- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 April 2016 18:01
- Hits: 1959
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความกลัวการขึ้นดอกเบี้ยคลาย
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ในทิศทางเดียวกับหุ้นในตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เปิดบวกหลังจาก Fed คงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยแม้ยังระบุมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. มีโอกาสสูงที่ BOJ จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มขึ้นในวันนี้หรือจากนี้จากสภาพที่เงินเยนแข็งค่าและอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นยังติดลบต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่ยังเพิ่มขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ค่อนไปทางบวก ผลประกอบการของ SCC ที่แข็งแกร่งสะท้อนการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมี ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่ความจริงจังภาครัฐและเอกชนในการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ทำให้มีลุ้นว่าการประเมินของ EU ในเดือนหน้าอาจไม่เลวร้าย
หุ้นเด่นวันนี้ : MAJOR (ราคาปิด 32.00 บาท, ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 33.00 บาท)
เราคาดว่าผลประกอบการของ บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในปีนี้จะสดใสจากหนังฟอร์มยักษ์ที่เข้าฉายหลายเรื่องในปีนี้และการปรับตัวดีขึ้นของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เรายังคงประมาณการการเติบโตกำไรปกติของบริษัทจะเติบโตได้ 26% ในปีนี้ สนับสนุนโดย 1) หนังฟอร์มยักษ์ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไปยังคงแข็งแกร่ง อาทิ หลวงพี่แจ๊ส 4 จี, เมาคลีลูกหมาป่า, กัปตันเมริกา 3 และเอ็กซ์เมน เป็นต้น 2) มีหนังไทยออกมามากขึ้นที่จะช่วยจับกำลังซื้อในต่างจังหวัด 3) เริ่มรับรู้รายได้ค่าโฆษณาเต็มปีจากสปอนเซอร์โรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการในปีก่อน และ 4) แผนขยายโรงหนังประมาณ 114 จอในปีนี้ และกระตุ้นช่องทางรายได้อื่นๆ ที่ไม่แปรผันตามรายได้ตั๋วหนัง นอกจากนี้ MAJOR ยังได้ร่วมทำธุรกิจกับอิออนมอลล์ บริษัทค้าปลีกของญี่ปุ่นในการเปิดโรงภาพยนตร์เมเจอร์แห่งที่สองในกัมพูชา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายธุรกิจไปยังอาเซียนกับหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งในท้องถิ่น โดยโรงภาพยนตร์ของบริษัทแห่งแรกที่เปิดทั้งในกัมพูชาและลาวนับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รูปแบบราคาของ MAJOR ยังคงมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดสัญญาณซื้อในรายวันและรายสัปดาห์ แต่ยังคงถูกกดดันจากสัญญาณขายในรายเดือนอยู่ ราคาหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 33.25 บาท และหากผ่านไปได้จะทีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบราคาสูงสุดเดิมที่ 36 บาท และสถิติสูงสุดใหม่ที่ 39.25 บาท ตามลำดับ โดยมีจุดหยุดขาดทุน ในรอบนี้อยู่ที่ 30 บาท (แนวต้าน: 32.75, 33.50, 34.50; แนวรับ: 31.75, 31.00, 30.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ประมงแก้ปมให้พ้นมาตรการอียู แม้ว่าสหภาพยุโรปจะคงใบเหลืองสำหรับการนำเข้าอาหารทะเลไทยจากการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) โดยภาคประมงยังหวังภาพที่เป็นบวกในเดือนหน้าจากความร่วมมือกับรัฐในการแก้ปมปัญหา เช่น การใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทำหนังสือกำกับการซื้อขายสัตว์น้ำนับแต่วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยคุมการซื้อขายสัตว์ทะเลและพัฒนาแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ (Bangkok Post)
รัฐบาลไม่มีแผนจะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากหมดอายุในวันนี้ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีแผนจะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง 0.1% หลังจากที่หมดอายุในวันที่ 28 เมษายน 2016 เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้แสดงให้เห็นสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงหกเดือนนับจากมาตรการมีผลบังคับใช้ 28 ตุลาคม 2015 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 4Q15 มียอดจดทะเบียนบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 13% YoY ยอด Presales เติบโต 21% YoY ผลของมาตรการคาดว่ากระตุ้นมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 5 หมื่นล้านบาท จากการประมาณเดิม 2.5 แสนล้านบาท เป็นที่คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะลดลง 20-30% ในช่วง 2-3 เดือนหลังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหมดอายุในวันนี้และจากนั้นตลาดจะฟื้นตัวและกลับมาเป็นปกติ (The Nation) ความเห็น: คาดว่าส่งผลลบทางจิตวิทยาต่อการลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระยะสั้น บริษัทอสังหาริมทรัพย์เริ่มตระหนักถึงภาวะการล้นตลาดและความต้องการซื้อที่ชะลอตัว ทำให้ระมัดระวังมากขึ้นในการออกโครงการใหม่ อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีมาตรการ บริษัทอสังหาฯ เร่งขายสินค้าในสต๊อกมากกว่าออกโครงการใหม่ ซึ่งให้ผลดี ต่อจากนี้ก็ต้องหันมามุ่งการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ต่อไป แต่ทุกรายจะระมัดระวังมากขึ้น
SCC (492.00 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q59 อยู่ที่ 1.36 หมื่นลบ. ปรับตัวสูงขึ้น 19% QoQ และ 23% YoY และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.14 หมื่นลบ. (Bloomberg consensus) ถึง 20% (SET) ความเห็น: ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในงวด 1Q59 ได้แรงหนุนจากธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีต่อเนื่อง รวมไปถึงผลการดำเนินงานของธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่ฟื้นตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสหลังสุด
KKP (42.00 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 50.00 บ.) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัททุนภัทร จํากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นทังหมดในบริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จํากัด กับ Yuanta Securities Asia Financial Services Limited โดย Yuanta จะซื้อหุ้นจํานวน 49,999,998 หุ้นจาก บมจ. ทุนภัทร คิดเป็น 99.99% ของจํานวนหุ้นทังหมดใน บล. เคเคเทรด มูลค่าการซื้อขายหุ้นเบื้องต้นคิดเป็นจํานวนประมาณ 686.9 ลบ. (SET) ความเห็น: คาดว่าการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะดําเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนับแต่วันทีได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในกระบวนการอนุมัติจาก ก.ล.ต. ทั้งนี้เราจะเข้าร่วมงานประชุมนักวิเคราะห์ของ KKP ที่จะจัดขึ้นในเช้าวันนี้เพื่อรับฟังเข้ามูลเพิ่มเติมและนำเสนอในลำดับต่อไป
ต่างประเทศ
เฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมในวันพุธ แต่เปิดช่องสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่แสดงสัญญาณเพียงเล็กน้อยว่าเฟดรีบดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดท่ามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ระบุว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวมากขึ้นแต่ยอมรับว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ชะลอตัวและภาวะเงินเฟ้อยังคงต่ำ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เอาถ้อยคำที่เกี่ยวกับการพัฒนาความเสี่ยงด้านการเงินของโลกออกจากแถลงการณ์ ในขณะนี้นักลงทุนมองว่ามีความเป็นไปได้ 23% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 21% ก่อนผลการประชุม จากข้อมูลของ CME เฟดวอช กรุ๊ป ( (Reuters)
ราคาพันธบัตรสหรัฐระยะยาวปรับตัวเพิ่มเมื่อวันพุธ หลังจากลดลงติดต่อกัน 7 วันเนื่องจากเฟดเปิดช่องสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ทำให้พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมีความน่าสนใจลดลง ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 เพิ่มขึ้ 20/32 อัตราผลตอบแทน 1.856% ลดลง 7.5 bps จากเมื่อวันอังคาร ซึ่งอัตราผลตอบแทนในวันอังคารอยู่ที่ 1.941% สูงสุดนับแต่ 23 มี.ค. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและปรับตัวลงเทียบกับเงินยูโรเมื่อวันพุธ แตะระดับเกือบต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เทียบกับเงินยูโร หลังแถลงการณ์ของเฟดกระตุ้นให้เกิดความคาดหวังว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดลดลง 0.11% อยู่ที่ 94.474 ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ดัชนียืนอยู่ก่อนการประกาศแถลงการณ์ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันพุธ หลังจากความกังวลได้ผ่อนคลายซึ่งเฟดจะส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ถึงแม้ว่าราคาหุ้นบ. แอปเปิลร่วงลงมีน้ำหนักต่อแนสแดกเนื่องจากรายได้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปี (Reuters)
จำนวนสัญญาซื้อบ้านที่เคยมีเจ้าของแล้วในสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่าคาดใน มี.ค. แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ชี้ว่ามีแนวโน้มที่ยั่งยืนในตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนียอดบ้านรอขายของสมาคมนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 1.4% เดือนที่แล้วสู่ 110.5 จุดสูงสุดนับแต่ พ.ค. เทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดบ้านรอขายเพิ่มขึ้น 0.5% (Reuters)
ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐน้อยลงมากใน มี.ค. เพราะยอดนำเข้าร่วงลง ชี้ว่าการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาส 1/59 ไม่ได้อ่อนแออย่างที่คาด ตัวเลขล่วงหน้าของกรมพาณิชย์ระบุว่าดุลการค้าแคบลงเหลือ 5.69 หมื่นล้านดอลลาร์เดือนที่แล้วจาก 6.34 หมื่นล้านดอลลาร์ใน ก.พ. รายงานการค้าโดยรวม มี.ค. ที่รวมการบริการด้วยจะออกมาพุธหน้า การนำเข้าสินค้าลดลง 4.4% เหลือ 173.6 ล้านดอลลาร์เดือนที่แล้ว ร่วงกว่ายอดส่งออกที่ลดลง 1.2% นักเศรษฐศาสตร์คาด GDP ว่าจะบวก 0.7% เทียบปีก่อนในไตรมาส 1/59 รัฐบาลกำหนดจะเปิดเผยตัวเลขล่วงหน้าของคาดการณ์การเติบโต GDP ในวันนี้ (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มพลังงาน ทั้งนี้หุ้นกรีซปรับตัวลดลงหลังจากยูโรโซนเลื่อนนัดประชุมที่จะหารือในเรื่องความช่วยเหลือแกกรีซ (Reuters)
เอเชีย :
BOJ มีแนวโน้มที่หารือให้มีการเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางการเงินในที่ประชุมนโยบายในวันพฤหัสนี้ จากดีมานด์ความต้องการสินค้าในตลาดโลกชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการส่งออก และการเติบโตขของอัตราค่าจ้างของภาคเอกชน (Reuters)
ดัชนีราคาผู้บริโภคในญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในเดือน มี.ค. เร็วที่สุดในรอบสามปี และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลงในอัตราเร็วที่สุดในรอบปี ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ อยู่ภายใต้ความกดดันที่ต้องนำมาตรการมาบังคับใช้เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ ดัชนีผู้บริโภค หรือ Core CPI ซึ่งรวมน้ำมันดิบแต่ไม่รวมราคาอาหารสดตกลง 0.3% YoY ในเดือน มี.ค. มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 0.2% (Reuters)
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือน มี.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 3.6% MoM ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบ กับการเพิ่มขึ้น 2.9% ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ (Reuters)
ความต้องการแรงงานในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบสองทศวรรษ อัตราการสมัครงาน เพิ่มขึ้นถึง 1.30 ในเดือนมีนาคม แสดงให้เห็นความต้องการแรงงานที่แข็งแกร่งที่สุด นับตั้งแต่ ธันวาคม 1991 ซึ่งอัตราส่วนดังกล่าวแตะระดับ 1.31 (Reuters)
ขาดดุลการบริการจีนขยายเพิ่มเป็น 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในเดือน มี.ค. จาก 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในเดือน ก.พ. ซึ่งการขยายเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการท่องเที่ยวของชาวจีนนอกประเทศที่สูงขึ้น ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลเดือน มี.ค. อยู่ที่ 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ โดยรวมแล้วในช่วง 1Q16 ดุลการบริการจีนเป็นขาดดุลสุทธิอยู่ที่ 5.77 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นครึ่งดอลลาร์วันพุธ และยังคงอยู่ในระดับใกล้จุดสูงสุดของปี 59 จากรายงานการลดการผลิตของสหรัฐมีผลเหนือสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐและดอลลาร์ที่อ่อนค่า US EIA รายงานว่าการผลิตน้ำมันสหรัฐร่วงสู่ 8.94 ล้านบาร์เรลต่อวันสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงครึ่งล้านบาร์เรลต่อวันเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลสัปดาห์ที่แล้วสู่จุดสูงสุดที่ 540.6 ล้านบาร์เรล Brent ปรับขึ้น 57 เซนต์(+1.25%) ปิดที่ 46.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้น 51 เซนต์ (+1.16%) ปิดที่ 44.55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองบวกเป็นวันที่สามในวันพุธ แต่ก็บวกลดลงเมื่อ Fed คงดอกเบี้ยแต่ก็ยังเปิดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยใน มิ.ย. ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.3% ปิดที่ 1,246.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้า เม.ย. บวก 0.6% ปิดที่ 1,249.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331