WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBS copyบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

'เลือกซื้อเก็งกำไร/สะสมหุ้นคุณภาพดี'

Stock Picks-May 2016 : Fundamental : ADVANC, AOT, BA, LPH, TMT
Dark Horse : FSMART, RS
Fundamental Pick -Today: LPH(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev : GUNKUL 62%, BJC 38%, BLA 19%, LPN 16%, KTB 13%

Technical View ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ
Support Resistance Stop Loss
SET 1370-1360 1400-1410,1420 ค่าลบ
SET50 870-860 890-895,905 ค่าลบ
Technical Picks - Today SCC, EPG, CPN, SIRI, LPH, TKN, TNP, TVO

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : GFPT (จากซื้อเป็น ถือ) , SAMTEL (จากถือเป็น Fully Valued)
      ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยวานนี้อ่อนลงเล็กน้อย ปิดตลาด SET Index -4.01 จุดที่ 1390.13 แรงขายนำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่ก็มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นขนาดกลาง-เล็กเข้ามาช่วยพยุงตลาดทั้งนี้ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญเข้ามา แต่ยังมีการซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ 1Q59 กันในช่วงนี้

       ผลประกอบการ 1Q59 ของบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศออกมามากขึ้นและมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ส่วนการประชุมกนง.ในวันนี้ ถ้าคณะกรรมการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ก็จะไม่มีผลต่อตลาดมากนัก ส่วนอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ แม้ว่าการฟื้นตัวและเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เฟดยังไม่น่าจะเร่งรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยเพราะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก การปรับขึ้นของราคาโภคภัณฑ์ยังมาจากการเก็งกำไรมากกว่าการเติบโตของอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน กลยุทธ์ : เก็งกำไรรอบสั้น ไม่ควรหวัง Gap กำไรมากเกินไป การลงทุนระยะกลาง-ยาวเน้นทยอยซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีและมีปันผล สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น LPH

      การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ การรีบาวด์สั้นๆสามารถเกิดขึ้นต่อได้ แนวต้านระยะสั้น 1400-1410 หรือ 1420 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ แนวรับระยะสั้น 1370-1360 จุด ซื้อเก็งกำไรเมื่อดัชนีและราคาหุ้นเป็นบวก/ซื้ออ่อนตัวที่แนวรับ

     สำหรับ การ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี น่าสนใจซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก หุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ BEM, ROBINS, TKN, LPH, TWPC ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ SAWAD, MTLS, TCC, TPBI, TNP หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ TVO

Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
จีน : ดัชนีราคาผู้บริโภคเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.3%YoY ซึ่งเท่ากับเดือนก.พ.และมี.ค.59 ซึ่ง CPI ที่ทรงตัวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าทางการจีนอาจออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม
+ สหรัฐ : ภาคค้าส่งเดือนมี.ค.แข็งแกร่ง สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนมี.ค.59 เพิ่มขึ้น 0.1%MoM ส่วนยอดขายภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.7%MoM ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.58
+ สหรัฐ : คาดเศรษฐกิจ 2Q59 น่าจะเติบโตดีหนุนโดยการใช้จ่ายผู้บริโภค เฟดสาขาแอตแลนตาระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 2.2% ในไตรมาส 2/59 หลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ขยายตัว 2.2% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 1.7% ในวันที่ 4 พ.ค.59 ที่ผ่านมา
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 1.26% ตอบรับการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ปิดตลาดดัชนี DJIA +222.44 จุด ปิดที่ 17,928.35 จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จับตา คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.ที่จะออกมาในวันศุกร์นี้
+ ราคาน้ำมันดิบ : ดีดขึ้นจากอุปทานน้ำมันลดชั่วคราว ทั้งนี้คาดว่าไฟป่าในแคนาดาจะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันโดยรวมลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน นักวิเคราะห์คาดว่าจะใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์ในการฟื้นการผลิตให้กลับมาปกติ และเหตุการณ์โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในไนจีเรียส่งผลให้การผลิตน้ำมันแตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีด้วย เมื่อคืนนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบก.ค.เพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 45.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาทองคำ : อ่อนเล็กน้อย สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,264.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ปัจจัยในประเทศ
      กรณีคืนท่อก๊าซ PTT : คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ขอให้นายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมว.พลังงาน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTT และผู้เกี่ยวข้องให้ดำเนินการส่งมอบท่อก๊าซที่ขาดไปคิดเป็นเงิน 3.2 หมื่นล้านบาทเศษแก่กระทรวงการคลัง และให้ครม.ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้มีการบังคับคดีที่ถูกต้องครบถ้วนต่อไปภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากสตง.
      กลุ่มสื่อสาร : กสทช.เปิดเผยว่ากลุ่ม ADVANC เข้าประมูล 4G ย่าน 900 MHz ในวันที่ 27 พ.ค.นี้อย่างแน่นอน ขณะที่ DTAC ยืนยันไม่เข้าประมูล ส่วน TRUE รอลุ้นว่าจะเข้าประมูลหรือไม่ ซึ่งทางการเปิดโอกาสให้ TRUE เข้าร่วมด้วย ซึ่งหากใครชนะการประมูลครั้งนี้ก็ต้องลงทุนสร้างการ์ดแบนด์ป้องกันสัญญาณรบกวนกว่าพันล้านบาทด้วย
      ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : ในประมาณการกำไรของ ADVANC นักวิเคราะห์ DBSV ได้สะท้อนเรื่องการประมูล 4G รอบใหม่นี้ไปแล้ว โดยมีสมมติฐานค่าใบอนุญาตเท่ากับราคาที่ JAS ชนะประมูลคือ 75.6 พันล้านบาท ขณะเดียวกันมีค่าใช้จ่ายให้กับ TOT ปีละ 1 หมื่นล้านบาท แต่ไม่มีค่าโรมมิ่งกับ DTAC ซึ่งพบว่ามูลค่าหุ้นที่ประเมินด้วยวิธีส่วนลดกระแสเงินสดสุทธิ (DCF) ของ ADVANC จะอยู่ที่ 180 บาท และ INTUCH เท่ากับ 62 บาท (Discount 15% จาก Target NAV) ยังคงคำแนะนำซื้อ โดยคาดการณ์ Dividend Yield ของทั้งสองบริษัทในปีนี้ไว้ที่กว่า 7%
+ LPH (ราคาปิด 8.55 บาท, ราคาพื้นฐาน 9.10 บาท) : ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดการณ์การเติบโตที่ก้าวกระโดดในปี 59 อันเนื่องจากการขยายตัวของคนไข้ที่มาใช้บริการ (90% เป็นคนไข้ประจำ) การขยายบริการส่วนประกันสังคม และการเพิ่มรักษาเฉพาะทางมากขึ้น จากเดิมที่รักษาทั่วไป ก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ความสามารถการทำกำไร และขยายฐานลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง ในปี 58 เปิดศูนย์รักษาดวงตา ปี 59 เปิดอีก 3 ศูนย์ในสาขาอื่นๆ และอีก 5 ศูนย์ในปี 60 นอกจากนี้ในปี 62 จะมีสาขาใหม่แห่งแรกที่ ลำลูกกา นอกจากนั้นยังเป็นโรงพยาบาลที่มี Valuation ต่ำกว่ากลุ่มในไทย เพราะการขยายตัวของกำไรที่สูงถึง 77% ในปี 59 นับเป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง-เล็กหนึ่งที่น่าสนใจซื้อลงทุน

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!