543.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อว่าการฟื้นตัวของ SET Index ตามปัจจัยทางเทคนิคจะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นเนื่องจากปัจจุบันดัชนีเทรดอยู่ที่ P/E บริเวณ 15 เท่า (อิงตาม Bloomberg EPS consensus) ซึ่งถือถือว่าแพงหากเทียบกับในอดีต และสามารถปรับตัวลงได้ง่ายหากมีปัจจัยภายนอกเข้ามากระทบ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราพบว่าดัชนีสกุลเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสะท้อนถึงความกังวลของตลาดที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายกลางของสหรัฐฯในเดือนมิถุนายนนี้ ตามที่นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดไว้ ท้าให้เงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้น และ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นอกจากนั้น เราพบว่า Oil futures curve ในเดือนที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันดิบจะมีการปรับตัวลงใน 1-2 เดือนนี้ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี ทำให้เรายังคงเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ตลาดยังคงเฝ้าติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED ในแต่ละสาขาตลอดสัปดาห์นี้เกี่ยวกับมุมมองต่อเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย นอกจากนั้นปลายสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 1 ของกลุ่มยูโรโซน ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% เทียบกับ +0.3% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนผลประชุมกนง. วานนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% แต่มีความเป็นห่วงการลงทุนภาคเอกชนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยมีการขยายตัวเฉพาะในบางธุรกิจ และการบริโภคที่มีสัญญาณอ่อนลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากครัวเรือนภาคเกษตร ผลกระทบจากภัยแล้ง ท้าให้ความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มไปทางด้านต่ำมากขึ้นเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน ท้าให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังดูเปราะบาง ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่า จะผันผวนต่อเนื่องจากผลกระทบของตลาดหุ้นโลก
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,380 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]
