WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RHB OSK บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment

   ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ผิดหวังต่อผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่ผิดไปจากที่ตลาดคาดพอสมควร ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -1.17%, -1.19%, -0.92%
       ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก แรงหนุนจากการดีดขึ้นของราคาน้ำมันดิบ แต่กดดันจากผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ทำให้ DAX, FTSE, CAC40 ปิด 0.21%, 0.04%, -0.04%
   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า


  ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง หลังทราบผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นที่มีมติคงนโยบายในการเพิ่มฐานเงินรายปีที่ระดับ 80 ล้านล้านเยน ซึ่งผิดไปจากที่ตลาดคาด เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่าญี่ปุ่นอาจมีมติขยายฐานเงิน หรือมีมาตรการดอกเบี้ยติดลบกับสินเชื่อบางประเภทเพื่อกระตุ้นสินเชื่อ รวมทั้งอาจมีการมาตรการดอกเบี้ยติดลบมากขึ้น แต่ผลประชุมกลับผิดคาด ทางด้านผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวว่า ต้องการเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ข้อมูลเศรษฐกิจและดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีการปรับลดแนวโน้มของเงินเฟ้อลง โดยคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจะขยายตัว 0.5% ในปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. ปีหน้า ต่ำกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 0.8% และคาดว่าขยายตัวที่ 1.7% ในปีงบประมาณ 2560 ต่ำกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 1.8% มุมมองของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่มีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น คาดว่าจะฟื้นตัวในระดับปานกลางต่อเนื่อง

       ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นต่อ ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นดิ่งลงกว่า 3.61% ในการซื้อขายวานนี้ รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วย ซึ่งมีรายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่เปิดเผยตัวเลขประมาณการ GDP เบื้องต้นในไตรมาส 1/59 ที่คาดว่าจะขยายตัว 0.5% ต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2557 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.7% ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ ทางด้านสศค. ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 59 ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.3% จากช่วงคาดการณ์ที่ 3.0-3.6% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ราว 3.7% ซึ่งการปรับลดประมาณการในครั้งนี้จะรวมผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งไว้แล้ว คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ GDP ประมาณ 0.1-0.5% จากการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากหลาย ๆ ปัจจัย โดยเฉพาะจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจโลก และปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคการส่งออก คาดว่าการส่งออกไทยจะหดตัว 0.7%

      ทั้งนี้ สศค. ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกลงเหลือโต 3.49% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.56% ในขณะที่บอร์ดของ KBANK ได้ปรับเป้าหมายทางการเงินของปีนี้ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยในส่วนของ NIM ปรับลดลงเหลือ 3.3-3.5% จาก 3.4-3.6% เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยรับมีแนวโน้มปรับลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และปรับเพิ่มต้นทุนสินเชื่อขึ้นไม่เกิน 1.9% จาก 1.7% เพื่อเตรียมสำรองเผื่อไว้รองรับเศรษฐกิจและคุณภาพสินทรัพย์ในระยะต่อไป แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะปรับฐานลงต่อ

กลยุทธ์การลงทุน

Trading : ไม่ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,380 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไรได้

Saravut Tachochavalit, Analyst TEL:+66(0) 2682 9754 Ext. 9754 EMAIL:[email protected]


apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!