- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 April 2016 18:51
- Hits: 1678
บล.ทรีนีตี้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> AOT, CK, HMPRO, SEAFCO
Stock S R Comment
AOT 400.00 412.00 รัฐกระตุ้นใช้จ่าย กระตุ้นท่องเที่ยว อนุมัติหยุดยาว
CK 25.50 26.50 กลุ่มรับเหมารับอานิสงส์ชิงเค้กสายสีส้ม
HMPRO 8.40 8.60 ปรับโครงสร้างภาษีบุคคลฯหนุนประชาชนใช้จ่าย
SEAFCO 9.00 9.50 รอรับอานิสงส์สายสีส้ม
COMM & CONS
Commodity : ตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องโดยได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก ล่าสุดดัชนี Bloomberg Commodity Index ซึ่งเป็นดัชนี Composite ของสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน การปรับตัวขึ้นในช่วงหลังนี้เกิดขึ้นหลังจาก 1) การอ่อนค่าของ USD 2) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่เริ่มมีเสถียรภาพ และ 3) ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด
China : ยังคงมองว่าในบรรดาสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มโลหะอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่ดีกว่ากลุ่มอื่นๆในช่วงถัดไป เนื่องจากการปรับฐานลงมามากในช่วงที่ผ่านมา และยังเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนเป็นหลัก มองการปรับตัวที่แข็งแกร่งของราคาโลหะอุตสาหกรรมนี้ส่งผลบวกโดยตรงต่อดัชนีค่าระวางเรือ ซึ่งล่าสุดยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และทำให้เรายังคงแนะนำโฟกัสการลงทุนในกลุ่มเดินเรือต่อไป
Commerce : กลุ่มค้าปลีกมีโอกาสได้รับ Sentiment เชิงบวกระยะสั้นหลังครม.มีมติอนุมัติโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ โดยมีการเพิ่มค่าลดหย่อนและปรับอัตราภาษีใหม่ มองมาตรการดังกล่าวจะทำให้กำลังซื้อของคนในประเทศสูงขึ้นโดยเฉพาะผู้มีรายได้ระดับกลาง-สูง ถึงแม้มาตรการจะบังคับใช้ในปีภาษีปีหน้า แต่เรามองว่าอาจมีผู้มีเงินได้บางส่วนเลื่อนการใช้จ่ายมายังปีนี้ มองบริษัทที่ได้รับระโยชน์อาทิเช่น HMPRO ซึ่งล่าสุดเราออกบทวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท โดยมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวได้แก่ Mega Home ซึ่งน่าจะถึงจุดคุ้มทุนและทำกำไรได้ในปีนี้
Contractor : มอง CK และ SEAFCO เป็นผู้ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการที่ครม.มีมติเห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออกเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มประกาศการประกวดราคาได้ภายในเดือนมิถุนายน โดย CK ("ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 30 บาท) ได้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบในการก่อสร้างรถไฟใต้ดิน และ SEAFCO ("ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 10.40 บาท) มีโอกาสได้อานิสงส์จากมูลค่างานเสาเข็มที่สูงราว 5 พันล้านบาทและจากความสัมพันธ์อันดีกับ CK
กลยุทธ์การลงทุน : SET Index ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาณ Fund flow ที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดล่วงหน้า อย่างไรก็ดียังคงแนะนำชะลอการลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว เนื่องจาก Valuation ที่อยู่ในระดับสูง ในช่วงนี้หากต้องลงทุนมองกลุ่มหุ้นที่น่าจะยังคง Outperform ตลาดต่อไปได้ได้แก่
1) กลุ่มเดินเรือ ได้แก่ TTA, PSL, RCL
2) กลุ่มพลังงานทางเลือก ได้แก่ EPCO, PSTC, SOLAR, DEMCO, TPCH
3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ ได้แก่ GL
4) กลุ่มที่ได้ Sentiment เชิงบวกจากการปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาใหม่ ได้แก่ HMPRO
5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้ประโยชน์จากการเร่งประมูลโครงการต่างๆ ได้แก่ CK, UNIQ, SEAFCO
แนวรับ 1,398 แนวต้าน 1,431
บทวิเคราะห์วันนี้ :
COMM Update: ปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลฯ หนุนประชาชนใช้จ่าย
TCAP (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 43 บาท) กำไร 1Q59 ใกล้เคียงคาด สินเชื่อยังหดตัว แต่คุณภาพหนี้ดีขึ้น
TMB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท) สำรองหนี้สูญกดดันกำไร 1Q59 มากกว่าคาด
หุ้นมีข่าว :
CONS: สายสีส้มที่รอคอย...ครม.สั่ง รฟม.เร่งเครื่องเปิดประมูล ให้ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
PETRO: Update สถานการณ์ปิโตรเคมีระยะสั้น (+/-)
Today's Event :
AIT XD 1.50 บาท
HPT XD 0.0182 บาท
TDEX XD 0.342 บาท
PRINC ลูกหุ้นเข้า 6,866,100 หุ้น
TASCO ลูกหุ้นเข้า 357,000 หุ้น
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]