- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 03 May 2016 23:44
- Hits: 3063
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
สั้น-ไซด์เวย์
Stock Picks-Apr 2016 : Fundamental : BA, KBANK, MINT, PTTGC, TMT
Dark Horse : GLOBAL, TPIPL
Fundamental Pick -Today: BA(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, DCC, AP, LPN, QH, SPALI, MODERN, SNC, TCAP, TMT, BTSGIF, DIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : M 24% AMATA 18% SAWAD 17% SIRI 16% CBG 15.7% PTTEP 13.5% WHA 11%
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ดัชนีฯวันศุกร์พลิกมาปรับตัวขึ้นได้ 4.70 จุด กลับมายืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้อีกครั้ง ปิดที่ 1,404.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 40 พันล้านบาท ก่อนเทศกาลหยุดยาว มีการกลับมาซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มหลัก ในประเด็นผลการดำเนินงาน 1Q59 ที่ทยอยประกาศในระยะนี้ รายย่อยและพอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ แต่ต่างประเทศและสถาบันขายสุทธิ
แนวโน้มตลาด : ปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปรับตัวขึ้นได้บ้าง หลังที่มีช่วงปรับตัวลงก่อนหน้านี้ การขึ้น/ลงของตลาดหุ้นสหรัฐส่วนใหญ่เป็นปัจจัยภายในสหรัฐเอง ระยะสั้นตลาดหุ้นเอเชียทยอยรับรู้ข่าวลบเรื่อง BOJ ไม่ส่งสัญญาณใช้นโยบายผ่อนคลายไปในราคาระดับหนึ่งแล้วและมีช่วงปรับตัวลงในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะส่งผลต่อตลาดลดลง และในสัปดาห์นี้คาดว่าตลาดยังคงจับตานโยบายการเงินของธนาคารกลางต่อแต่เป็นฝั่งสหรัฐ ซึ่งในสุดสัปดาห์นี้คืนวันศุกร์สหรัฐจะมีประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาลดลงจากการเพิ่มขึ้นในเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ 206,000 ตำแหน่ง หากออกมาต่ำกว่าที่คาด ตลาดจะตีความถึงโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยช้า ในทางตรงกันข้ามหากออกมาสูง โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยเร็วจะเพิ่มขึ้นและกดดันตลาดหุ้น ในเบื้องต้นตลาดยังคงคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อยอีก 1 ครั้งในปีนี้ เป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะกลาง ส่วนประเด็นเรื่องน้ำมันที่กลับมาปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยตัวเลขสต๊อกและกำลังการผลิตของผู้ผลิตหลายประเทศยังคงเพิ่มขึ้น ทั้งอิรักและรัสเซีย รวมถึงกลุ่มโอเปคเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานสั้น หากราคาฟิวเจอร์ที่เทรดวันนี้ยังคงปรับตัวลงต่อ โดยรวมตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังถูกค้ำไว้ด้วยสภาพคล่องที่สูงและส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ซึ่งเราประเมินว่าหากเฟดยังมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย ในที่สุดแล้วสภาพคล่องที่อยู่ในระดับสูงจะลดลงไป ซึ่งตลาดหุ้นจะตอบสนองเชิงลบก่อนขึ้นดอกเบี้ยจริงประมาณ 2-3 เดือน ในขณะที่ผลประกอบการหุ้นไทยฝากความหวังไว้ที่หุ้นกลุ่มพลังงานที่ปี่ที่แล้วฐานต่ำ ทำให้มีการเติบโต แต่ราคาน้ำมันยังผันผวน ในขณะที่การเติบโตของหุ้นกลุ่มอื่นไม่โดดเด่น ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบกว้าง แต่ในที่สุดระยะกลางมีโอกาสได้รับผลกระทบหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยในปลายปี
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ญี่ปุ่น : นิกเกอิปิดลบ 518.67 จุด นำโดยหุ้นส่งออกหลังเยนแข็งค่า
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบกว่า 3% วันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มส่งออก เนื่องจากเงินเยนได้แข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐ
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปิดที่ 17,891.16 จุด พุ่งขึ้น 117.52 จุด หรือ +0.66%
ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค.ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทอเมซอน
+ ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 50.8
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 50.8 ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากระดับ 51.8 ในเดือนมี.ค. แต่ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
- ราคาน้ำมัน : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.)
หลังจากมีรายงานว่า การผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนเม.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่างส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด
+ ราคาทองคำ : ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ระดับ 1,295.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีรายงานว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวขึ้นในเดือนเม.ย.
+ เศรษฐกิจยูโรโซนผ่านพ้นระยะชะลอตัวมาแล้ว
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนขยายตัว 0.6% ในไตรมาสแรกของปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนผ่านพ้นระยะชะลอตัวมาแล้ว หลังจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจถอดถอยนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551
ปัจจัยในประเทศ
+ เศรษฐกิจไทย : ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมี.ค. +1.83%YoY
สศอ.เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมี.ค. 59 กลับมาขยายตัวที่ +1.83%YoY หลังจากติดลบ 2 เดือนติดต่อกัน อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมมี.ค.59 อยู่ที่ 72.49 สูงสุดในรอบ 3 ปี สำหรับงวด 1Q59 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม -1.08%YoY สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการผลิตมากขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ อาหาร และรถยนต์
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : การฟื้นตัวของ MPI เดือนมี.ค.ถือเป็นสัญญาณบวก แต่เรายังไม่แน่ใจว่าจะยั่งยืนต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้หรือไม่ ซึ่งต้องติดตามตัวเลขในช่วง 2Q59 ต่อไป ทั้งนี้ส่วนหนึ่งของการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมของไทยจะเกี่ยวโยงกับการส่งออกและเศรษฐกิจโลกด้วย ถ้าการส่งออกยังไม่ฟื้นตัวดีก็มีโอกาสที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยจะยังคงต่ำ ทั้งนี้เพราะรายได้จากการส่งออกคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของจีดีพีไทย และอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับการส่งออก
+ TU (ราคาปิด 20.70 บาท) : คาด Core Profit งวด 1Q59 เติบโตก้าวกระโดด YoY
คาดการณ์กำไรหลัก 1Q59 เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นเท่าตัวสู่ระดับ 1.1 พันล้านบาท โดยรายได้เติบโต 8.4% เป็น 31 พันล้านบาทจาก MW Brands ที่ยุโรป Chicken of the Sea ก็ทำตลาดทูน่ากระป๋องที่เน้นกำไรได้ดีขึ้น ธุรกิจกุ้งฟื้นตัว รวมทั้งทำงบการเงินรวมกับ Rugen Fisch เป็นระยะเวลา 2 เดือน แนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางที่ดีในระยะยาว มีการตั้งหน่วยธุรกิจบริการอาหารประเภทใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนภัตราคารระดับโลก รวมทั้งการขยายไปยังตลาด emerging ใหม่ๆที่ยังไม่เคยไป เช่น ตะวันออกกลาง และประเทศในเอเซีย รวมทั้งการเน้นผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม ส่วนการทำดีลการซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) ก็จะเป็น Upside ฝ่ายวิจัยฯ DBSV แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 22.30 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 59 ที่ 17 เท่า
+ BA (ราคาปิด 25.50 บาท) : ผลประกอบการแข็งแกร่ง
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงม.ค.-มี.ค.59 เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 15.5%YoY และเมื่อปรับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาลแล้วจะขยายตัว 14.8%YoY โดยนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่ไม่รวมรัสเซียซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบางกอกแอร์เวย์ปรับตัวดีขึ้นมาก ขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีนยังขยายตัวแข็งแกร่ง 26.6%YoY คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q59 เติบโตแข็งแกร่ง ทั้งจากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก และต้นทุนน้ำมันที่ใช้ในไตรมาสนี้ก็ลดลงมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย (ประเมินเบื้องต้นว่าต้นทุนน้ำมันในไตรมาสนี้จะลดลงไม่น้อยกว่า 40%) แนะนำซื้อ โดยฝ่ายวิจัยฯ DBSV ได้คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 59-60 จะเติบโต 58% และ 18% เป็น 2.8 พันล้านบาท และ 3.3 พันล้านบาท ตามลำดับ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 59-60 ต่ำเพียง 10 เท่าและ 9 เท่า ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net gearing) ต่ำเพียง 0.1 เท่า ให้ราคาพื้นฐาน 27.60 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี SOTP
+ ธปท. คาดเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังค่อยๆฟื้นตัว
ธปท. เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีแผ่วลงตามคาดการณ์ ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากการลงทุนโครงการภาครัฐที่จะมีเพิ่มขึ้นช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 60 รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายภาครัฐที่จะทยอยออกมาต่อเนื่อง อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ช่วยให้ทิศทางของอัตราการขยายตัวครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก
- ศูนย์วิจัย SCB เตือนผู้ประกอบการอสังหาฯระวังเปิดโครงการใหม่ หน่วยเหลือขายสูง
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) แนะผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระมัดระวังการเปิดโครงการใหม่ และศึกษาตลาดในแต่ละเซกเมนต์ให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันภาวะที่อยู่อาศัยล้นตลาด โดยคาดว่าสถานการณ์การแข่งขันจะมีค่อนข้างสูง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้า ขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลนับถึงสิ้นปี 58 มีเกือบ 171,200 หน่วย สูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี
+ การเมือง: นายกฯ เมินกระแสโจมตี รธน. ควรมาออกเสียงลงประชามติเพื่อแสดงออก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสนใจกระแสต่อต้านโจมตีรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะประเด็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่แสดงออกเกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เพราะขณะนี้ให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้อง และความปลอดภัยของประชาชนเท่านั้น
+ GRAMMY คาดปีนี้ขาดทุนลดลงหลังทีวีดิจิตอลเริ่มฟื้น-เล็งปรับขึ้นค่าโฆษณา
GRAMMY กล่าวว่า บริษัทฯคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่า 9.7 พันล้านบาทในปีก่อน และจะมีผลขาดทุนสุทธิลดลง จากปี 58 ที่ขาดทุนสุทธิ 1.15 พันล้านบาท เนื่องด้วยการดำเนินธุรกิจหลักในปีนี้ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจทีวีดิจิตอลที่ได้ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 2 เต็มปี และเป็นช่วงของการเติบโต หลังปีแรกเป็นช่วงของการลงทุน ส่งผลให้ธุรกิจทีวีดิจิตอลในปีนี้น่าจะมีผลขาดทุนลดลง อีกทั้งยังมั่นใจว่าธุรกิจทีวีดิจิตอลจะถึงจุดคุ้นทุนได้ภายใน 5 ปี (ปี 58-62)
+ 'สมคิด'เผย 'แอร์เอเชีย มาเลย์' สนเข้าตลาดหุ้นไทย - ร่วมทุนกับ THAI
บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมองว่าไทยเป็นเกตเวย์ของอาเซียน ซึ่งมีโอกาสจะเติบโตในธุรกิจการบินอย่างมาก และมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาค จึงสนใจจะเข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯของไทยด้วย นอกจากนั้น AirAsia ยังสนใจจะร่วมทุนกับ THAI เพื่อให้เกิดความร่วมมือ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องถือหุ้นใหญ่หรือไม่
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]