- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 July 2014 17:51
- Hits: 2436
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แกว่งในกรอบจำกัด
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดบวก หลังจีนรายงานจีดีพีไตรมาส 2/57 ดีกว่าคาดที่ 7.5% ประกอบกับ ผลประกอบการและข่าวควบรวมกิจการบจ. สหรัฐฯ เป็นแรงหนุน
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA Housing Starts มิ.ย. คาด 1020k (Vs 1001k) Phil Fed Survey ก.ค. คาด 16 (Vs 17.8) EUR: CPI มิ.ย. คาด 0.5%y-y
+วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้อ +1,31 พันลบ. (ซื้อสะสม 11 วัน ใน 12 วันทำการล่าสุดรวม +1.81 หมื่นลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศขาย -721 ลบ. (ขายสะสม 2 วันรวม -2.24 พันลบ.)
+/- การเมือง รอฟังความคืบหน้าเรื่องการประมูลคลื่น 900 1800 MHz และการแจกคูปองทีวีดิจิตอล
คาดดัชนีฯ แกว่งในกรอบระหว่าง 1525-1540 จุด รายงานจีดีพีจีนช่วยลดความกังวลเรื่อง hard landing ขณะนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องหนุนดัชนีฯ เป็นขาขึ้นต่อเนื่อง แต่คาดการขายทำ กำไรบางส่วนของนักลงทุนสถาบันทำให้ดัชนีฯ ยังขึ้นไม่แรงนัก
กลยุทธ์: ซื้อสะสมหุ้น Top pick KBANK SCB SIRI LPN PS PTTEP ADVANC INTUCH 2Q57F เก็งกำไรหุ้น High earnings Play แนะนำ TWS TMB KTB SCCC IVL GOLD หุ้นคาดได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐปี 58 แนะนำ SCC TASCO
หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 6.0%) ได้แก่ ABC TH PACE SST AJD EFORL TWZ BJC RCL KCE หุ้นที่ลงกว่า 2.5% ได้แก่ BFIT AIRA TSR KASET SUPER
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ ADVANC+223 SCC+179 TCAP+159 PTT+114 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ CPF-95 BTS-53
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ SCB 156 KBANK 141 LH 39
Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ แกว่งในกรอบระหว่าง 1525-1540 จุด รายงานจีดีพีจีนดีกว่าคาด ช่วยลดความกังวลเรื่อง hard landing ขณะนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง ด้านรายงานผลประกอบการสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด
คาดดัชนีฯ วันนี้ แกว่งในกรอบระหว่าง 1525-1540 จุด แรงหนุนหลักยังมาจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติหลังบางโบรกเริ่มกลับมามีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย ส่วนปัจจัยต่างประเทศกลับมาเป็นแรงหนุนเช่นเดียวกัน หลังจีนประกาศจีดีพีไตรมาส 2/57 ดีกว่าคาด (แนะทยอยสะสมกลุ่มปิโตรฯ IVL SCC) ประกอบกับการประกาศผลประกอบการ บจ. สหรัฐฯ หุ้นใหญ่หลายตัวดีกว่าคาด และมีข่าวการควบรวมกิจการช่วยหนุน ส่วนไทย ยังคงจับตา กำไรของกลุ่มแบงก์ หลัง TMB LHBANK รายงานกำไรออกมาดีกว่าคาด (คาดกำไรสุทธิ 2Q57 ของ KTB, BAY มีแนวโน้มเติบโต YoY ดีกว่าธนาคารอื่นๆ ) อย่างไรก็ดี ดัชนีฯยังขึ้นได้ไม่แรงนักจากนักลงทุนสถาบันในประเทศขายทำกำไรบางส่วน
ปัจจัยต่างประเทศ sentiment กลับมาเป็นบวกทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ หลังจีนประกาศจีดีพีไตรมาส 2/57 ที่ 7.5% YoY ดีกว่าคาดที่ 7.4% ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่อง hard landing (เราประเมินเป็นปัจจัยบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์ในอนาคต แนะทยอยสะสมหุ้นปิโตรฯ IVL SCC) ด้านตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ บวกแรงหลังธนาคาร Banco Espirito Santo SA ของโปรตุเกสรายงานข่าวการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นรายใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องการชำระหนี้ ส่วนด้านสหรัฐฯ ผลประกอบการบจ. ยังเป็นแรงหนุน หลัง Intel ส่งสัญญานการฟื้นตัวดีส่งผลราคาหุ้นพุ่ง 9.3% นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการ ระหว่าง 21st
Century Fox Inc. และ Time Warner
ปัจจัยในประเทศ นักลงทุนต่างชาติยังซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง หลังบางโบรกต่างเริ่มมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย โดยล่าสุด Goldman Sach ได้ปรับคาดการณ์ค่าเงินบาทในช่วง 3 เดือน เป็น 32.00 บาท จากเดิม 34.00 บาท สะท้อนมุมมองว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ และน่าจะยังมีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง อีกด้านหนึ่งความเชื่อมั่นต่อเครดิตไทย ปรับตัวดีขึ้นด้วย สะท้อนจาก ระดับ Credit Default Swapของตราสารหนี้ไทย ลดลงวานนี้ 1.3bps เป็น 103.5 bps ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 ก.ค. 56 ซึ่งเราเริ่มเห็นการปรับมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย โดยก่อนหน้านี้ HSBC ปรับเป็น Overweight จากเดิม Underweight และ มีข่าวว่า CLSA เตรียมปรับเป้าดัชนีหุ้นไทยขึ้นเช่นกัน ด้าน KTZ ปรับเป้าดัชนีฯ ปีนี้เป็น 1537/1584 จุด (จากเดิม 1440 จุด) และให้เป้าปี 58 ที่ 1686 จุด
Event Plays:
1) Earnings Play: เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะรายงานกำไร 2Q57F เติบโตสูง อาทิ TMB KTB PTTEP SCCC IVL GOLD ANAN CSS JUBILE MINT SVI THANI THCOM
2) High Dividend Play: หลักทรัพย์ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงรายปีเฉลี่ยสูงกว่า 3.5% และจ่ายปันผลระหว่างกาลสม่ำเสมอในช่วงกลางปี รวมถึงมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย ได้แก่ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS TNITY CSL DTAC TTW TRT PTTGC SAMTEL
3) หุ้น Turnarond/โตก้าวกระโดด ปี 57/58 CFRESH, GOLD, MJD, THRE, TPOLY, TTA, VNG (turnaround) APCO, CSS, DCON, IFEC, IVL (โตก้าวกระโดด)
4) หุ้นที่มีประเด็นบวกต่างๆ : MFEC RASA TRUE (ปป.โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่) JAS (ซื้อหุ้นคืน) BLAND (คาดบันทึกกำไรพิเศษ+เตรียมออกกอง Impact growth reit) IFEC (ย้ายไปหมวดพลังงาน) LH QH (Hidden Asset สูง)
เทคนิค : พักตัวชั่วคราว หากไม่ลงต่ำกว่า 1517 จุด ยังมีลุ้นดีดกลับ
แม้กรอบใหญ่ของการเคลื่อนตัวยังเป็นขาขึ้น แต่คาดดัชนีฯ เข้าสู่ช่วงของการพักตัวระยะสั้น (sideway หรือย่อเล็กน้อย) โดยมองแนวรับบริเวณ 1517 จุดเป็นหลัก หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ มีโอกาสดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1535/1555 จุดได้ใหม่ (กรอบบนของ uptrend channel) แต่หากย่อตัวหลุด 1515 จุดลงมาแนะขายทำกำไรออกไปก่อน มีโอกาสเข้าสูงช่วงของการปรับฐานต่อเนื่อง โดยแนวรับหลัก รอบนี้อยู่ที่บริเวณ 1500/1475 จุด (กรอบล่างของ Uptrend channel)
ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
กองทัพยก.ค.ลื่นประมูล4จีหันใช้ความถี่อื่นเพื่อความมั่นคง-หลังถกกสทช.นาน2ปียอมให้ใช้เชิงพาณิชย์ ร่วมกับคลื่นเอกชนที่หมดสัมปทาน
บอร์ดกสทช.บรรลุข้อตกลงร่วมฝ่ายความมั่นคง ยกล็อต “รี-ฟาร์มมิ่ง” คลื่นโทรคมย่าน 900-1800 เมกกะเฮิรตซ์ ให้ไปจัดสรรประมูลใช้งานเชิงพาณิชย์ด้านกองทัพยอมเคลียร์คลื่น หันใช้คลื่นความถี่อื่นเพื่องานด้านความมั่นคงแทน “ฐากร” ระบุรอฟังคำสั่ง คสช.เดินหน้าประมูล 4จี
+2. จีนประกาศจีดีพีไตรมาส 2/57 ดีกว่าคาดที่ 7.5%
ภาวะเศรษฐกิจส่งสัญญานการฟื้นตัวในเดือน มิ.ย. ลดความกังวลเรื่อง Hard landing
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานวันนี้ว่า เศรษฐกิจจีน ขยายตัว 7.5% YoY ในไตรมาสเดือน เม.ย.-มิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่า เล็กน้อยจากที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 7.4% และเพิ่มขึ้นจาก 7.4% ในไตรมาสแรก ซึ่งหนุนความหวังที่ว่า เศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัว หลังจากที่รัฐบาลดำเนินมาตรการกระตุ้นหลากหลายมาตรการ
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน พุ่งขึ้น 17.3% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 17.2% ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 12.4% ในเดือนมิ.ย.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้
Capital Economics สร้าง leading indicator เพื่อใช้วัดการเติบโตของจีน ชี้ว่าแม้การเติบโตจะชะลอลงแต่เริ่มทรงตัวมากขึ้น (ดูรูป) ซึ่งหากดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ชี้ถึงการฟื้นตัว เช่น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 9.2% YoY จาก 8.8% ในเดือนก่อน
เศรษฐกิจมีความสำคัญต่อการบริโภคของโลก โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งการที่เศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาดช่วยลดความกังวลเรื่อง hard landing และการส่งออกของไทยในอนาคต
+3. พลังงานทางเลือกยังน่าลงทุน แนะซื้อสะสม GUNKUL IFEC
ประธานฯกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เผยอาจเดินหน้าโครงการโซลาร์ชุมชน-โซลาร์รูฟท็อป
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการ อนุรักษ์พลังงาน ระบุว่า อาจเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา(โซลาร์ รูฟท็อป) บนหลังคาศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของหัวหน้า คสช.ที่ต้องการ เน้นโครงการด้านพลังงานทดแทน
การประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ วันพฤหัสฯ ได้ทบทวนโครงการที่จะดำเนินการ ในปีงบประมาณ 56-57 จำนวน 23 โครงการ มีเม็ดเงินลงทุนรวมประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ยกเลิกโครงการ เพราะกังวลต่อการใช้งบประมาณ ที่อาจไม่ทันตามกำหนด และบางโครงการต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดด้วย ขณะที่การประชุมในวันนี้ได้เห็นชอบ 2 โครงการ ได้แก่ การส่งเสริมงานวิจัย และพัฒนาด้านโครงการอนุรักษ์พลังงาน และด้านโครงการพลังงานทดแทน วงเงินรวม 400 ล้านบาท
สัปดาห์นี้ จะมีการทบทวนโครงการ โดยโครงการที่อาจ จะทำต่อ เช่น โซลาร์ชุมชน โครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการพลังงานจากขยะ
เรามองว่า กลุ่มพลังงานทางเลือกยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากอยู่ในแผนพัฒนาด้านพลังงานระยะยาวของรัฐบาล โดยหุ้นที่เราชอบที่สุด คือ GUNKUL นอกจากนี้ มองว่า IFEC มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจมาทำพลังงานทางเลือกอย่างเต็มตัว มีโอกาสโตก้าวกระโดด
4. Earnings Results: กำไรสุทธิ 2Q57 ของ KTB, TMB และ BAY มีแนวโน้มโตดีกว่าธนาคารอื่นๆ
เราคาดธนาคารที่เราศึกษาจะมีกำไรสุทธิรวม 5.1 หมื่นล้านบาท ใน 2Q57 (+3% ทั้ง YoY และ QoQ) คาดสินเชื่อยังขยายตัวได้ดี 6% YoY แต่ค่อนข้างทรงตัว QoQ ขณะที่ NIM ค่อนข้างทรงตัว YoY (ยกเว้น BBL, TMB, BAY และ TCAP) และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ ขณะที่การตั้งสำรองปกติสำหรับธนาคารส่วนใหญ่น่าจะยังสูงอยู่ทั้ง YoY และ QoQ เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยง NPL ที่สูงขึ้น จากผลกระทบของเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่หลายธนาคารเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น (น่าจะได้แก่ KTB, KKP, และ TISCO) จึงมีแนวโน้มตั้งสำรองพิเศษ เผื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และเพื่อการประเมิน NPL เชิงคุณภาพใน 2Q57 ขณะที่กำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มใน 1H57 น่าจะยังชะลอตัว คาดติดลบ 1% YoY เป็นกำไรรวมที่ประมาณ 1.02 แสนล้านบาท
เราคาดว่า 3 ธนาคาร (KTB, TMB และ BAY) จะมีกำไรสุทธิโตแข็งแกร่งขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งส่วนหนึ่งคาดจะเป็นผลมาจากฐานกำไรสุทธิต่ำใน 2Q56 ที่ธนาคารดังกล่าวมีการตั้งสำรองหนี้พิเศษสูงเผื่อรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว
ส่วนธนาคารที่น่าจะมีแนวโน้มกำไรสุทธิลดลงแรงกว่ากลุ่มฯ YoY ได้แก่ กลุ่มที่มีรายได้มาจากธุรกิจสินเชื่อรถยนต์และตลาดทุนในสัดส่วนสูง โดยเฉพาะ KKP, TISCO และ TCAP โดยคาดธนาคารดังกล่าวจะเห็นสินเชื่อหดตัวลงทั้ง YoY และ QoQ รวมทั้งยังมีแนวโน้มตั้งสำรองหนี้ในระดับสูงต่อเนื่อง จากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอจากภาคสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว อนึ่ง ปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันของ SET ใน 2Q57 อยู่ที่ 40.8 พันล้านบาท ลดลง 47% จาก 58.6 พันล้านบาท ใน 2Q56 แต่เพิ่มขึ้น 17% จาก 30.8 พันล้านบาท ใน 1Q57
คุณภาพสินทรัพย์ยังอ่อนแอลง QoQ
คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารใน 2Q57 น่าจะอ่อนแอลง QoQ สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน โดยเฉพาะสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มือสอง, สินเชื่อผู้บริโภคแบบไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อ SME ตามลำดับ อย่างไรก็ดี เราคาดว่าสถานการณ์ NPL จะยังอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ และน่าจะเห็นความเสี่ยง NPL ลดลง โดยเฉพาะในปี 58 จากแนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองปรับตัวดีขึ้น
ส่วนประมาณการของ Bloomberg คาด 2Q57F ที่จะทยอยประกาศบงบการเงินสัปดาห์นี้ นำโดยกลุ่มแบงก์ ส่วนบจ.กลุ่มที่มิใช่สถาบันการเงินจะทยอยประกาศในสัปดาห์ต่อไป นำโดย DCC BIGC PTTEP TTW PSL
สหรัฐฯ: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ Bank of America, EBay (16/7) Google, Morgan Stanley, IBM(17/7) GE, Honeywell(18/7)
5.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : จับตาการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด Jellen วันอังคาร-พุธ/China 2Q57F GDP คาดเติบโต 7.4%y-y
วันพฤหัสฯ17 ก.ค. USA Housing Starts มิ.ย. คาด 1020k(Vs 1001k) Phil Fed Survey ก.ค. คาด 16 (Vs 17.8) EUR: CPI มิ.ย. คาด 0.5%y-y
วันศุกร์ 18 ก.ค. USA Michigan Survey ก.ค. คาด 83 (Vs 82.5) EUR ดุลบัญชีเดินสะพัด พ.ค. คาด +21 bn EUR (Vs +21.5bn.)
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
จีนเผยการผลิตเหล็กรายวันพุ่งเป็นประวัติการณ์ในเดือน มิ.ย. สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตเหล็กดิบรายวันของจีนเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือน มิ.ย. สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.31 ล้านตัน โดยสวนทางการชะลอตัวของอุปสงค์ ตามฤดูกาล การผลิตโดยรวมในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.5% สู่ 69.3 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ลดลง 1.6% จากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี ผลผลิตอยู่ที่ระดับ 828.6 ล้านตัน โดยเพิ่มขึ้น 6.3% จากปีที่ผ่านมา
NAHB เผยดัชนีตลาดบ้านเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน ก.ค. สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยดัชนี ตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 53 ในเดือน ก.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ระดับ 50 ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49 ในเดือนมิ.ย.
เฟด เผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่ม 0.2% ในเดือน มิ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน มิ.ย. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน มิ.ย. หลังเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน พ.ค.
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิด New High รับข่าว M&A, ผลกำไรดีกว่าคาดของ INTEL
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวก ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 77.52 จุด หรือ 0.45% สู่ระดับ 17,138.20 จุด ดัชนี S&P 500 กลับมาปิดบวก 8.29 จุด หรือ 0.42% สู่ระดับ 1,981.57 จุด Nasdaq ปิดเพิ่ม 9.58 จุด หรือ 0.22% สู่ระดับ 4,425.97 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูง เป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการล่าสุดและผลประกอบการที่แข็งแกร่ง หุ้นไทม์ วอร์เนอร์พุ่งขึ้น 17.1% หลังบริษัท ทเว็นตี้-เฟิร์ส เซนจูรี ฟ็อกซ์ ยืนยันการเสนอเทคโอเวอร์ไทม์ วอร์เนอร์วงเงิน 8.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธ หุ้นทเว็นตี้-เฟิร์ส เซนจูรี ฟ็อกซ์ร่วง 6.2% ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 1.1% นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้น อินเทลซึ่งทะยานขึ้น 9.3% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 สูงเกินคาด พร้อมทั้งประกาศซื้อคืนหุ้น มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนราคาหุ้นไอบีเอ็ม ปรับตัวขึ้น 2.1% หลังจากบริษัทเผยแผนเป็นหุ้นส่วนกับแอ๊ปเปิ้ล ในการพัฒนาแอพลิเคชั่นต่างๆสำหรับระบบไอโอเอสของแอ๊ปเปิ้ลส่วนดัชนี S&P 500 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดพุ่งขึ้น 1%
+ ตลาดหุ้นยุโรป พุ่งขึ้นรับข่าว M&A, จีนเติบโตดี
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดบวก FTSE ปิดเพิ่มขึ้น 74.22 จุด หรือ 1.11% สู่ 6,784.67 จุด ดัชนี CAC40 ปิดบวก 63.75 จุด หรือ 1.48% สู่ 4,369.06 จุด และ DAX ปิดสูงขึ้น 139.86 จุด หรือ 1.44% สู่ 9,859.27 จุด
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่หลังจากบริษัทริโอ ตินโตเปิดเผยรายงานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และจีนเปิดเผยตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าพึงพอใจ และจากการฟื้นตัวของหุ้นธนาคารแบงโก เอสปิริโต ซานโต (BES) ของโปรตุเกส รวมถึงข่าวที่ว่าบริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ปของสหรัฐ อาจจะยื่นเสนอซื้อเมกกิทท์
หุ้น BES พุ่งขึ้นเกือบ 20 % หลังจากดิ่งลงแตะสถิติต่ำสุดในวันอังคาร ช่วยหนุนดัชนี PSI 20 ของตลาดหุ้นโปรตุเกสพุ่ง 187.65 จุด หรือ 3.07 % สู่ 6,299.50 จุด นักลงทุนบางรายเริ่มมองว่าหุ้น BES มีราคาถูก ถึงแม้บริษัทผู้ถือหุ้นในตระกูลเอสปิริโต ซานโตไม่สามารถชำระหนี้ 1 พันล้านดอลลาร์ได้ก็ตาม หุ้น BES ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งห้ามการทำชอร์ตเซลในหุ้นตัวนี้ และจากการคาดการณ์ที่ว่า BES สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้ถ้าหากมีความจำเป็น
*ราคาน้ำมันดิบ Nymex กลับมาปิดบวก หลังสต๊อกดิ่ง
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ส.ค. ปิดลดลง 0.17 ดอลลาร์ สู่ 105.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. กลับมาปิดเพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 101.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ในวันพุธ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ค. สต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลง 7.5 ล้านบาร์เรล สู่ 375.0 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันปรับเพิ่มอัตราการกลั่นน้ำมันขึ้นเป็นอย่างมาก โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สต๊อคน้ำมันดิบอาจลดลงเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล EIA รายงานว่า สต๊อคน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันตามสัญญาในตลาด NYMEX ลดลง 650,000 บาร์เรล สู่ 20.3 ล้านบาร์เรล, สต๊อคน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สู่ 124.3ล้านบาร์เรล, สต๊อคน้ำมันเบนซินปรับขึ้น 171,000 บาร์เรล สู่ 214.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำ ลังการกลั่นน้ำ มันพุ่งขึ้น 2.2 % สู่ 93.8 % ราคาน้ำ มันดิบเบรนท์ได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียปรับขึ้นสู่ระดับใกล้ 600,000 บาร์เรลต่อวัน
+ราคาทองคำ ฟื้นตัวจากแรงซื้อเพื่อเก็งกำไร
วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด กลับมาเพิ่มขึ้น 2.70 ดอลล์ สู่ 1,299.80ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรทองในวันพุธ นอกจากนี้ ราคาทอง ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิค หลังจากราคาทองพบกับแนวรับที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันใกล้ 1,290 ดอลลาร์ ราคาทองชะลอการปรับขึ้น หลังจากมีรายงานว่า ผลผลิตภาคโรงงานของสหรัฐ พุ่งขึ้นในไตรมาส 2 ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยตัวเลขนี้ ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทอง
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ผลผลิตภาคโรงงานพุ่งขึ้น 6.7 % ต่อปีในไตรมาส 2 ซึ่งถือเป็นอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2012 และเทียบกับอัตราการเติบโตที่ 1.4 % ในไตรมาสแรกปีนี้ราคาทองได้รับแรงกดดัน หลังจากนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขา ดัลลัสกล่าวในวันพุธว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงต้นปีหน้า และเฟดน่าจะเริ่มต้นปรับลดขนาดงบดุลลง ในเดือนต.ค.ปีนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเฟดมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 8
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลงอีก 27 จุดมาปิดที่ 755 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501
[email protected]
02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564
[email protected]
02-624-6270