- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 April 2016 19:11
- Hits: 672
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET รีบาวด์จากการลงแรง กรอบบวกน่าจะจำกัด รอซื้อลบดีกว่า!!
กลยุทธ์ : คาดว่า SET รีบาวด์กลับเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากการปรับตัวลงรุนแรงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน และบ้านเราจะติดหยุดยาวท้ายสัปดาห์ จึงอาจทำให้กรอบบวกจำกัด และต้องระวังแรงขายลดความเสี่ยงกดดันให้ SET ปรับย้อนลบลงอีกครั้งด้วย ดังนั้นยังแนะนำรอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEAUTY, NWR, BH(short)
แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนในหุ้นกลุ่มหลักที่ถูกขายรุนแรงในช่วงก่อนหน้าพอควร ซึ่งในส่วนของหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งด้วย ทำให้ SET ยังมีลุ้นรีบาวด์ขึ้นต่อได้ แต่ FSS คาดว่ากรอบบวกช่วงนี้อาจจะยังค่อนข้างจำกัด และต้องตามระวังแรงขายกดดันให้ปรับย้อนลบลงใหม่อีกครั้งไว้ด้วย เนื่องจากตลาดหุ้นบ้านเราจะติดช่วงวันหยุดยาวท้ายสัปดาห์นี้ (13-15 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งตลาดหุ้นเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ยังเปิดทำการปกติ และมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการประชุมร่วมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17 เม.ย.ที่จะถึงด้วย
แนวรับ 1365-1360 , 1355-1350 , 1345-1340 จุด
แนวต้าน 1372-1375 , 1380-1386 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$112 ล้าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$155.7 ล้าน และไต้หวัน US$21.4 ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$51.1 ล้าน และเวียดนาม US$7.4 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงตลาดจับตาการแถลงของเจ้าหน้าที่ Fed หลายรายที่อาจจะออกมาให้ความเห็นต่ออัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) กสทช.เลื่อนประมูล 4G เร็วขึ้น อาจเป็น 22 พ.ค. จากกำหนดเดิม 24 มิ.ย. ราคาเริ่มต้นเป็น 7.565 หมื่นล้านบาท ผู้ประกอบการทุกรายรวมถึง TRUE สามารถเข้าประมูลได้ ยกเว้น JAS เราเชื่อว่าการประมูลไม่น่ายาวนานเพราะราคาตั้งต้นที่สูงมาก และ ADVANC น่าจะเป็นผู้ชนะ เพราะ DTAC ส่งสัญญาณค่อนข้างชัดว่าไม่ต้องการประมูลด้วยราคาสูงเท่านี้ ส่วน TRUE ได้ไปแล้ว 2 ใบอนุญาตและราคาเริ่มต้นที่สูงก็ถือว่า TRUE ไม่เสียเปรียบ หาก ADVANC ชนะประมูลด้วยราคา 7.565 ล้านบาท ราคาเป้าหมายของเราจะปรับลงเหลือ 180 บาทจาก 193 บาท แนะนำซื้ออยู่ดีเพราะราคาตลาดปัจจุบันสะท้อนข่าวร้ายไปมากแล้ว ส่วนธุรกิจอื่นที่ประโยชน์จากการลงทุน 4G เช่น ARROW, CSS, SCI เราชอบ ARROW (ราคาเป้าหมาย 16.70 บาท)
(+) ADVANC เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ ประเมินราคาพื้นฐาน 193 บาท แม้การกลับมาสนใจใบอนุญาตคลื่น 900MHz จะสร้าง Sentiment เชิงลบเพราะราคาประมูลตั้งต้นที่สูงถึง 7.5 หมื่นล้านบาท หาก ADVANC ชนะด้วยราคาดังกล่าว เราคาดกำไรปี 2016 หดตัวเพิ่มเป็น -20% Y-Y จากปัจจุบันที่คาด -15% Y-Y และกำไรปี 2017 โตเพียง 2.8% Y-Y ราคาพื้นฐานลดเหลือ 180 บาท แต่ราคาหุ้นปรับลง 12% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนต้นทุนใบอนุญาตที่แพงไปแล้ว ส่วนความกังวลเรื่องการจ่ายปันผลที่จะลดลงจากจ่าย 100% ของกำไร เราเชื่อว่าจะรักษาระดับ Dividend yield ที่ 7% ต่อปีได้
(+) BKD ราคาหุ้นยังน่าสนใจเมื่อเทียบกับกำไรอยู่ในช่วงเร่งตัวตามอุตสาหกรรมที่ขยายตัวโดยเฉพาะงานในโรงพยาบาลและโรงแรม ขณะที่ BKD เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมตกแต่งภายในโครงการขนาดใหญ่ มี Backlog 1.75 พันล้านบาทรองรับรายได้ทั้งปี 2016 แล้ว เราคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 28% Y-Y ส่วน EPS โต 9% Y-Y บริษัทยังเข้าร่วมงานประมูลอีกกว่า 3 พันล้านบาท แนะนซื้อ ราคาพื้นฐาน 4.50 บาท
(-) CPF แนวโน้มกำไร 1Q16 ที่ฟื้นตัวอยู่ในการคาดการณ์ของเราแล้ว เราคาดกำไรปกติ 1.26 พันล้านบาท +493% Y-Y และฟื้นจากขาดทุนใน 4Q15 จากธุรกิจกุ้งและราคาสัตว์บกที่ดีขึ้น และราคาวัตถุดิบลดลง ส่วนธุรกิจในตุรกีและอินเดียที่ขาดทุนมาหลายปีจะค่อยๆดีขึ้น หากรวมกำไรจากขายเงินลงทุน คาดกำไรสุทธิ 3.06 พันล้านบาท +97.8% Q-Q, +3.6% Y-Y คิดเป็น 19% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเราที่คาดโต 320% Y-Y เราคงราคาพื้นฐาน 24 บาท แต่ราคาหุ้น 2 เดือนที่ผ่านมา +35% จนมี PE ถึง 17 เท่าสะท้อนการฟื้นตัวในปีนี้ไปแล้ว จึงลดคำแนะนำเป็นขายทำกำไร จากเดิมซื้อ
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นแรง รวมถึงประธาน FED ที่ย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ค่อนข้างแรงโดยตอบรับราคาสินค้า Commodity ที่พุ่งขึ้นรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีที่แข็งแกร่ง
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวค่อนมาในแดนลบโดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากค่าเงินเยนที่แข็ง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของหลายๆประเทศที่จะประกาศในสัปดาห์นี้
(+) ค่าเงินบาทแกว่งแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.00-35.14 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 39.72 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลง และความคาดหวังในเรื่องการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในช่วงกลางเดือนนี้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,243.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยยังได้รับปัจจัยหนุนจาก FED ที่ระบุว่ายังคงระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5-28 เม.ย. - ไทย: กสทช.เปิด Public hearing การประมูลคลื่น 900MHz รอบใหม่
13-15 เม.ย. - ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันสงกรานต์
13-เม.ย. - ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการ เนื่องในวันเลือกตั้งทั่วไป
- จีน: ดุลการค้า (มี.ค.) (ตลาดคาดส่งออก +9.7% Y-Y บวกครั้งแรกใน 9 เดือน)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (มี.ค.), Fed Beige Book
- ยูโรโซน: Industrial Production (ก.พ.)
14-เม.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สิงคโปร์: 1Q16GDP (ตลาดคาด +1.6%Y-Y เทียบ 4Q15 ที่ +1.8%Y-Y)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
- IMF: ทบทวนประมาณการ GDP โลก
15-เม.ย. - จีน: 1Q16 GDP (ตลาดคาด +6.7% Y-Y เทียบ 4Q15 ที่ +6.9% Y-Y)
17 เม.ย. - การประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน OPEC และ Non-OPEC ที่เมืองโดฮา
18-เม.ย. - ไทย: กกต.ประชุมเพื่อกำหนดวันประชามติ, กกพ.ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์
21-เม.ย. -ไทย: จับสลากโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ 600 MW
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch