- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 July 2014 15:23
- Hits: 2135
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวต้าน เป้าหมาย 1,535-1,540
Technical : แนวรับ 1,523 /1,507 แนวต้าน 1,540 / 1,551
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP แนวรับ 163/161 แนวต้าน 167/170
หุ้นเด่นรายวัน : TMB BCP
วันอังคารตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.70 จุด สวนตลาดภูมิภาค เจอแรงขายทำกำไรหลัง value ค่อนข้างแพง ดัชนี SET ปิดที่ 1,524.53 จุด ลดลง 4.70 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 41,400.52 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,592.19 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,500-1,545 ตลาดมีการปรับตัวลงและมีแนวโน้มที่จะผันผวนมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นแรงขายหลังผลประกอบการรายหลักทรัพย์ แต่จากแรงซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้มีโอกาสกลับตัวขึ้นหลังทดสอบยืนแนวรับ 1,518(1,510) ในขณะที่ SET50 ปรับตัวระยะสั้นมีแนวรับสำคัญSMA5วันและGAPแนวรับ 1,021-1,020 ไม่ต่ำกว่าลงมายังคงแนวโน้มขาขึ้นตามการเรียงตัวSMA GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,740-20,020 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,790-20,070
กลยุทธ์ แรงขายระยะสั้นในลักษณะของการปรับลดภาวะซื้อมากทางเทคนิค(Sell on Fact) หรือแรงขายเนื่องจากถึงเป้าหมายของการบริหารกองทุน ส่งผลให้ทดสอบแนวรับ 1,518 หรือ 1,510 ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับคืน กลุ่มธนาคารมีแนวโน้มผันผวนลงในระยะสั้น เป็นจังหวะในการเข้าซื้อเล่นรอบ หากปรับลงแรงซื้อถือระยะสั้นเพิ่ม ฝ่ายวิจัยฯคาดตลาดจะเริ่มปรับใช้ราคาพื้นฐานใหม่ที่มีUpsideสูงขึ้นโดยใช้ราคาของปี 2558 กลุ่มพลังงาน PTTEPคาดแนวโน้มผลประกอบการดีขึ้oซื้อเล่นรอบ PTT BANPU กลุ่มสื่อสาร การปรับตัวลงซื้อระยะสั้นเพิ่ม ADVANC TRUE หุ้นรายหลักทรัพย์ AOT TSR ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTEP (ปิด 165 ซื้อเป้าปี 57: 185 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q57 ที่ 1.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%qoq และ 31%yoy โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากรับรู้ปริมาณขายจากการซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand เข้ามาเป็นไตรมาสแรก 2)ราคาขายเพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.6% ส่วนทั้งปีเรายังคงประมาณการณ์ตามเดิมโดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 66,484 ล้านบาทเพิ่มขึ้น18%yoy
หุ้นเด่นรายวัน
TMB (ราคาปิด 2.58 ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 2.75) แจ้งกำไรสุทธิในช่วง 2Q57 อยู่ที่ 2,575 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 925%YoY จาก 252 ล้านบาทใน 2Q56 ที่มีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเป็นพิเศษ กำไรครึ่งปี 57 เท่ากับ 4.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 102%YoY ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มแบงก์
BCP (ปิด 29.50 ซื้อเป้าปี 57: 37.80 บาท) เราคาดกำไรสุทธิของ BCP ใน 2Q57 ที่ 1,100 ล้านบาทลดลง 30%qoq แต่เพิ่มขึ้น 170%yoy กำไรสุทธิที่หดตัวใน 2Q57 เป็นผลจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นเป็นเวลา 46 วันทำให้ Crude run ของบริษัทลดลงจากระดับ 98 KBDใน 1Q57 เหลือเพียง 49 KBD และทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็นน้ำมันเตาเพิ่มขึ้นกดดันให้ค่าการกลั่นลดลง อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิไม่ได้ลดลงมากนักเนื่องจากบริษัทยังมีกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นหลังโรงไฟฟ้า Phase 3 กำลังการผลิต 48 MW เริ่มทำการผลิตตั้งแต่เดือนเม.ย.57 อีกทั้งยังมีรายการพิเศษจากการบันทึกเงินเคลมประกันภัยอีก 500 ล้านบาท
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* RASA มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
* EFORL / TSF มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 5.26 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 5.26 จุด ขานรับข่าวนางเยลเลนประธานเฟดที่แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะ ประกอบกับได้แรงหนุนจากรายงานดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ของเฟดสาขานิวยอร์กเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 25.60 จากระดับ 19.28 ในเดือนมิ.ย. และขานรับรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ของเจพีมอร์แกน และโกลด์ แมนแซคส์ อย่างไรก็ตามดัชนีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากนักลงทุส่วนหนึ่งชะลอการลงทุนหลัง นางเยลเลนส่งสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือนต.ค.นี้ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 5.26 จุด หรือ +0.03% ปิดที่ 17,060.68 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 24.03 จุด หรือ -0.54% ปิดที่ 4,416.39 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 3.82 จุด หรือ -0.19%ปิดที่ 1,973.28 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 95 เซนต์
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 95 เซนต์ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลางจะเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น หลังสถานการณ์ความรุนแรงในอิรักไม่ได้ขยายตัวไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันใหญ่ที่สุดของอิรัก ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบของลิเบียก็เพิ่มขึ้นหลังจากที่แหล่งน้ำมันเอล ชารารา และคลังส่งออกน้ำมันอีกสองแห่งเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งทำให้เป็นไปได้สูงที่จะมีน้ำมันออกจากลิเบียเพิ่มขึ้นอีกกว่า 350,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 95 เซนต์ ปิดที่ 99.96 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ลดลง 96 เซนต์ ปิดที่ 106.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์