- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 April 2016 16:19
- Hits: 857
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นตามหุ้นโลกช่วงตลาดไทยหยุดยาว
KGI คาด SET วันจันทร์ขึ้น รับรู้การขึ้นแรงของหุ้นโลกช่วงไทยหยุดสงกรานต์ โดยตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ถึงเช้านี้ 8.00 น. ดัชนี MSCI Asia ex-Japan ขึ้น 2.0% (หากสมมติให้ SET รับรู้อัตราเท่ากัน ดัชนีฯ มีโอกาสขึ้นเหนือ 1,400 จุด แต่กรณีนี้เป็นไปได้น้อย) ด้วยแรงส่งจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ยังแข็งแกร่ง (GDP ไตรมาสแรกโต 6.7% YoY) และงบไตรมาสแรกของธนาคารในสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ดีตลาดน้ำมันปรับฐานแรงเช้านี้ (น้ำมัน WTi Futures ลง 6%) หลังที่ประชุมโอเปกเมื่อวานนี้ไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องการตรึงปริมาณผลิตได้ ส่งผลให้หุ้นโลกปรับฐาน เราจึงมอง SET ชะลอแถวระดับจิตวิทยาที่ 1,400 จุดก่อนเทรดไซด์เวย์ต่อ ทั้งนี้ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่งบไตรมาสแรกของกลุ่มธนาคาร ซึ่งน่าจะชี้ทิศราคาหุ้นกลุ่มนี้ในระยะถัดไป
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร EPG* / สะสม BTS*
EPG* (เป้า Consensus 16 บาท) 1) ผลการประชุม ผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC และ นอก OPEC) วันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้ข้อสรุปการตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้ Sentiment ต่อหุ้นที่ได้อานิสงส์ในเรื่องราคาน้ำมัน “ลง” กลับมาเป็นบวก เช่น กลุ่มที่ใช้เม็ดพลาสติกเป็นต้นทุน (EPG*, TPBI) รวมถึงกลุ่มสายการบิน (AAV*, BA*) เป็นต้น 2) ในเชิงพื้นฐานประเมินกำไร 4Q58/59 (ปิดงบ มี.ค.) ของ EPG จะกลับมาโตเด่น +30% QoQ และ +150% YoY (พ้นช่วง Low season + ไม่มีค่าใช้จ่ายปิดโรงงานที่จีน + ยังได้อานิสงส์ต้นทุนเม็ดพลาสติกราคาต่ำ) 3) แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้าน ±14.5 บาท และถัดไปที่ ±15.5 บาท แนวรับ 13.5 บาท และกำหนดจุด Stop loss ที่ 13 บาท ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร TPBI ที่ได้อานิสงส์ราคาเม็ดพลาสติกลงเช่นกัน ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯประเมิน EPS ปี 2559 ไว้ที่ 1.03 บาท PE ตอนนี้ ±17 เท่า หากพิจารณาที่ PE เท่ากับ EPG 20 เท่าจะได้ราคาเป้าหมายหุ้น TPBI ที่ ±20 บาท
BTS* (เป้า Consensus 10 บาท) 1) ราคาหุ้นดีดพ้นแนวต้าน 9.0 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 9.4 บาท แนวรับ 9.0 บาท (Stop loss 8.8 บาท) 2) ประเมิน Downside risk ของหุ้นจำกัด ขณะที่มี Upside จาก i) คาดได้งานบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวจาก กทม. ii) จากการเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง (นสพ ข่าวหุ้น ลงข่าว รฟม. ตั้งคณะกรรมการประกวดราคารถไฟฟ้าทั้ง 2 สายแล้ว คาดเปิดประมูลในเดือน มิ.ย.นี้)
หุ้นในกระแส
หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวประเทศญี่ปุ่น
1) หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน: คาดจะมีดีมานด์สินค้าสำหรับการลงทุนพื้นฐาน เช่น กลุ่มเหล็ก (MCS, TMT, ASEFA) และรวมถึงกลุ่มเดินเรือ (TTA, PSL) หลังจากเหตุการณ์เริ่มสงบ และภาครัฐฯเริ่มการฟื้นฟู
2) หุ้นกลุ่มโรงแรม (IFEC, MINT*, ERW*, CENTEL*): คาดนักท่องเที่ยว (จีน + เกาหลียกเลิกทัวร์ญี่ปุ่น) จะมีการเปลี่ยนเส้นทางจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศอื่น ที่มีความน่าสนใจเช่น ประเทศไทย
3) หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, TSE, GUNKUL*, EPCO): คาดผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จะทำให้ภาครัฐฯญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น (ไม่เพิ่มโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น ก๊าซ / ถ่านหิน) ... ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ บจ. ไทยไปลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ มีเพียง BCP* ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ + วัสดุฯ: ประเด็นการทยอยเปิดประมูลโครงการภาครัฐฯ (สุวรรณภูมิเฟส 2, รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่, มอเตอร์เวย์) แนะนำเก็งกำไร i) หุ้นกลุ่มรับเหมาฯตัวหลัก (CK*, STEC*, ITD*) ii) งานเสาเข็ม (SEAFCO, PYLON, TMC) iii) วัสดุฯ + เหล็ก + ระบบไฟฟ้า (SCC*, TMT, ASEFA, EPG*)
กลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, PSTC, UWC, งานระบบไฟฟ้า ASEFA, หม้อแปลงไฟฟ้า QTC) แนะนำ “สะสม” หุ้นในกลุ่มฯ กกพ. เผยเตรียมเปิดรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติจับสลากโครงการโซลาร์ส่วนราชการวันที่ 18 เม.ย. และจับสลากวันที่ 21 เม.ย. นี้ อย่างไรก็ดีในกรณีเลวร้ายการจับสลากล่าช้า หุ้นที่วางแผนลงทุนพลังงานทดแทนในต่างประเทศไว้ล่วงหน้าแล้วอย่าง IFEC, GUNKUL*, TSE จะเด่นกว่าหุ้นที่รอการปลดล๊อกในไทยเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันการให้ปรับสัญญาซื้อขายไฟของโรงไฟฟ้าชีวมวลจาก Adder เป็น FiT จะเป็นบวกต่อ UWC, IFEC (สัญญา FiT สำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล กำไรดีกว่า)
หุ้นมีข่าว
(+) BJCHI* ไตรมาสแรกโดดเด่นเม.ย.รอรับงานใหม่เชื่อทั้งปีผลงานโต15% (ASTV ผู้จัดการรายวัน) บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี ไตรมาสแรกผลงานออกมาดี คาดกำไรอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 490 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากการส่งมอบงาน TUPI แถมมีงานที่กำลังประมูล และ เป็น High Potential Project ประมาณ 6.5 พันล้านบาท ในเดือน เม.ย. คาดจะได้งาน TUPI FPSO #3 มูลค่า 2.8 พันล้านบาท ผู้บริหาร BJCHI เชื่อมั่นผลประกอบการปี 2559 จะเติบโต 15% ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ไม่มีหนี้ มีเงินสดในมือสูง และปันผลเด่น แนะนำซื้อ ประเมินเป้าหมาย 9 บาท
(+) SUPER ปีนี้เทิร์นอะราวด์ คาดรายได้ทะลุ4พันล้าน (ข่าวหุ้น) SUPER ขึ้นแท่นแชมป์โซลาร์ฟาร์มในปีนี้ หลังจ่อ COD ครบ 500 MW ภายในเม.ย.นี้ ดันรายได้ทะลุ 4,000 ล้านบาท พร้อมลุ้นวันนี้ผ่านคุณสมบัติโซลาร์ฟาร์มราชการฯ จากที่ยื่นไป 200 MW ฟาก IFEC-PSTC-GUNKUL มั่นใจมีเอี่ยวผ่านด้วย
(+) CSS โตต่อโทรคมนาคม-เทรดดิ้งหนุนตั้งเป้าปีนี้ตัวเลขรายได้แตะระดับ5.3พันล. (ASTV ผู้จัดการรายวัน) คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น คาดผลงานช่วงที่เหลือของปีนี้ยังฮอต จากงานโทรคมนาคมหนุนเต็มที่ และการฟื้นตัวของธุรกิจเทรดดิ้ง ดันรายได้ปี 59 พุ่งแตะ 5,300 ล้านบาทตามเป้า หรือเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15-20% "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" เผยขณะนี้ตุนงานในมือไว้เพียบกว่า 1,300 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยประมูลเพิ่มต่อเนื่อง ดันผลงานโตตามเป้า
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) รูปแบบราคายังเป็นการแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 7.1 – 7.25 บาท แนะนำ “สะสม” ... รอเซ็นสัญญาซื้อโซลาร์ฟาร์มประเทศญี่ปุ่น 69MW เป็นทางการในเดือน เม.ย.นี้ + Hair cut หนี้ รร ดาราเทวีจบ คาดบันทึกกำไรพิเศษในไตรมาส 2/59 + วันที่ 18 เม.ย. กกพ เปิดรายชื่อโครงการผ่านคุณสมบัติจับสลากโซลาร์ส่วนราชการฯ
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) ประเมินระยะสั้นรูปแบบราคาแกว่งตัวในกรอบ Uptrend line channel 5.70 – 6.30 บาท (Stop loss ที่ 5.65 บาท) ... ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/59 โตเด่น (ไตรมาส 4/58 เป็น Low season + ราคาเหล็กปรับขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี เป็นบวกต่อธุรกิจรื้อถอนโรงไฟฟ้า) และขยายกำลังการผลิต +50% เสร็จในไตรมาส 1/59
CPN* (เป้าพื้นฐาน 65 บาท) 1) สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trialing stop 51.5 บาท 2) ยังแนะนำคงสถานะกลยุทธ์ Pair trading โดย Long CPN* + Short ROBINS*
TMC (เป้าพื้นฐาน 3.0 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trialing stop ±2.3 บาท ประเมินแนวต้าน ±2.6 บาท
KTC* (เป้าพื้นฐาน 125 บาท) ประเมินกรอบราคา 85 – 91 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน
CPF* (เป้า Consensus 25.9 บาท) ประเมินกรอบราคา 24.5 – 26.5 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลยุทธ์: คาดตลาดหุ้นช่วงสั้นยังไปต่อได้บ้าง หลังปัจจัยลบในประเทศช่วงที่ผ่านมาดึงให้ relative price discount ของหุ้นไทยกลับสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาว อย่างไรก็ดี fwd PE ที่ค่อนข้างสูงผนวกกับความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. เกี่ยวกับ MSCI rebalance และเศรษฐกิจจีนที่อาจกลับมาอ่อนตัว ทำให้เรามอง upside ของตลาดหุ้นมีจำกัด หุ้นกลุ่มเด่นยังเลือกกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มการบริโภค และกลุ่มโรงพยาบาล เป็นหลัก
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยเก้าวันที่ 1386 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1386 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1386-1365 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1386 จุดได้นั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นทดสอบต้าน 1407 จุด
แนวรับวันนี้: 1380/1365 แนวต้านวันนี้: 1391/1401
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]