- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 April 2016 16:32
- Hits: 915
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสลดลงตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่เช้านี้ภายใต้ปัจจัยลบจากผลการประชุมของผู้ผลิตน้ำมัน 18 ประเทศ ทั้งในกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกซึ่งรวมถึงรัสเซีย วานนี้ ที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เพื่อตรึงการผลิตน้ำมันได้ คาดส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดมีสัญญาณที่ดี จาก Fund Flow โดยล่าสุดแรงขายสุทธิของต่างชาติ ลดลงเหลือ ประมาณ 560 ล้านบาท และคาดเริ่มมีแรงเก็งกำไรผลการดำเนินงาน – 1Q/59 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคาร ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นเป็นกลุ่ม Real Sector จนถึงกลางเดือน พ.ค.
ขณะที่ยังแนะติดตามกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์จากความคืบหน้าในการเปิดประมูลโครงการต่อเนื่อง ในช่วง 2Q – 3Q/59 เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี) เป็นต้น
กลุ่มที่อยู่อาศัย เช่น PS และ LPN เป็นต้น ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการบ้านประชารัฐ และในระยะสั้นจากมาตรการกระตุ้นอสังฯ ของภาครัฐ ที่จะหมดอายุลงปลายเดือนนี้ คาดช่วยเร่งให้มีการโอนเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ระวังแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ โดยเฉพาะกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศ ช่วงวันหยุดเทศกาล (9 -17/4/59) เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงแรม และกลุ่มอาหาร เป็นต้น
นอกจากนี้ยังแนะจับตา
(1) กลุ่มการบินและสนามบิน เช่น AOT, BA, AAV
(2) กลุ่มพลังงาน PTT และ PTTEP อาจมีแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 6%
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในช่วง 1Q/59 และคาดจะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจำนวนมากอีก
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TPIPL
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -28.97, NASDAQ -7.67, S&P -2.05 FTSE -21.35, CAC -16.34 และ DAX -42.08
เป็นการลดลงในกรอบแคบ หลังตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับขึ้นจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีเกินคาด และราคาน้ำมันปรับลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวังก่อนการประชุมผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17/4/59
ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ (-) จากการผลิตภาคอุตสาหกรรม - มี.ค. ลดลง 0.6% เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - เม.ย. ลดลงอยู่ที่ 89.7 แต่ (+) ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เม.ย. อยู่ที่ 9.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ม.ค.’58 จากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง รวมถึงคำสั่งซื้อใหม่และการขนส่งสินค้าปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนทางด้านจีนเปิดเผย GDP – 1Q/59 ขยายตัว 6.7% ชะลอตัว แต่ยังสอดคล้องกับที่คาดราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ค. -US$1.14 อยู่ที่ US$ 40.36 ต่อบาร์เรล ปรับลดลงก่อนหน้าการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 17/4/59 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะหารือกันเพื่อจำกัดเพดานการผลิต หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกทรุดตัวลง
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
20.27 1.81 3.43
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 31,023.80
สถาบัน +1,201.67
บัญชีหลักทรัพย์ +568.55
ต่างประเทศ -562.72
ในประเทศ -1,207.50
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 1.75% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.10 อยู่ที่ 13.62
หุ้นแนะนำ : BRR
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788