- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 April 2016 17:55
- Hits: 1483
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1400
SET Index: 1404.54 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1410-1412 จุดลงไป หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1420 จุด แต่ถูกกดดันจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง แรงขายทากำไรที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ถ้าเราพิจารณาแรงกดดันของค่าเงินบาทที่ยังไม่มีสัญญาณการอ่อนค่าเกิดขึ้นหลังจากทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 35.10 บาทต่ดอลลาร์กลับขึ้นไป จึงทำให้การปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1400 จุด อาจจะมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา แต่การฟื้นตัวยังมีแนวต้านสำคัญที่ 1410-1412 จุด
แนวต้าน : 1408 และ 1410
แนวรับ : 1402 และ 1400
PTTEP = 74.00 / 75.00, PTT = 297 / 304, BANPU = 12.00 / 12.40, TPlPL = 2.40 / 2.48, PTTGC = 62.50 / 63.50
Chewathai (CHEWA TB; THB 1.72) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.80 และ 1.84 / เป้าหมาย 2.00
แนวรับ : 1.72 และ 1.70
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือจุดต่ำสุดเดิมที่ 1.66-1.68 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม แต่ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่เกิดขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค
60 Min: MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ CHEWA โดยมีแนวรับที่ 1.72 และ 1.70 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.80 และ 1.84 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.68 ลงไป
Hydrotek (HYDRO TB; THB 1.72) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.86 และ 1.95
แนวรับ : 1.72 และ 1.68
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่จุดต่ำยกตัวสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสทะลุผ่านแนวต้านสำคัญขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ HYDRO โดยมีแนวรับที่ 1.72 และ 1.68 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.86 และ 1.95 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.62 ลงไป
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงหลังจากฟื้นตัวเหนือระดับ 890 ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 900 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง และแนวรับสำคัญที่ระดับ 61.80% ของการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบที่ผ่านมาหลุด 886 ลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับ 880 และ 874
แนวต้าน : 886 และ 888
แนวรับ : 882 และ 880
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Short ใน S50M16 หลังหลุดแนวรับที่ 886 ลงไป โดยมีแนวรับถัดไปที่ 880 และ 874 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 890
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 891 ขึ้นไป
BLANDM16
ปรับตัวลดลงลดลงจากแรงขาทำกำไรที่บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทาให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1.52-1.54 และมีแนวต้านถัดไปที่ 1.62 และ 1.65 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
แนวต้าน : 1.60 และ 1.62
แนวรับ : 1.52 และ 1.50
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BLANDM16 ที่แนวรับ 1.52 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.65
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDM16 ปรับตัวลดลงหลุด 1.48 ลงไป
ITDM16
ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 7.35 แต่ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาในระยสั้น ซึ่งเราแนะนำให้ Open Short เมื่อปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 7.55 ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุด 7.30 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 7.00-7.10 และมีแนวต้านสำคัญที่ 7.60
แนวต้าน : 7.40 และ 7.50
แนวรับ : 7.30 และ 7.20
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน ITDM16 ต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงหลุดระดับ 7.55 ลงไป และมีแนวรับที่ 7.30 และ 7.10
STOP LOSS สถานะ Short หลังจาก ITDM16 ทะลุผ่าน 7.60 กลับขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ตลาดส่วนใหญ่ขึ้นไปเล่นกรอบสูง
เมื่อดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มี.ค. ถึง เม.ย. ปัจจจัยที่จะหนุนให้ดัชนีไปต่อมี 2 ประการคือ 1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ 2. กำไรของตลาด ในส่วนแรกถือว่าเศรษฐกิจทั่วโลกตอนนี้เริ่มยืนทรงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนที่สอง กำไรของตลาดทั้งโซนสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย ใน Q1 ถึง Q2/16 ต่างมองกันว่าจะยังชะลอตัว จนกว่าจะถึงครึ่งปีหลัง 2016 ที่ต่างมองกันว่าน่าจะเริ่มค่อยๆฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีตัวแปรหลายประการที่ต้องจับตามอง อย่าง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน การขึ้นเดอกเบี้ยของสหรัฐและราคาน้ำมัน
หากมาพิจารณาดูดัชนีปัจจุบัน เทียบกำไรของตลาดล่วงหน้า 12 เดือน (EPS growth)เพื่อดูว่าตลาดหุ้นเป็นอย่างไร หรือดูจากค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้า จะพบว่า ส่วนใหญ่กำลังขึ้นไปเทรดกันเหนือ ค่าเฉลี่ย 10 ปีของ P/E 12 เดือนล่วงหน้า จะเหลือก็แค่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกงและจีน โดยตอนนี้ฮ่องกงและจีนกำลังขึ้นมาเล่นใกล้ค่าเฉลี่ย 10 ปีแล้ว ส่วนในตลาดอาเซียน อย่าง ฟิลลิปปินส์ อินโดนีเชีย ไทย ขึ้นมาเล่นเหนือค่าเฉลี่ย 10 ปีแล้วทั้งสิ้น ดูๆแล้วยังมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นทั่วโลก จะต้องปรับฐานรอบใหม่ หลังสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคลุมเครือ จะมีก็แค่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง ราคาน้ำมัน เท่านั้นที่ดีขึ้น
ในตลาดหุ้นไทยเอง หากมองผ่านการจัดกลุ่มของ MSCI จะพบว่าในแต่ละกลุ่มตอนนี้ขึ้นไปเล่นเหนือค่าเฉลี่ย 5 ปีของ P/E 12 เดือนล่วงหน้า โดยกลุ่มที่ถือว่าแพงสุด คือ โรงพยาบาล ตามมาด้วยอุตสาหกรรม อุปโภคบริโภค สื่อสารและสินค้าประเภทรถยนต์/บ้าน ส่วนที่ยังเทรดกันต่ากว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี มีเพียงกลุ่มเดียวคือ สถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ ส่วนพลังงานกำลังขึ้นไปเหนือค่าเฉลี่ย 5 ปีแล้ว
หากตลาดจะขึ้นต่อในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ จะต้องมีปัจจัยที่ดีพอที่จะหนุนให้กำไรของตลาดขยายตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ ท่ามกลางดัชนีขึ้นไปสูง เท่าที่เห็น หากมีคือ ราคาน้ำมัน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ในส่วนของราคาน้ำมันการขึ้นต่อยังมีกรอบจำกัด ส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า สภาพตลาดในตอนนี้เป็นแค่การประคับประคองตัว เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะยังกดดันตลาดหลังจากนี้คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร สื่อสาร
สภาพการเทรดหลังจากนี้ คงจะเหลือเฉพาะหุ้นที่ผลดำเนินงาน Q1/16 สูงกว่าคาด หรือ หุ้นที่ถูกปรับเพิ่มค่า EPS หรือ ราคาเป้าหมาย หรือหุ้นพลังงานที่เล่นตามราคาน้ำมันทั้งขึ้น และลงในแต่ละวัน วันนี้คาดดัชนี SET จะยังแกว่งในกรอบแคบ หุ้นพลังงานอาจจะคึกคักแต่คงไม่แรง แม้ราคาน้ำมันจะขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุด เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นขึ้นไปรับข่าวบางส่วนแล้ว วันนี้มองแนวต้านที่ 1416-1420 จุด ส่วนแนวรับที่ 1405-1400 จุด ยังเน้นเก็งกำไร GLOBAL และ HMPRO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิด 1,404.54 จุด ลดลง 7.30 จุด (-0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 19,194 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวน โดย SET เปิดดีดขึ้น หลังเฟดมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่มีแรงกดดันจากตลาดหุ้นโตเกียว หลัง BOJ มีมติคงนโยบายการเงิน ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ บ้านเรายังคงติดตามการรายงานผลประกอบการ 1Q16 ที่จะทยอยประกาศออกมา (GLOW, JAS, PTTEP จะประกาศในวันที่ 29 เม.ย)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย กรอบแนวรับใหญ่อยู่ที่ 1396 - 1404 จุด หากยืนได้สัญญาณการเก็งกำไรจะดูดีต่อเนื่อง และจะเปิดโอกาสให้ SET เกิดแรงรีบาวน์กลับ โดยมีกรอบด้านบนในวันที่ 1416 จุด และมีแนวต้านของรอบที่ 1436 จุด ระยะสั้นการซื้อขายยังอยู่ในรูบแบบเดิม คือหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะยังเด่นในรอบนี้ ส่วนหุ้นขนาดใหญ่จะยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง หลังประกาศผลการดำเนินงาน จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผลการดำเนินงานในกลุ่ม เกษตร ท่องเที่ยว โรงแรม ส่งออก วัสดุก่อสร้างและค้าปลีก มีแนวโน้มจะออกมาค่อนข้างดี ทำให้หุ้นในกลุ่มดังกล่าว น่าจะปรับตัวได้เด่นกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ระยะสั้นยังถือหุ้นต่อ
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Chewathai (CHEWA TB; THB 1.72) - ซื้อ
Hydrotek (HYDRO TB; THB 1.72) - ซื้อ
Turnover List Preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : EE, EVER, PSTC, CHOW* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]