- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 May 2016 17:19
- Hits: 1142
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET….แนวโน้มกำไรต่อหุ้นปีนี้ ยังอ่อนแอ
การเปลี่ยนแปลงผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกในปี 2016 ถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นที่ขึ้นได้มากที่สุด คือ ตลาดหุ้นเกิดใหม่ลาตินอเมริกา ตามมาด้วย ราคาน้ำมัน ทองคำ พันธบัตรเยอรมัน และตลาดเกิดใหม่อาเซียน ที่น่าสังเกตในตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชีย ขึ้นได้น้อยมาก ขณะที่ดัชนีรวมตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลกขึ้นได้ดี สะท้อนเม็ดเงินลงทุนจะเน้นไปบางตลาดมากกว่า อาจจะมาจาก ถูกโดยเปรียบเทียบ(P/E) หรือฟื้นตัวจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ดูรูปด้านซ้าย) ในบรรดาตลาดหุ้นเกิดใหม่อาเซียน ตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand U$) ขึ้นได้มากที่สุด
แม้ตลาดหุ้นไทยจะมีจุดเด่นที่เกิดการปฎิรูประบบเศรษฐกิจ สังคมและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ รวมทั้งจะเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งในปีหน้า แต่ในส่วนของกำไรของตลาดหรือ EPS ในปีนี้ ถือว่ายังอ่อนแอมาก (ดูรูปด้านขวา) คือ ให้ค่าพอๆกับปี 2012 แม้จะดีกว่าปี 2014 และ2015 แต่ก็ไม่มาก สะท้อนให้เห็นว่าอัตราการทำกำไรของตลาดนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมาไม่ได้ดีขึ้นมาก ซึ่งอาจมาจากเศรษฐกิจโลกซึมลึก หรือการปรับตัวลงของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ การที่มีแนวโน้มว่าค่า EPS ยังทรงในระดับต่ำและไม่มีอัตราการขยายตัว จะไปจำกัดการขึ้นของดัชนี SET ให้อยู่ในกรอบที่สมเหตุสมผล
เมื่อดัชนี SET ขึ้นไปสูงสุดที่กรอบ 1430+/- จุด แล้วย่อตัวลง เรามองว่าตลาดกำลังสะท้อนให้เห็นถึงการขาดปัจจัยหนุนที่ดีพอ อย่าง กำไรของตลาด ไม่มีเม็ดเงินใหม่ๆไหลเข้าตลาด ความกังวลว่าตลาดหุ้นและราคาน้ำมันจะผันผวนอีก เหล่านี้จะส่งผลให้เกิดแรงกดดันตลาดหุ้น จนกว่าจะเห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ เรามองว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือน พ.ค. จะผันผวนตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่มาจากการปรับฐาน เหตุมาจาก ดัชนีตลาดหุ้นแพงเกินไป ขณะที่กำไรของตลาดตามไม่ทัน
แนวโน้มการปรับฐานของตลาดหุ้นไทย น่าจะเห็นภาพในสัปดาห์นี้หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีน อย่าง ส่งออก นำเข้าหดตัวมากกว่าคาด นอกจากนั้นเป็นตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด โดยแนวรับสำคัญให้ดูที่ 1350 จุด หากไม่หลุดจะดีดกลับ แต่หากหลุด แล้วมีแรงขายหุ้นพลังงานซ้ำเข้ามา ดัชนีจะลงเร็วไปที่ระดับ 1320-1300 จุด แต่อย่างไรก็ตามภาพมหภาคทางเศรษฐกิจที่ยังประคับประคองตัวและไม่ทรุดตัวลง จะเป็นจุดพยุงไม่ให้ดัชนี SET ปรับตัวลงไปแรงเกินไป ยกเว้นจะมีความวุ่นวายทางการเมือง
แนวโน้มดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ มองว่ามีแนวโน้มลงต่อ สลับการดีดตัวขึ้นบางช่วง แต่การดีดกลับเป็นแค่การรีบาวน์ในช่วงสั้นเพื่อลงต่อ จนกว่าจะถึงแนวรับสำคัญที่ 1350 จุด ส่วนแนวโน้มวันนี้คาดดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะอ่อนตัวตามดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากปัญหาไฟป่าในแคนาดา วันนี้มองแนวต้านที่ 1394-1398 จุด ส่วนแนวรับที่ 1382-1378 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร เนื่องจากถูกปรับกำไรต่อหุ้นเพิ่มอย่างโดดเด่น คือ PTG และ ERW
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : แนวโน้มการปรับฐานของตลาดหุ้นไทย น่าจะเห็นภาพในสัปดาห์นี้หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีน อย่าง ส่งออก นำเข้าหดตัวมากกว่าคาด นอกจากนั้นเป็นตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด โดยแนวรับสำคัญให้ดูที่ 1350 จุด หากไม่หลุดจะดีดกลับ แต่หากหลุด แล้วมีแรงขายหุ้นพลังงานซ้ำเข้ามา ดัชนีจะลงเร็วไปที่ระดับ 1320-1300 จุด แต่อย่างไรก็ตามภาพมหภาคทางเศรษฐกิจที่ยังประคับประคองตัวและไม่ทรุดตัวลง จะเป็นจุดพยุงไม่ให้ดัชนี SET ปรับตัวลงไปแรงเกินไป ยกเว้นจะมีความวุ่นวายทางการเมือง แนวโน้มดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ มองว่ามีแนวโน้มลงต่อ สลับการดีดตัวขึ้นบางช่วง แต่การดีดกลับเป็นแค่การรีบาวน์ในช่วงสั้นเพื่อลงต่อ จนกว่าจะถึงแนวรับสำคัญที่ 1350 จุด ส่วนแนวโน้มวันนี้คาดดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะอ่อนตัวตามดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากปัญหาไฟป่าในแคนาดา วันนี้มองแนวต้านที่ 1394-1398 จุด ส่วนแนวรับที่ 1382-1378 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร เนื่องจากถูกปรับกำไรต่อหุ้นเพิ่มอย่างโดดเด่น คือ PTG และ ERW
Themes play :
PTTEP : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP โดยมีราคาเป้าหมาย 94 บาท หลังราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 0.34 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ +0.8% มาปิดที่ 44.66 ดออลลาร์/บาร์เรล แต่ราคาในตลาดล่วงหน้า (Oil future) ปรับตัวขึ้นกว่า 2% เนื่องจากเกิดไฟป่าเป็นวงกว้างในแหล่งทรายน้ำมันของแคนาดา โดยรายงานระบุว่าเขต ฟอร์ท แมคเมอร์เรย์ มีกำลังการผลิตทรายน้ำมันประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วัน คาดว่าจะต้องปิดการดำเนินงานจากผลของไฟป่าในขณะที่ท่อส่งน้ำมันบางแห่งได้ปิดดำเนินการไปแล้ว นอกจากนั้นเบเกอร์ ฮิวส์ ยังรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 อีก 4 แห่งมาอยู่ที่ 328 แห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกกับนักลงทุนอาจจะกลับมาเก็งกำไรการประชุมโอเปกว่าอาจมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกครั้งในวันที่ 2 มิ.ย. นี้ เราเชื่อว่าราคาหุ้น PTTEP ยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อในช่วงที่เหลือของปี เพราะกำไรมีแนวโน้มแข็งแกร่งจากโครงสร้างต้นทุนที่ลดลง ราคาขายเฉลี่ยคาดจะเพิ่มสูงขึ้นในปี FY17-18 และ upside ในระยะสั้นจากปริมาณสำรองพิสูจน์แล้วจากสินทรัพย์ LNG ในโมซัมบิก
ประเด็นในสัปดาห์
10 พ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Wholesales Inventories MoM เดือนมี.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.5%
11 พ.ค. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50%
13 พ.ค. : ยุโรปประกาศตัวเลข GDP SA YoY ไตรมาส 1/59
13 พ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนเม.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.3%
Fundamental Stock :
CPN : Company Note (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 58.25 บาท)
MEDIA : Sector Note (คำแนะนำ : ถือ Top pick : VGI)
ICHI : Company Note (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.90 บาท)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1380 จุด แนวต้าน 1395 จุด
Asia Capital Group (ACAP TB; THB 16.60) - ซื้อ
RPCG (RPC TB; THB 1.11) - ซื้อ
SET Index : แกว่งในกรอบ
Retail Research Team