- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 April 2016 16:57
- Hits: 2469
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET lndex : เสี่ยงลงต่อทดสอบ 1386 และ 1380
SET lndex : 1396.43 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1400 จุดลงไป ในขณะที่โครงสร้างของการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบที่ผ่านมาที่ขึ้นไปทาจุดสูงสุดที่ 1430 จุดเป็นการฟื้นตัวทางเทคนิค ไม่ใช่สัญญาณยืนยันแนวโน้มขาขึ้น ทาให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1386 และ 1380 จุด แต่ถ้าพิจารณาโครงสร้างของการปรับฐานในระยะยาว การปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1380 จุดลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1365 จุดเป็นจังหวะซื้อเก็งกำไรที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
แนวต้าน : 1398 และ 1400
แนวรับ : 1396 และ 1386
SUPER = 1.90 / 2.00, BDMS = 23.50 / 23.80, AOT = 386 / 390, BEM = 5.90 / 6.00, PTTEP = 74.50 / 75.00
Asia Capital Group (ACAP TB; THB 16.10) - ซื้อ
แนวต้าน : 17.00 และ 18.00
แนวรับ : 16.00 และ 15.90
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่อง และเริ่มทะลุผ่านแนวต้านของรูปแบบสามเหลี่ยมขึ้นไปได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ ACAP โดยมีแนวรับที่ 16.00 และ 15.90 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.00 และ 18.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 15.40 ลงไป
Jasmine Interational (JAS TB; THB 4.38) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.60 และ 4.80 / เป้าหมาย 5.00
แนวรับ : 4.38 และ 4.34
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนคิน พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน เพื่อสร้างฐาน ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ JAS โดยมีแนวรับที่ 4.38 และ 4.34 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.60 และ 4.80 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.20 ลงไป รอซื้อเพิ่มที่แนวรับ 4.00
SET50 Index Futures
S50M16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบ 880 แต่เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในระยะสั้น อย่างไรก็ดี เรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในกาปรับตัวลดลง ดดยมีแนวต้านสำคัญที่ 890 และมีแนวรับถัดไปที่ 863-866 เป็นเป้าหมายในการปรับตัวลดลง ดังนั้น ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดระดับ 879 ลงไป จะเป็นจังหวะ Short เพิ่ม
แนวต้าน : 884 และ 886
แนวรับ : 879 และ 874
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน S50M16 หลังหลุดแนวรับที่ 886 ลงไป โดยมีแนวรับถัดไปที่ 874 และ 863-866
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 891 ขึ้นไป
JASM16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเข้าใกล้แนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 4.38 และมีแนวต้านถัดไปที่ 4.60 ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4.60 และมีแนวรับสำคัญที่ 3.80 การปรับตัวลดลงในระยะสั้นไปทดสอบ 4.20 และ 4.14 ยังคงแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะ Open Long
แนวต้าน : 4.30 และ 4.38
แนวรับ : 4.24 และ 4.20
คำแนะนำ: เรายังคงแนะนำให้ Open Long ใน JASM16 ที่แนวรับ 4.20 และ 4.14 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.30 และ 4.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASM16 ปรับลดลงหลุดระดับ 4.08 ลงไป
BLANDM16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากถูกขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1.48 ได้ต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1.52-1.54 และมีแนวต้านถัดไปที่ 1.62 และ 1.65 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
แนวต้าน : 1.60 และ 1.62
แนวรับ : 1.51 และ 1.50
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BLANDM16 ที่แนวรับ 1.50-1.52 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.65
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDM16 ปรับตัวลดลงหลุด 1.48 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET….เพิ่มความระมัดระวัง
• หลังการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ยังไม่มีมาตรการอะไรเพิ่มเติม ตามที่ตลาดคาด ส่งผลให้นักลงทุนผิดหวังกับการประชุมของ BoJ และทำให้ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงแรงมากกว่า 3% ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียที่ร่วงลงตาม นอกจากการประชุมของ BoJ เมื่อคืนนี้ทางสหรัฐได้มีการประกาศตัวเลข GDP Q1/16 ที่ออกมาแค่ 0.5% (เทียบตลาดคาดที่ 0.7%) เทียบ Q4/15 ที่ 1.4% จากค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังอ่อนแอ
• ตัวเลข GDP Q1/16 และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 ที่ออกมาแย่ลง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงมากกว่า 200 จุด ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวลงมากในรอบหลายเดือน ส่วนราคาน้ำมันยังสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดได้ที่ 47.7 ดอลลาร์ต่อบารเรล์(จากแรงหนุนของค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว) ก็ไม่สามารถที่จะพยุงดัชนีได้ หลังดัชนีตลาดหุ้นกลับมาผันผวน
• โดยปกติในช่วงเดือน พ.ค. ถึง มิ.ย. ใน 10 ปีที่ผ่านมา (ยกเว้นปี 2007) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ มักจะปรับตัวลงในช่วงเวลาดังกล่าว เพียงแต่จะมากหรือน้อย เท่านั้นเอง ปีนี้หากยังย้อนสถิติเดิม ก็มีความเป็นไปได้ ที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จะปรับฐาน นอกจากผลทางสถิติแล้ว ในทางพื้นฐานเอง ก็กำลังบ่งชี้งว่า ตลาดหุ้นกำลังจะไปไม่ไหว อย่างดัชนี S&P 500 กำลังขึ้นเทรดกันที่ 17.8 เท่า สูงสุดตั้งแต่ปี 2004 ขณะที่ผลการดำเนินงาน Q1/16 ที่กำลังทยอยประกาศยังติดลบสูง จากผลสำรวจของ Thomson Reuters พบว่าจะออกมาติดลบ 7.1%
• ในตลาดหุ้นไทยเองก็คล้ายๆ กันคือ ดัชนีขึ้นมาเล่นในกรอบสูง แต่ไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนี SET จะต้องเผชิญแรงขายจากนักลงทุน ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่เคยหนุนตลาด อย่าง กลุ่มที่โยงกับการท่องเที่ยวและพลังงาน ดูเหมือนจะเริ่มค่อยๆมีแรงขายออกมา หลังกำลังหมดช่วงฤดูกาล ขณะที่ราคาน้ำมันแม้จะขึ้นไปถึง 47.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่หุ้นพลังงานหลักกลับไม่ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะมาจากการรับข่าว โดยปัจจุบันตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand) กำลังขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าสูงสุดในรอบ 10 ปี หากไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ คาดกันว่าดัชนีต้องปรับตัวลงมาเล่นในค่า P/E ที่ต่ำกว่านี้ (รูปด้านซ้าย) ส่วนรูปขวา แสดงการเปลี่ยนแปลงของดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน พบว่ากลุ่มที่ขึ้นมากที่สุด คือ ปิโตรเคมี เกษตร พลังงาน ค้าปลีก ขนส่ง ส่วนกลุ่มที่ติดลบ คือ ประกัน และ โรงแรม รูปด้านขวา
• วันนี้เรามองดัชนี SET จะเผชิญกับความผันผวนจากตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลง นอกจากนั้นดัชนียังมีแรงกดจากการเข้าสู่ช่วงหยุดยาวที่นักลงทุนอาจลดความเสี่ยง โดยวันนี้เปิดขึ้นมาดัชนี SET จะปรับตัวลง สลับมีแรงซื้อขึ้นแต่ไม่น่าจะไหว วันนี้มองแนวรับที่ 1390-1385 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1404-1408 จุด
Analysts : Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,396.43 จุด ลดลง 3.48 จุด (-0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 18,065.70 ล้านบาท หุ้นไทยปรับลง ตามต่างหุ้นต่างประเทศ หลังตลาดผิดหวังที่ BOJ ไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม บ้านเราเช้านี้ดัชนีปิดหลุด 1400 จุด โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาเพื่อลดความเสี่ยงก่อนวันหยุดยาวในสัปดาห์หน้า
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย ถ้าหลุด 1396 จุด มีโอกาสที่จะเกิดแรงทิ้งตัวลงต่อไปแถว 1380 จุด ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นหุ้นใหญ่ปรับตัวลงนำ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่ถ้ายังประครองในกรอบแนวรับที่ 1396 จุดได้ สัญญาณการเก็งกำไรจะดูดีต่อเนื่อง และจะเปิดโอกาสให้ SET เกิดแรงรีบาวน์กลับในสัปดาห์หน้า โดยมีกรอบด้านบนในวันที่ 1416 จุด และมีแนวต้านของรอบที่ 1436-1450 จุด ระยะสั้นการซื้อขายยังอยู่ในรูบแบบเดิม คือหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะยังเด่นในรอบนี้ ส่วนหุ้นขนาดใหญ่จะยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง หลังประกาศผลการดำเนินงาน โดยกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำให้มีในพอร์ต จะประกอบด้วย BANPU RS JAS SGP EPG JMART KCE TWPC ASIAN TRT THCOM
Fundamental Picks & Technic (PM)...
Asia Capital Group (ACAP TB; THB 16.10) - ซื้อ
Jasmine Interational (JAS TB; THB 4.38) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]