- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 July 2014 15:24
- Hits: 2376
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ผันผวน
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดคละ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯอ่อนตัวลง จากถ้อยแถลงประธานเฟดส่งสัญญาณยุติ QE และเตือนกลุ่มเทคโนโลยี มูลค่าหุ้นสูงเกินไป
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรส Industrial Production มิ.ย. คาด 0.3%m-m (Vs 0.6%) ดัชนีราคาบ้าน ก.ค. คาด 50 (Vs 49) FED Beige Book / EU Trade Balance พ.ค. คาด +15.5bn. EUR (Vs +15.8bn) /China: 2Q57F GDP คาดเติบโต 7.4%y-y (Vs 7.4%)
+วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้อ +1,592 ลบ. (ซื้อสะสม 10 วัน ใน 11 วันทำการล่าสุดรวม +1.68 หมื่นลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาขาย -1,517 ลบ. (จากซื้อสะสม 2 วันรวม +344 ลบ.)
+/- การเมือง คสช. อนุมัติงบลงทุนปี 58 4.5 แสนล้านบาท เน้นโครงการจัดการน้ำ และพัฒนาระบบคมนาคม
คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวต้าน 1530/1540 จุด แนวรับ 1517/1507 จุด จับตารายงาน 2Q57GDP จีน และคำเตือนหุ้นเทคโนโลยีของประธานเฟด เริ่มแพงเกินไป เป็น Negative Sentiment ต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้
กลยุทธ์: ซื้อสะสมหุ้น Top pick KBANK SCB SIRI LPN PS PTTEP 2Q57F เก็งกำไรหุ้น High earnings Play แนะนำ TWS TMB KTB SCCC IVL GOLD หุ้นคาดได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐปี 58 แนะนำ SCC TASCO
หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ BFIT 2S AQ TSR EA ASP TGPRO หุ้นที่ลงกว่า 2.5% ได้แก่ TWZ EVER APCO SPALI STPI MACO CI
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ PTTEP+313AOT+202 BBL+144 KBANK+131 PTTGC+126 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ TRUE -184 CPF-148
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ SCB 133 KTB 79 KBANK 62
TMB ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/57 มีกำไรสุทธิ 2,575 ล้านบาท + 60.8% QoQ +932.8% YoY ออกมาดีกว่าเราและตลาดคาด 44-46%
Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แนวต้าน 1530/1540 จุด แนวรับ 1517/1507 จุด ถ้อยแถลงประธานเฟดเตือนดอกเบี้ยขาขึ้นและมูลค่าหุ้นเทคโนโลยี สูงเกินไป ถ่วงตลาด จับตา 2Q57 GDP จีน หากออกมาดีกว่าคาด 7.4% จะเป็นข่าวบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรฯ
คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แนวต้าน 1530/1540 จุด แนวรับ 1517/1507 จุด แรงซื้อจากต่างชาติ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาด ( 7 วันทำการที่ผ่ามา ซื้อต่อเนื่อง 1.2 หมื่นลบ. หลังจากโบรกต่างชาติเริ่มกลับมามีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทย และอิงเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า Global Emerging Market Funds สูงขึ้น) ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศ อาจวิตกต่อถ้อยแถลงประธานเฟดต่อสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้นและมูลค่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่สูงเกินไป ถ่วงตลาด ขณะที่รายงานเศรษฐกิจจีน 2Q57 จะเป็นไฮไลท์วันนี้ (หนุนดัชนีฯ หากออกมาดีกว่าคาด 7.4%) ส่วนไทย ยังคงจับตา กำไรของกลุ่มแบงก์ หลัง TMB LHBANK รายงานกำไรออกมาดีกว่าคาด (คาดกำไรสุทธิ 2Q57 ของ KTB, BAY มีแนวโน้มเติบโต YoY ดีกว่าธนาคารอื่นๆ )
ปัจจัยต่างประเทศ
Negative Sentiment จะมาจาก ถ้อยแถลงของประธานเฟด แจงวุฒิสภา เตรียมยุติ QE ในเดือนตุลาคมนี้และพร้อมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย หากภาวะการจ้างงาน กลับมาสู่ภาวะปกติ รวมถึง เตือนภาวะฟองสบู่ตลาดหุ้น อิงมูลค่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Biotech, Social Medias) สูงเกินไป ทั้งนี้ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงอีกครั้งในวันนี้ คาดตลาดจะจับตาประเด็นความเห็นเรื่องภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่สัญญาณค้าปลีกที่ดีกว่าคาดสะท้อน 2Q57F GDP สหรัฐฯอาจพุ่งขึนสูงกว่า 3.2%q-q
ประเด็นที่ต้องจับตาวันนี้ อยู่ที่รายงานเศรษฐกิจจีน โดยหากออกมาสูงกว่าคาด 7.4% จะเป็นบวกต่อกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (ยกเว้นน้ำมันดิบ ที่ร่วงลงจากลิเบียส่งออกน้ำมันดิบเพิ่ม) โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี (เราชอบ IVL SCC)
ปัจจัยในประเทศ ตลาดเผชิญแรงขายทำกำไรจากภายในประเทศ ทำให้ดัชนีฯ มีการพักตัว แต่แรงซื้อต่างชาติที่ต่อเนื่องช่วยหนุนไม่ให้ปรับลงแรงมากนัก วานนี้มีข่าวบวกเกี่ยวกับการอนุมัติกรอบงบประมาณประจำปี 58 โดยเป็นงบลงทุน 4.5 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการบริหารจัดการน้ำและสร้างถนน (แนะซื้อเก็งกำไร SCC TASCO) ส่วนโครงการรถไฟรางคู่ไม่ทันปีงบประมาณ 58 เพียงแค่อยู่ในขึ้นศึกษาและออกแบบ
Event Plays:
1) Earnings Play: เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะรายงานกำไร 2Q57F เติบโตสูง อาทิ TMB KTB PTTEP SCCC IVL GOLD ANAN CSS JUBILE MINT SVI THANI THCOM
2) High Dividend Play: หลักทรัพย์ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงรายปีเฉลี่ยสูงกว่า 3.5% และจ่ายปันผลระหว่างกาลสม่ำเสมอในช่วงกลางปี รวมถึงมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย ได้แก่ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS TNITY CSL DTAC TTW TRT PTTGC SAMTEL
3) หุ้น Turnarond/โตก้าวกระโดด ปี 57/58 CFRESH, GOLD, MJD, THRE, TPOLY, TTA, VNG (turnaround) APCO, CSS, DCON, IFEC, IVL (โตก้าวกระโดด)
4) หุ้นที่มีประเด็นบวกต่างๆ : MFEC RASA TRUE (ปป.โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่) JAS (ซื้อหุ้นคืน) BLAND (คาดบันทึกกำไรพิเศษ+เตรียมออกกอง Impact growth reit) IFEC (ย้ายไปหมวดพลังงาน) LH QH (Hidden Asset สูง)
เทคนิค : พักตัวชั่วคราว หากไม่ลงต่ำกว่า 1517 จุด ยังมีลุ้นดีดกลับ
แม้กรอบใหญ่ของการเคลื่อนตัวยังเป็นขาขึ้น แต่คาดดัชนีฯ เข้าสู่ช่วงของการพักตัวระยะสั้น (sideway หรือย่อเล็กน้อย) โดยมองแนวรับบริเวณ 1517 จุดเป็นหลัก หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ มีโอกาสดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1535/1555 จุดได้ใหม่ (กรอบบนของ uptrend channel) แต่หากย่อตัวหลุด 1515 จุดลงมา แนะขายทำกำไรออกไปก่อน มีโอกาสเข้าสูงช่วงของการปรับฐานต่อเนื่อง โดยแนวรับหลัก รอบนี้อยู่ที่บริเวณ 1500/1475 จุด (กรอบล่างของ Uptrend channel)
ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
'เผือกร้อน' ในมือคสช. เลือกตรงนายกฯ - ล็อกส.ส. 2 สมัย? ข้อเสนอของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับการปฏิรูประบบเลือกตั้ง ที่ได้สรุปส่งไปยังคณะทำงานด้านการปฏิรูป ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีหลายประเด็นที่ "ฝ่ายการเมือง" ไม่เห็นด้วยและตั้งป้อม "คัดค้าน" ประเด็นที่ "นักการเมือง" จากสองพรรคใหญ่ คือ "ประชาธิปัตย์" และ "เพื่อไทย" ไม่เห็นด้วยพ้องกัน คือ "การห้าม ส.ส.ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 สมัย หรือ 8 ปี"
+2. คสช. อนุมัติงบประมาณปี 58 เป็นงบลงทุน 4.5 แสนล้านบาท แนะเก็งกำไร SCC TASCO
คสช.เห็นชอบงบลงทุนปี 58 ที่ 4.5 แสนลบ. เน้นการจัดการน้ำ - คมนาคม, เสนอสนช. 6 ส.ค.
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบ รายละเอียดงบประมาณรายจ่ายปี 58 (ต.ค.57-ก.ย.58) รวมถึงส่วนของงบลงทุน 4.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9 พันล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 2% จากงบปี 57 คิดเป็น 17.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 58 ที่มีวงเงิน รวม 2.575 ล้านล้านบาท
สำหรับรายละเอียด งบลงทุน 4.5 แสนล้านบาท นั้น ส่วนใหญ่ใช้ลงทุนในโครงการน้ำ ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ประกอบด้วย การพัฒนาแหล่งน้ำ ประมาณ 7.1 หมื่นล้านบาท อีก 4.2 หมื่นล้านบาท ใช้ในโครงการป้องกันน้ำท่วมน้ำแล้ง นอกจากนี้ เป็นการลงทุนด้านพัฒนา ระบบคมนาคม โลจิสติกส์ ประมาณ 1.46 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงบในโครงการทำถนน
เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาได้ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนเดิมที่วางไว้ และการพิจารณางบประมาณปี 58 จะทันใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ อย่างแน่นอน
+3. พลังงานทางเลือกยังน่าลงทุน แนะซื้อสะสม GUNKUL IFEC
ประธานฯ กองทุนอนุรักษ์พลังงาน เผยอาจเดินหน้าโครงการโซลาร์ชุมชน - โซลาร์รูฟท็อป
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการ อนุรักษ์พลังงาน ระบุว่า อาจเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) บนหลังคาศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของหัวหน้า คสช.ที่ต้องการ เน้นโครงการด้านพลังงานทดแทน
การประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ วันพฤหัสฯ ได้ทบทวนโครงการที่จะดำเนินการ ในปีงบประมาณ 56-57 จำนวน 23 โครงการ มีเม็ดเงินลงทุนรวมประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ยกเลิกโครงการ เพราะกังวลต่อการใช้งบประมาณ ที่อาจไม่ทันตามกำหนด และบางโครงการต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดด้วย ขณะที่การประชุมในวันนี้ได้เห็นชอบ 2 โครงการ ได้แก่ การส่งเสริมงานวิจัย และพัฒนาด้านโครงการอนุรักษ์พลังงาน และด้านโครงการพลังงานทดแทน วงเงินรวม 400 ล้านบาท
สัปดาห์นี้ จะมีการทบทวนโครงการ โดยโครงการที่อาจ จะทำต่อ เช่น โซลาร์ชุมชน โครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการพลังงานจากขยะ
เรามองว่า กลุ่มพลังงานทางเลือกยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากอยู่ในแผนพัฒนาด้านพลังงานระยะยาวของรัฐบาล โดยหุ้นที่เราชอบที่สุด คือ GUNKUL นอกจากนี้ มองว่า IFEC มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจมาทำพลังงานทางเลือกอย่างเต็มตัว มีโอกาสโตก้าวกระโดด
4. Earnings Results: กำไรสุทธิ 2Q57 ของ KTB, TMB และ BAY มีแนวโน้มโตดีกว่าธนาคารอื่นๆ
เราคาดธนาคารที่เราศึกษาจะมีกำไรสุทธิรวม 5.1 หมื่นล้านบาท ใน 2Q57 (+3% ทั้ง YoY และ QoQ) คาดสินเชื่อยังขยายตัวได้ดี 6% YoY แต่ค่อนข้างทรงตัว QoQ ขณะที่ NIM ค่อนข้างทรงตัว YoY (ยกเว้น BBL, TMB, BAY และ TCAP) และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ ขณะที่การตั้งสำรองปกติสำหรับธนาคารส่วนใหญ่น่าจะยังสูงอยู่ทั้ง YoY และ QoQ เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยง NPL ที่สูงขึ้น จากผลกระทบของเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่หลายธนาคารเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น (น่าจะได้แก่ KTB, KKP, และ TISCO) จึงมีแนวโน้มตั้งสำรองพิเศษ เผื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และเพื่อการประเมิน NPL เชิงคุณภาพใน 2Q57 ขณะที่กำไรสุทธิรวมทั้งกลุ่มใน 1H57 น่าจะยังชะลอตัว คาดติดลบ 1% YoY เป็นกำไรรวมที่ประมาณ 1.02 แสนล้านบาท
เราคาดว่า 3 ธนาคาร (KTB, TMB และ BAY) จะมีกำไรสุทธิโตแข็งแกร่งขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งส่วนหนึ่งคาดจะเป็นผลมาจากฐานกำไรสุทธิต่ำใน 2Q56 ที่ธนาคารดังกล่าวมีการตั้งสำรองหนี้พิเศษสูงเผื่อรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว
ส่วนธนาคารที่น่าจะมีแนวโน้มกำไรสุทธิลดลงแรงกว่ากลุ่มฯ YoY ได้แก่ กลุ่มที่มีรายได้มาจากธุรกิจสินเชื่อรถยนต์และตลาดทุนในสัดส่วนสูง โดยเฉพาะ KKP, TISCO และ TCAP โดยคาดธนาคารดังกล่าวจะเห็นสินเชื่อหดตัวลงทั้ง YoY และ QoQ รวมทั้งยังมีแนวโน้มตั้งสำรองหนี้ในระดับสูงต่อเนื่อง จากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอจากภาคสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว อนึ่ง ปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันของ SET ใน 2Q57 อยู่ที่ 40.8 พันล้านบาท ลดลง 47% จาก 58.6 พันล้านบาท ใน 2Q56 แต่เพิ่มขึ้น 17% จาก 30.8 พันล้านบาท ใน 1Q57
คุณภาพสินทรัพย์ยังอ่อนแอลง QoQ
คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารใน 2Q57 น่าจะอ่อนแอลง QoQ สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน โดยเฉพาะสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มือสอง, สินเชื่อผู้บริโภคแบบไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อ SME ตามลำดับ อย่างไรก็ดี เราคาดว่าสถานการณ์ NPL จะยังอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ และน่าจะเห็นความเสี่ยง NPL ลดลง โดยเฉพาะในปี 58 จากแนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองปรับตัวดีขึ้น
สหรัฐฯ: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ Bank of America, EBay (16/7) Google, Morgan Stanley, IBM (17/7) GE, Honeywell (18/7)
5. รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : จับตาการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด Jellen วันอังคาร-พุธ/China 2Q57F GDP คาดเติบโต 7.4%y-y
วันพุธ 16 ก.ค. USA ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรส Industrial Production มิ.ย. คาด 0.3%m-m (Vs 0.6%) ดัชนีราคาบ้าน ก.ค. คาด 50 (Vs 49) FED Beige Book / EU Trade Balance พ.ค. คาด +15.5bn. EUR (Vs +15.8bn.) /China: 2Q57F GDP คาดเติบโต 7.4%y-y (Vs 7.4%)
วันพฤหัสฯ 17 ก.ค. USA Housing Starts มิ.ย. คาด 1020k (Vs 1001k) Phil Fed Survey ก.ค. คาด 16 (Vs 17.8) EUR: CPI มิ.ย. คาด 0.5%y-y
วันศุกร์ 18 ก.ค. USA Michigan Survey ก.ค. คาด 83 (Vs 82.5) EUR ดุลบัญชีเดินสะพัด พ.ค. คาด +21 bn. EUR (Vs +21.5bn.)
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
USA: ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงร่วงลงในวันอังคาร
หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวปกป้องนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในการให้การต่อคณะกรรมาธิการประจำวุฒิสภาสหรัฐ โดยนางเยลเลนได้แสดงความกังวลว่า "มูลค่าหุ้นของ บริษัทขนาดเล็ก, ของบริษัทสื่อสังคม และของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อยู่ในระดับที่สูงเกินไป" ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด นางเจเน็ต เยลเลน ยังแถลงต่อสภาคองเกรสว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟด จะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือน ต.ค.นี้ โดยไม่หวั่นว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับตํ่าต่อไปอีกสักระยะ แต่ขณะเดียวกันก็แย้มว่า การขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด หากตลาดแรงงานยังดีต่อเนื่อง
EUR: รัฐสภาสหภาพยุโรปมีมติ 422 ต่อ 250 เสียง อนุมัติให้นายฌอง คล็อด ยุงเกอร์ ขึ้นเป็นประธานคณะกรรมาธิการยุโรปคนใหม่
มติครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดทางสำหรับการประชุมวาระพิเศษของอียู ในวันนี้ (16 ก.ค.) ที่กรุงบรัสเซลล์ เพื่อให้บรรดาผู้นำชาติสมาชิกอียู ดำเนินการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐสภาอียูให้ครบ รวมถึง หัวหน้านโยบายต่างประเทศอียู และประธานสภาอียูคนใหม่ แทนที่นายฟาน รอมปุย ก่อนหน้าที่จะมีการลงมตินั้น นายยุงเกอร์ แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารงานอียู ให้คำมั่นถึงการฟื้นฟูทั้งเศรษฐกิจ และจิตวิญญาณของยุโรป พร้อมระบุว่า ยุโรปได้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปมาก และว่า ช่องว่างระหว่างอียู กับประชาชนของตัวเอง กำลังขยายวงกว้างมากขึ้น
ความเชื่อมั่นศก. เยอรมนีทรุดต่ำสุด 1 ปีครึ่ง ร่วงติดต่อกัน 7 เดือน สถาบัน ZEW ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดิ่งลงสู่ระดับ 27.1 ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2012 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในการสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ที่ 28.0 ส่วนดัชนีสภาวะปัจจุบันดิ่งลงสู่ระดับ 61.8 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 67.7 ในเดือน มิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 67.0
อังกฤษ เผยเงินเฟ้อพุ่งเกินคาดในเดือน มิ.ย. สูงสุดในรอบ 6 เดือน สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือน มิ.ย.เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.6% และสูงกว่าระดับ 1.5% ในเดือน พ.ค.
ธนาคารจีนปล่อยเงินกู้ใหม่กว่า 1 ล้านล้านหยวนในเดือน มิ.ย. ธนาคารกลางจีน (PBOC) รายงานในวันนี้ว่า ธนาคารพาณิชย์จีน ปล่อยกู้ใหม่ในรูปสกุลเงินหยวนเป็นมูลค่า 1.08 ล้านล้านหยวน (1.7390 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือน มิ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 9.15 แสนล้านหยวน ในขณะที่รัฐบาลจีนเพิ่มความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนระบุในแถลงการณ์ว่าปริมาณเงิน M2 พุ่งขึ้น 14.7 % ในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 13.5 %
จีน เผย FDI เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 16 ในเดือน มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่าจีนได้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คิดเป็นมูลค่า 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.2% จากปีก่อน และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน ส่วนการลงทุนโดยตรงของจีนที่ไม่ใช่ภาคการเงินไปยังต่างประเทศ ร่วงลง 5% สู่ระดับ 4.33 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง จากถ้อยแถลงประธานเฟดเตือนหุ้นบางกลุ่มอาจมีมูลค่าสูงเกินไป
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อ่อนตัวลงจากถ้อยแถลงของประธานเฟด โดยดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 5.26จุดหรือ 0.03% สู่ระดับ 17,060.68 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดย่อลง 3.82 จุดหรือ -0.19% สู่ระดับ 1,973.28 จุด Nasdaq ปิดลดลง 24.03 จุด หรือ -0.54% สู่ระดับ 4,416.39 จุด นอกจากจะเตือนเรื่องหุ้นบริษัทเทคโนโลยีแล้ว ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด นางเจเน็ต เยลเลน ยังแถลงต่อสภาคองเกรสว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟด จะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือนต.ค.นี้ โดยไม่หวั่นว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะ แต่ขณะเดียวกันก็แย้มว่า การขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด หากตลาดแรงงานยังดีต่อเนื่อง
- ตลาดหุ้นยุโรป ลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดลดลง FTSE ปิดร่วง 35.69 จุด หรือ -0.53% สู่ 6,710.45 จุด ดัชนี CAC40 ปิดลดลง 44.73จุด หรือ -1.03% สู่ 4,305.31 จุด และ DAX ปิดลบ 63.60 จุด หรือ -0.65% สู่ 9,719.41 จุด โดยปรับตัวลดลงตามหุ้นสหรัฐ หลังตลาดได้รับฟังความเห็นของประธานเฟด
-ราคาน้ำมันดิบ กลับมาปิดลบจากวิตกอุทานลิเบีย
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ส.ค. ปิดลดลง 0.96 ดอลลาร์ สู่ 106.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. ปิดลบ 0.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มสูงขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ นักลงทุนกังวลว่า อาจจะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกในระยะอันใกล้นี้ รักษาการรัฐมนตรีน้ำมันลิเบียกล่าวว่า ถึงแม้ยังคงมีการสู้รบกันระหว่าง กองกำลังติดอาวุธในกรุงทริโปลี ปริมาณการผลิตน้ำ มันของลิเบียก็พุ่งขึ้นสู่ 588,000 บาร์เรลต่อวัน หรือทะยานขึ้นราว 25 % นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
-ราคาทองคำ ร่วงต่อ Nymex ร่วงต่ำกว่า 100 ดอลล์ต่อบาร์เรลครั้งแรกรอบ2เดือน
วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด ลงต่ออีก 9.60 ดอลล์ สู่ 1,297.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองดิ่งลงเกือบ 3.5 % ในวันจันทร์และวันอังคาร และส่งผลให้ช่วงสองวันนี้เป็นช่วงสองวันที่ราคาทองรูดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2013 ราคาทองขยับขึ้นเป็นเวลาสั้นๆในช่วงแรก หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวต่อคณะกรรมาธิการในวุฒิสภาสหรัฐว่า ตลาดแรงงานสหรัฐ ยังคงอยู่ห่างไกลจากภาวะแข็งแกร่ง และนางเยลเลนส่งสัญญาณว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป จนกว่าตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างจะแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบจากวิกฤติการเงิน "ได้หายไปจนหมดแล้ว"
- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 7
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลงอีก 16 จุดมาปิดที่ 782 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270