WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

BOJ ทำวงแตก
  คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ ตามหุ้นสหรัฐเมื่อคืน และตลาดภูมิภาคที่เปิดร่วงเช้านี้ หลังจาก BOJ สร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุนโดยไม่ได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมตามที่ตลาดคาดไว้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของหุ้นน่าจะจำกัดโดย คำแถลงของนายกรัฐมนตรี Abe เร็วๆนี้ ที่ว่ากำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังในเดือน พ.ค. พร้อมงบพิเศษบรรเทาผลกระทบแผ่นดินไหวด้วย ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นลบ กระทรวงการคลังหั่นประมาณการอัตราเจริญเติบโตเศรษฐกิจไทยลงเป็น 3.1% จาก 3.7% หนี้ผู้ใช้แรงงานทำจุดสูงสุดใน 8 ปี KBANK ตั้งสำรองเพิ่มสะท้อนมุมมองเศรษฐกิจและคุณภาพสินทรัพย์

หุ้นเด่นวันนี้ : SPALI (Bt19.80; BUY; 16TP IAA Bt22.88, 16TP Bloomberg Bt20.10)
  SPALI เป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้าน-คอนโดระดับประเทศ เรายังมองเห็นว่ามีอนาคตที่สดใส ความโดดเด่นอยู่ที่อัตราปันผลตอบแทนที่น่าประทับใจ อีกทั้ง price pattern ทางเทคนิคมีสัญญาณซื้อ บริษัทเชื่อมั่นว่าจะมียอด Presales 5,000 ล้านบาท ในไตรมาส 1/59 ขณะที่ทั้งปีตั้งเป้าไว้ 24,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6%YoY เชื่อว่ายังมี Presales ที่ดีขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลังหลังจากเศรษฐกิจในประเทศเริ่มเห็นการฟื้นตัวแล้ว SPALI วางแผนเปิด 19-35 โครงการมูลค่ารวม 36,600 ล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้น 8.4% โดยตั้งเป้าเป็นรายได้ในปี 2559 นี้ 22,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 3%YoY ปัจจุบันมี Backlog ในมือแล้ว 38,000 ล้านบาท ในส่วนนี้คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 60% เราคาดว่ากำไรไตรมาส 1/59 จะเพิ่มขึ้น YoY จาก Presales party ซึ่งจัดเป็นโปรโมชั่นรองรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในการที่รัฐบาลลดค่าโอนลงเหลือ 0.1% ในช่วง 28 ต.ค.58 ถึง 28 เม.ย.59 IAA Consensus (สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน) คาดการณ์กำไรสุทธิฟื้นจากติดลบ 3% ในปีก่อน กลับมามีอัตราการเติบโต 6.3% ในปีนี้ และเติบโตต่ออีก 11.3%

       ในปี 2560 SPALI วางแผนจะขยายกิจการสู่ต่างจังหวัด และประเทศออสเตรเลีย ค่า PER ปี 2559 ต่ำเพียง 7.4 เท่า และคาดลดลงเป็น 6.6 เท่าในปี 2560 ขณะที่ PEG ปี 2559 อยู่ที่ 1.2 เท่า และ 0.6 เท่าในปี 2560 ไม่น่าประทับใจนัก แต่หากพิจารณาถึงเงินปันผลตอบแทนปีละ 5.2% แล้วเหมาะกับลงทุนระยะปานกลางถึงยาว อีกทั้งมุมมองทางเทคนิค Price Pattern ของ SPALI ยังคงมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ และหาก Price Pattern ของ SPALI สามารถปิดตลาดรายเดือน (วันนี้) ได้เหนือ 18.90 บาทได้ ก็จะทำให้ Price Pattern ของ SPALI กลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหลักจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) ไปสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ครั้งใหม่ทันที ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SPALI ยังคงมีแนวต้านเบื้องต้นอยู่ที่ 20 บาท ซึ่งหาก SPALI สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 20 บาทไปได้ คาดว่าจะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 21.40 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 22.80 บาท ตามลำดับ โดย SPALI มีจุด Stop Loss ของรอบนี้อยู่ที่ 19.40 บาท (Resistance: 19.90, 20.10, 20.50; Support: 19.60, 19.40, 19.00)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
  สศค. หั่นคาดการณ์ GDP สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) หั่นคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้เหลือ 3.3% จาก 3.7% เพราะความกังวลยอดส่งออกจากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและปัญหาโครงสร้างการส่งออกไทย รองผู้อำนวยการ สศค. ระบุว่าแม้ส่งออกเติบโตได้ในเดือน ก.พ.และมี.ค. ยอดส่งออกที่หดตัว 8.9% ใน ม.ค. ยังคงทำให้ต้องพาณิชย์ต้องลดคาดการณ์ส่งออกลงไปเป็นหดตัว 0.7% จากเดิมขยายตัว 0.1% (Bangkok Post)
  แก้กฎหมายเวนคืนที่ดินสำหรับทำโครงการระบบรางไทยญี่ปุ่น หลังองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นผู้ให้กู้หลักของโครงการระบบรางคู่สอบถามมายังรัฐบาลไทยว่าสามารถพัฒนาที่ดินตามแนวรางรถไฟสำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ ก.คมนาคมจึงอยู่ระหว่างพิจารณาใช้ ม.44 แก้กฎหมายเวนคืน ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผลจากคณะกรรมการกฤษฎีกา (Bangkok Post)
  มหาวิทยาลัยหอการค้าชี้หนี้แรงงานแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ภายใต้การเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังชลอตัวและการปรับเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพขณะที่ยังมีการตรึงค่าแรงขั้นต่ำ ส่งผลให้หนี้ของกลุ่มแรงงานต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 119,061 แสนบาท ตามผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจากจำนวนแรงงาน 1,212 คนซึ่งมีเงินเดือนน้อยกว่า 15,000 บาท หนี้ของผู้รับการสำรวจในสัดส่วน 96% มาจากค่าใช้จ่ายรายวัน ค่ายานพาหนะและการซื้อที่พักอาศัย และเป็นการกู้หนี้นอกระบบคิดเป็น 60% ของหนี้ทั้งหมด (The Nation)
  KBANK (162.00 บ., ซื้อ, 59 AWS TP 203.00 บ.) ได้ปรับเพิ่มอัตราส่วนประมาณการหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อเฉลี่ย (credit cost) ในปีนี้เพิ่มขึ้น 20bps เป็น 190bps การปรับประมาณการดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นและธนาคารจำเป็นที่จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพื่อให้สามารถควบคุมความเสี่ยงดังกล่าวได้ อีกทั้ง ธนาคารยังได้ปรับลดอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (net interest margin) เป้าหมายเหลือ 3.3-3.5% จาก 3.4-3.6% สะท้อนถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนหน้านี้ (Bangkok Post) ความเห็น: เราได้ปรับเพิ่มประมาณการ credit cost เป็น 190bps และให้ net interest margin อยู่ที่ 3.5% ส่งผลให้เราปรับประมาณการผลกำไรจากการดำเนินงานปี 59 ลง 7.5% เหลือ 4.03 หมื่นลบ., เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนหน้า และปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 203.00 บ. จากเดิม 205.00 บ.
  PTTEP (74.50 บ. ถือ ราคาเป้าหมาย AWS 68.00 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q59 อยู่ที่ 5.6 พันลบ. (+20% QoQ, -35% YoY) เป็นไปตามที่เราคาดแต่ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 4.5 พันลบ. (Bloomberg consensus) (SET) ความเห็น: เรายังคงประมาณการ ราคาเป้าหมาย รวมไปถึงคำแนะนำ ถือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็มวันนี้

ต่างประเทศ
  BOJ เลื่อนการขยายมาตรการทางการเงินในวันพฤหัส สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ในขณะเดียวกันความต้องการทั่วโลกที่ลดลง การแข็งค่าขึ้นของเงินเยนและการบริโภคที่ลดลงก็เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ บีโอเจยังได้ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อและถอยกลับมาที่เป้า 2% ภายใน 6 เดือน (Reuters) ความเห็น: บีโอเจอาจต้องการดูนโยบายทางการคลังที่นายกรัฐมนตรีอาเบะจะนำเสนอในการประชุมจี 7 ในเดือนพ.ค. ก่อนดำเนินการเพิ่มเติม และมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นหลังจากมีการตอบสนองเชิงลบต่ออัตราดอกเบี้ยติดลบ
  ราคาพันธบัตรสหรัฐระยะยาวปรับตัวเพิ่มเมื่อวันพฤหัส ราคาพันธบัตรอายุ 2 ปีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 1/59 ที่อ่อนแอได้เพิ่มข้อกังขาเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งหน้าและราคาเสนอซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 8/32 อัตราผลตอบแทน 1.831% ลดลง 3 bps จากเมื่อวันพุธและต่ำกว่าระดับเกือบสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 1.941% เมื่อวันอังคาร(Reuters)
  ดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโรขาดทุนรายวันมากที่สุดเมื่อเทียบกับเงินเยนในรอบกว่า 5 ปีเมื่อวันพฤหัส ตามมติของบีโอเจที่ไม่ผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม ดอลลาร์สหรัฐล่าสุดลดลงกว่า 3% เทียบกับเงินเยนที่ 108.06 เยน ซึ่งเป็นการลดลงรายวันที่มากที่สุดนับแต่ มี.ค. 54 เงินยูโรล่าสุดลดลง 2.8% เทียบกับเงินเยนที่ 122.70 เยน ซึ่งเป็นการลดลงรายวันมากที่สุดนับแต่มี.ค. 54 เช่นกัน (Reuters)

สหรัฐ :
  ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหนักเมื่อวันพฤหัส หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นทำให้ตลาดประหลาดใจโดยการคงอัตราดอกเบี้ยและไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งผลักดันให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นอีกเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ แม้ตลาดมีอารมณ์เป็นบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของเฟซบุ๊คก็ตามแต่ไม่สามารถชดเชยกับข่าวมติของบีโอเจได้ ราคาหุ้นเฟซบุ๊คแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 120.79 ดอลลาร์สหรัฐหลังรายได้จากโฆษณาในไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้น 57% (Reuters)
  ตัวเลขประมาณการจีดีพีสหรัฐขยายตัวเพียง 0.5% ในไตรมาส 1/59 ชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 2 ปีเนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลงและดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นส่งผลลบต่อการส่งออกและกำไรของบริษัทต่าง ๆ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ลดลงซึ่งกดดันกำไรของบริษัทน้ำมันได้ตัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนทางธุรกิจ เกือบทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจอ่อนแอลงในไตรมาส 1/59 โดยกลุ่มอสังหาเป็นดาวเด่นเพียงกลุ่มเดียว นักวิเคราะห์ได้ประมาณการว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตรา 0.7% ในไตรมาสดังกล่าวหลังจากขยายตัวในอัตรา 1.4% ในไตรมาส 4/58 อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการฟื้นตัวจากตลาดแรงงานอันแข็งแกร่ง (Reuters)
  ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง ยอดการขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐดีดกลับจากจุดต่ำสุด 42 ปีครึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่แนวโน้มยังคงเหมือนเดิมด้วยสภาพตลาดแรงงานที่ตึงตัว ตัวเลขเพิ่มขึ้น 9,000 สู่ระดับ 257,000 หลังปรับผลฤดูกาลแล้ว สำหรับสัปดาห์ที่แล้ว นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 260,000 ตัวเลขยังอยู่ระดับต่ำกว่า 3 แสน จุดที่บ่งชี้ว่าสภาพตลาดแรงงานดี ในช่วง 60 สัปดาห์ เป็นระยะเวลายาวที่สุดนับแต่ปี 2516 (Reuters)
  อาจมีลุ้นกลับมาเติบโตในไตรมาส 2/59 ผลสำรวจ ISM's manufacturing ที่มีความสัมพันธ์กับกิจการทางเศรษฐกิจอย่างมากได้ดีดกลับในช่วงเดือนหลังๆ นี้ โดยตัวเลขผลการผลิตอุตสาหกรรม (ISM’s PMI) อยู่ที่ 51.8 ในมี.ค. 49.5 ใน ก.พ. 48.2 ใน ม.ค. 48.0 ใน ธ.ค. 48.4 ใน พ.ย.และ 49.4 ใน ต.ค. (Reuters)

ยุโรป :
  ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปิดตลาดมีทั้งบวกและลบ แต่โดยรวมอ่อนตัวลงหลังจากที่ BOJ สร้างความผิดหวังให้กับตลาดด้วยการคงนโยบายทางการเงินไว้เช่นเดิม (Reuters)

เอเชีย :
  ญี่ปุ่น: ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวจะปิดเนื่องในวันหยุดประจำชาติในวันนี้ (วัน Showa) ขณะที่ดัชนี Nikkei สิ้นสุดสัปดาห์ปรับตัวลดลง 5% (Reuters)
  จีน: หน่วยกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนสั่งให้ตลาดแลกเปลี่ยนล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญของประเทศควบคุมการซื้อขายเก็งกำไรในสัปดาห์นี้ หลังจากราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวขึ้นรวดเร็ว ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่แตก โดยตลาดล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ ใน Dalian, Shanghai และ Zhengzhou มีคำสั่งให้นักลงทุนสถาบันที่สำคัญที่ไม่มี Background ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ต้องควบคุมในการซื้อขายของพวกเขา (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์ :
  ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 2% วันพฤหัส ทำจุดสูงสุดของปี 59 เป็นวันที่สามติดต่อกันโดยไม่สนว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะทำสถิติสูงสุดหรือผู้ผลิตหลักจะผลิตออกมาอย่างไม่หยุด Brent ปรับขึ้น 96 เซนต์ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้น 70 เซนต์ปิดที่ 46.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังแตะจุดสูงสุดนับแต่ต้นปีที่ 46.14 ดอลลาร์ (Reuters)
  ราคาทองบวกกว่า 1% ในวันพฤหัส เพราะ BOJ ไม่เพิ่มมาตรการกระตุ้น หนุนค่าเยนเทียบดอลลาร์ และจาก Fed ส่งสัญญาณว่าจะไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำตลาดจรบวก 1.6% ปิดที่ 1,266.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เป็นจุดสูงสุดรายสัปดาห์ ราคาทองคำล่วงหน้า พ.ค. บวก 1.3% ปิดที่ 1,265.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!