- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 April 2016 17:24
- Hits: 761
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา เข้าสู่ภาวะปรับฐานช่วงสั้น แกว่งแคบ 1,410-1,425 จุด หุ้นหลักกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลัง SCB รายงานงบออกมาแย่กว่าคาด แต่ AOT และกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมีช่วยประคองภาพ ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,410.81 จุด ลบ 13.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,488 ล้านบาท
ทั้งนี้เงินทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 50 ล้านบาท แต่คง Long สุทธิใน SET50 Index Futures 2,965 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 2,984 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตัวเลขการส่งออก – นำเข้า เดือนมี.ค.ของไทย Bloomberg consensus คาด -4.70% yoy และ -11.20% yoy ตามลำดับ
ผลการทำประชาพิจารณ์ เหมืองโปรแตช จ.อุดรธานี วันที่ 23 เม.ย. ผ่านไปได้ด้วยดี
BoJ มีแนวโน้มที่จะกดให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ติดลบมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
DTAC รายงานงบออกมาใกล้เคียงคาด การไม่เข้าร่วมประมูล 4G อีกครั้ง กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 11)
เราประเมิน SET INDEX วันนี้ แกว่งแคบระหว่าง 1,405-1,420 จุด มูลค่าการซื้อขายกลับมาชะลอตัวระดับ 3.5-4.0 หมื่นล้านบาท/วัน เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างรอดูผลการประชุมเฟดในคืนวันที่ 27 เม.ย. ส่งผลให้กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัว กองทุนภายในประเทศอาจขายทำกำไรบางส่วน เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงสั้น
แม้ว่าบรรยากาศรอบเอเชียเช้าวันนี้จะเป็นบวก นำโดย Nikkei ที่ค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่ายืน Yen111/US$ อีกครั้ง บวกกับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวเด่นต่อเนื่องก็ตาม
เราประเมินว่ากลุ่ม Commodity ยังคงมีความโดดเด่น แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะแข็งค่าช่วงสั้น เพื่อรอดูผลการประชุมเฟด แต่ด้วยสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินทั่วโลก ทำให้เงินทุนรอบนี้เลือกที่จะเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้ง Hard และ Soft Commodity ทำให้กลุ่มหลักอย่างพลังงาน/ ปิโตรเคมี ช่วยปิดความเสี่ยงช่วงสั้น
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุนกลับมาทยอยเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย โดยเน้นหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว และผลการดำเนินงาน 1Q59 เด่น
Stock Pick of The Day
1. สะสม ITD : ราคาปิด 7.60 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น ITD จะตอบรับเชิงบวก หลังการทำประชาพิจารณ์รอบสุดท้ายโครงการเหมืองแร่โปรแตซที่ จ.อุดรธานีในวันเสาร์ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จและผ่านไปด้วยดี
b) ขั้นตอนต่อไป คือ คณะกรรมการจัดทำประชาพิจารณ์จะสรุปรายงาน ให้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาอนุมัติ และส่งเรื่องให้ครม.รับทราบ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในกรอบ 60 วัน และคาดว่าจะได้รับประทานบัตรในช่วงปลาย 2Q59
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปี 2559 ที่จะมีงานประมูลขนาดใหญ่ต่อเนื่อง และความคืบหน้าของโครงการเหมืองแร่โปรแตซจะเป็น Catalyst สำคัญ โดยมูลค่าโครงการเหมืองแร่โปรแตซเฉพาะอุดรใต้คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น ITD สูงถึง 5.10 บาท
2. เก็งกำไร ERW: ราคาปิด 4.46 บาท ราคาเหมาะสม 4.80 บาท
a) MBKET คาดว่าผลประกอบการ 1Q59 จะเติบโตสูงทั้ง yoy & qoq เป็น 160-180 ล้านบาท เป็น Positive Surprise กับตลาด และกำไรสุทธิไตรมาสเดียวจะเกือบเทียบเท่ากำไรปี 2558 ที่ 197 ล้านบาท
b) มีโอกาสที่ Consensus จะทบทวนประมาณการกำไรปี 2559 ขึ้น เนื่องจากประเมินกำไรสุทธิปี 2559 ไว้เพียง 320 ล้านบาท
c) แผนการจัดตั้งกอง REIT เป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ และซื้อขายที่ EV/EBITDA 2559 ระดับ 11.7 เท่า ต่ำกว่า CENTEL
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Equity Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong