- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 April 2016 17:16
- Hits: 2807
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -210.79, NASDAQ -57.85, S&P -19.34
FTSE +2.49, CAC -2.04 และ DAX +21.32
ภายใต้ปัจจัยลบจาก (1) ผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ มีมติคงนโยบายในการเพิ่มฐานเงินรายปีที่ระดับ 80 ล้านล้านเยน สวนทางกับที่คาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้ (2) ตัวเลขประมาณการ GDP เบื้องต้น - 1Q/59 ของสหรัฐฯ ขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ 1Q/57 และต่ำกว่าที่คาดว่าจะขยายตัว 0.7% เป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่ากดดันการส่งออก และ (3) การเทขายหุ้นแอปเปิล ของนายคาร์ล ไอคาห์น นักลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐฯ
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากดัชนีการจ้างงานของเยอรมัน - เม.ย. อยู่ที่ 108.1 จุด เพิ่มขึ้นจาก 107.4 จุด เมื่อมี.ค. และราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$0.70 อยู่ที่ US$46.03 ต่อบาร์เรล โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก (1) การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุดอยู่ที่ 8,938,000 บาร์เรล/วัน จากระดับสูงสุด 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อก.พ.'58 และ (2) เงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
ขณะที่อยู่ระหว่างการประชุมรอบใหม่ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก และนอกกลุ่มโอเปก) ในเดือนมิ.ย. เพื่อหารือในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$16.0 อยู่ที่ US$ 1,266.4 ต่อออนซ์ หลักๆ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ทำให้สัญญาน้ำมันทองคำมีราคาลดลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -771 ล้านบาท สะสม YTD +13,885 ล้านบาท (ปี'57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 29 เม.ย. 2559
29/4/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
(1) รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค.
(2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนเม.ย.
(3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนเม.ย.
ทิศทางตลาด
มีโอกาสปรับลงอีก? หลังวานนี้ดัชนีปรับลดลงตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ โดยผิดหวังต่อผลการประชุมของ BOJ ที่ไม่มีการมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลข GDP - 1Q/59 ออกมาต่ำกว่าคาด นอกจากนี้คาดอาจมีการขายทำกำไรออกมา เพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว (สัปดาห์หน้าซื้อขาย 2 วัน) ทำให้คาดดัชนีมีโอกาสปรับลงอีก
ส่วนประเด็นในประเทศ ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ ทางด้าน Fund Flow ต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องกว่า 5,000 ล้านบาท (เดือนเมย.'59) อย่างไรก็ตามแนะติดตามค่าเงินบาท ล่าสุดแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 34.93 - 34.97 บาท ซึ่งอยู่นทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ทำให้คาด Fund Flow ยังมีโอกาสไหลกลับเข้ามาในภูมิภาค รวมถึงไทย
ขณะที่อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน - 1Q/59 ที่คาดมีแรงเก็งกำรต่อเนื่องถึงกลางเดือน พ.ค. และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่องคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ ยังมีมุมมองที่ดีต่อการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่อเนื่องช่วง 2Q/59 - 3Q/59 ซึ่งล่าสุด ครม. เห็นชอบงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,200 ล้านบาท คาดประมูลในช่วง ส.ค. - ก.ย. นอกเหนือจากโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี) เป็นต้น ที่เห็นชอบไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างภาษี (มีผลต่อภาษีในปี'60) เช่น เพิ่มค่าลดหย่อน จากเดิม 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท และหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นต้น คาดช่วยเพิ่มอำนาจซื้อ และคาดเป็น Sentiment ที่ดีต่อกลุ่มค้าปลีก
กลุ่มที่อยู่อาศัย เช่น PS และ LPN เป็นต้น ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการบ้านประชารัฐ รวมถึงการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร ที่คาดเป็นปัจจัยหนุนในระยะกลาง - ยาว
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มการบินและสนามบิน เช่น AOT, BA, AAV
(2) กลุ่มพลังงาน PTT และ PTTEP ยังมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกิน
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในช่วง 1Q/59 และคาดจะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจำนวนมากอีก
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TPIPL
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL)
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 1.84% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.'54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.45 อยู่ที่ 15.22
หุ้นแนะนำ : KTC
หุ้นแนะนำ
KTC : ราคาเป้าหมาย (ปี 2559) 110.00 บาท
ประกาศผลการดำเนินงาน - 1Q/59 มีกำไรสุทธิ 635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%yoy หรือคิดเป็น 2.46 บาท/หุ้น โดยมีรายได้รวม 4,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% แบ่งเป็น รายได้ดอกเบี้ยบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล เติบโต 8% และ 16% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีหนี้สูญรับคืน เพิ่มขึ้น 21% และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 13% โดย KTC สามารถควบคุมต้นทุนทางการเงินได้ดี โดย,uค่าใช้จ่ายรวม เพิ่มขึ้น 13% หลักๆ จากค่าการตลาด
กลยุทธ์ที่แตกต่างของ KTC เมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยการเพิ่มงบการตลาด ส่งผลให้ทั้งยอดใช้จ่ายผ่านบัตร และสินเชื่อส่วนบุคคล ในปี'58 เติบโต 12.3% และ 11.6% ดีกว่าอุตสาหกรรม ที่ขยายตัวเพียง 6.6% และ 3.8% ตามลำดับ
ขณะเดียวกันมีการปรับโครงสร้าง Source of Fund จากธนาคาร มาเป็นหุ้นกู้ และ Short Term Debt ทำให้คาดช่วยให้อัตราดอกเบี้ยจ่ายลดลง โดยคาดอยู่ที่ 3.7% ลดลงจาก 3.74%เมื่อปี'58
รวมถึงมีความสามารถในการเก็บหนี้ สะท้อนจากตัวเลข NPL/Loans ที่ต่ำเพียง 2.1% และ Bad Debt Recovery Ratio ที่สูงถึง 40.43% นอกจากนี้ยังมีการตั้งสำรองหนี้สูงกว่า NPL ถึงเกือบ 4 เท่า (Coverage Ratio)
ประเมินราคาเป้าหมายปี '59 อยู่ที่ 110.00 บาท
หุ้นในข่าว(ข่าวหุ้น 29/04/2559)
SUPERแรงดีติดลมบน ขายไฟกระฉูด409MW ลงทุน 'อิเควเตอร์ฯ' ดัน PPA สูงสุดในไทย
"SUPER" แจ้ง COD โครงการโซลาร์ฟาร์มเพิ่ม 14 โครงการ กำลังการผลิตรวม 83.25 MW ดันยอดขายไฟฟ้ารวมกระฉูด 409.25 MW ด้านที่ประชุมผู้ถือหุ้นไฟเขียวซื้อหุ้น "อิเควเตอร์ โซลาร์" ดัน PPA แตะ 627.90 MW สูงสุดในไทย
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย - บาท'
RS เด้งรับ Q1 ฟื้น คาดพลิกมีกำไร ซื้อเป้า 15.30บ.
"อาร์เอส" สุดฮอต! หุ้นวิ่งแรงรับงบไตรมาส 1/59 แกร่ง จ่อพลิกมีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท รับแรงหนุนธุรกิจอีเวนต์-เครื่องสำอางขาขึ้น โบรกฯ ประเมินกำไรปี 59 โตแรง 358 ล้านบาท แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 15.30 บาท
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 12.40 บาท'
JWDเนื้อหอมกองทุนซื้อ 6% รับสิทธิ์ปันผลหุ้น+เงินสด
"JWD" เนื้อหอมกองทุนต่างชาติ-กองทุนในประเทศ ทุ่มงบ 780 ล้านบาท ทำบิ๊กล็อตซื้อหุ้น 41 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 6.84% ในราคาหุ้นละ 19 บาท รับพื้นฐานแกร่ง จ่ายหุ้นปันผล 10:7 ควบเงินสด 3 สตางค์ กำหนดขึ้น XD วันที่ 4 พ.ค.นี้
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 23.00 บาท'
CK วางเป้าปี 59 คว้า 25% ประมูลงานรัฐ4แสนล้าน
"ช.การช่าง" ประกาศปีนี้พร้อมเข้าประมูลงานรัฐ มูลค่ารวม 4 แสนล้านบาท ตั้งเป้าได้รับงาน 20-25% หนุนแบ็กล็อกสิ้นปีพุ่งเกือบ 2 แสนล้านบาท ส่วนรายได้ก่อสร้างปีนี้วางเป้าโกยกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท เล็งสยายปีกลงทุนเมียนมา
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 32.50 บาท'
PTTEPงบไตรมาสแรกทรุด กำไรวูบ 5,624 ล้าน ผลกระทบราคาขายดิ่ง
PTTEP กำไรไตรมาส 1 วูบ 5,624 ล้านบาท รับผลกระทบราคาเฉลี่ยดิ่งเหลือ 35 เหรียญ ย้ำเป้าปี 59 รักษาปริมาณขาย 3.22 แสนบาร์เรลต่อวัน ลุ้นราคาน้ำมันทยอยฟื้นตัว
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 68.72 บาท'
JUBILEรายได้โต15% คุมต้นทุน-ดันยอดขาย รุกตลาดออนไลน์เพิ่ม
"JUBILE" มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 10-15% มุ่งเน้นบริหารต้นทุน-เพิ่มยอดขายสาขาเดิม เดินหน้ารุกตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น รับกระแสคนนิยมซื้อออนไลน์
ข้อมูล Consensus (www.settrade.com) : ราคาเป้าหมายเฉลี่ย - บาท'
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788