- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 April 2016 16:55
- Hits: 1968
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ฮึกเหิม
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ ตามหุ้นสหรัฐที่บวกแรงเมื่อคืน และตลาดภูมิภาคล้วนเปิดบวกเช้านี้ รับการพุ่งขึ้นแรงของราคาน้ำมัน และรายงานการประชุม Fed ครั้งล่าสุดที่เน้นย้ำท่าทีระมัดระวังในการจะปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงกลับคืนมาพร้อมๆกับที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง ปัจจัยภายในประเทศบวกลบพอๆกัน ในขณะที่มุมมองการท่องเที่ยวยิ่งเป็นบวกมากขึ้น และรัฐบาลยังดำเนินความพยายามไม่หยุดยั้งในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังลดลงอีกในเดือน มี.ค.
หุ้นเด่นวันนี้ : CK (Bt25.25; NR Bloomberg 16TPBt32.00)
เรายังเน้นการลงทุนบนกระแส Infrastructure play ต่อเนื่อง วันนี้จึงเลือกหุ้น CK เนื่องจาก CK มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านการเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และการลงทุนของ CK เน้นไปที่การถือหุ้นสาธารณูปโภคที่มีความจำเป็นในชีวิตประวัน คือ BEM ซึ่งอยู่ในหมวดขนส่งมวลชน CKP พลังงานทางเลือก และ TTW ผู้ผลิตน้ำประปา CK ถือเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่อันดับสองรองจาก ITD ซึ่งปัจจุบันมี Backlog 92,000 ล้านบาท เพียงพอสร้างรายได้ไปอีก 3 ปี อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลาใกล้ ๆ นี้ (คาดว่าประมาณเดือนพฤษภาคม) CK และ BEM จะได้ข้อสรุปจาก MRTA ในการเป็นผู้รับสัมปทาน และรับเหมาวางระบบเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ในส่วนของ CK จะคิดเป็น Backlog ประมาณ 25,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีการจ้างงานเพิ่มในส่วนงานก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี ประเทศลาว อีก 20,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการเดิม 76,000 ล้านบาท คาดว่าทราบผลในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 แม้ในช่วงปี 2015 ผลประกอบการของ CK จะออกมาผิดหวังด้วยการประกาศกำไรสุทธิลดลง 53%YoY เป็น 584 ล้านบาท เป็นผลทำให้หุ้น CK ไม่ได้รับความสนใจในช่วงไตรมาส 1/16 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากำไรของ CK จะฟื้นตัวขึ้น โดย Blomberg Consensus คาดการณ์ว่า EPS ในปี 2016 จะเติบโต 654% เป็น 0.83 บาท และเติบโตอีก 14% เป็น 0.95 บาท นอกจากภาพอุตสาหกรรมการก่อสร้างจะสดใสในปี 2016 แล้ว เราก็เชื่อว่ากิจการสาธารณูปโภคที่ CK ถือหุ้น จะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นด้วย ราคาเป้าหมายของ Bloomberg Consensus ให้ไว้ 32 บาท แยกตามวิธี Sum-of-the-part valuation เป็นกิจการรับเหมาก่อสร้างของ CK ประมาณ 17 บาท และกิจการสาธารณูปโภคที่ CK ถือยังมีมูลค่าอีก 15 บาท
มุมมองทาง Technical พบว่า Price Pattern ของ CK ยังคงมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แต่ยังคงถูกกดดันจาก Monthly Sell Signal อยู่ โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ CK ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายเบื้องต้นที่ 25 บาทไปได้ คาดว่า Price Pattern ของ CK น่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 26 บาท และเป้าหมายสำคัญที่ 26.75 บาท ตามลำดับ โดยมีจุด Stop Loss ของ CK ในรอบนี้อยู่ที่ 24.90 บาท (แนวต้าน: 25.50, 25.75, 26.00; แนวรับ: 25.00, 24.80, 24.60)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค. ร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เหลือ 73.5 จุดจาก 74.7 จุดใน ก.พ. บ่งชี้ถึงความกังวลจากภัยแล้งต่อภาคเกษตร ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยเฉพาะรายได้ชั้นกลาง (Bangkok Post)
สินเชื่อบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยปล่อยยากขึ้น การเคหะแห่งชาติคาดว่าอัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยโดยธนาคารจะเพิ่มขึ้นเป็น 25-30% ปีนี้จาก 20% ปีก่อนเพราะเศรษฐกิจชะลอและหนี้ครัวเรือนสูง การเคหะแห่งชาติคาดว่าโครงการบ้านประชารัฐที่รัฐบาลพึ่งออกไปช่วยผู้มีราย ได้น้อยให้ได้มีบ้านน่าจะช่วยให้ปล่อยกู้ได้ง่ายขึ้น (Bangkok Post)
รัฐจะอุดหนุนเงินห้าแสนบาทช่วยผู้ประกอบการพัฒนาสินค้า นายสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลได้กล่าววานนี้ว่า รัฐจะเสนอเงินช่วยเหลือ 3-5 แสนบาทต่อปีแก่เจ้าของธุรกิจรวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจสตารท์อัพและบริษัทที่จัดตั้งตามกฎหมายแล้วเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าที่ใช้แทคโนโลยีและนวัตกรรม การช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากระดับรากหญ้า และคาดว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้ 5 พันล้านบาทต่อปี (Bangkok Post)
แอตต้ามองบวกต่อการท่องเที่ยว สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า ได้คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาไทยผ่านบริษัททัวร์ซึ่งเป็นสมาชิกของแอตต้าจะเพิ่มขึ้นแตะ 6.5 ล้านคนในปีนี้ เติบโต 30% จากปีก่อนหน้า โดยจีนยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักโดยน่าจะเติบโตอย่างน้อย 21% เป็น 4.5 ล้านคน ข้อมูล ณ 20 มี.ค. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านบริษัทสมาชิกเติบโต 17.6% เป็น 1.39 ล้านคน นำโดยนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเติบโต 59% เป็น 869,909 คน (Bangkok Post)
ADVANC (163 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 213 บาท) ได้ยื่นคำร้องขอซื้อคลื่น 4G 900 เมกะเฮิร์ตซ์ที่ 7.565 หมื่น ลบ. และตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของทีมกฎหมายรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าว (Bangkok Post) ความเห็น: หากบริษัทซื้อใบอนุญาตนี้ได้จริง น่าจะเป็นผลลบเนื่องจากราคาค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดีควรจับตาว่าบริษัทจะออกมาว่าอย่างไรในเร็วๆนี้ เพราะจริงๆแล้วราคาก็ยังถูกกว่าคลื่นที่ TRUE ได้ไปหากมีวิธีเพิ่มคุณภาพแบนด์วิธล็อตแรกของ 900 เมกะเฮิร์ตซ์นี้
ต่างประเทศ
ผลการประชุมเป็นแนวกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้กำหนดนโยบายเฟดถกเถียงกันว่าพวกเขาจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนเม.ย.นี้หรือไม่แต่มีหลายคนที่แย้งไม่เห็นด้วยกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยให้ความเห็นว่าควรระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากรายงานการประชุมของเฟดครั้งล่าสุด ทั้งนี้มีความกังวลแพร่กระจายในกลุ่มผู้กำหนดนโยบายว่าพวกเขามีความสามารถจำกัดที่จะรับมือกับกระแสการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก (Reuters) ความเห็น: ในขณะที่เฟดพอใจกับความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในสหรัฐแต่พวกเขาไม่มั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางเศรษฐกิจโลกและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสหรัฐและดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนเมื่อวันพุธ จากความกังวลว่าบีโอเจจะเข้าแทรกแซงเพื่อยับยั้งการแข็งค่าขึ้นของเงินเยน ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ปรับตัวลงต่ำกว่า 110 เยนเป็นวันที่สองติดต่อกันและแตะที่ 109.85 เยน เป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปลายเดือนต.ค. 2014 หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโซะ อาเบะได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่าประเทศต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงการทำให้สกุลเงินของตัวเองอ่อนลงด้วย”การเข้าแทรกแซงโดยพลการ” (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตสหรัฐเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวันพุธ นำโดยพันธบัตรระยะยาวเนื่องจากราคาน้ำมันและหุ้นได้ดีดกลับซึ่งมีผลให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรรัฐบาลซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากการเผยแพร่รายงานการประชุมของเฟดซึ่งเผยถึงมุมมองของเฟดว่าเป็นแบบ dovish ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีล่าสุดลดลง 9/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.748% จาก ระดับ 1.715% เมื่อวันอังคาร (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันพุธ ได้รับแรงหนุนจากการขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มเวชภัณฑ์หลังจากการยุติข้อตกลงในการควบรวมกิจการระหว่างไฟเซอร์และอัลเลอร์แกน และการขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทั้งนี้รายงานการประชุมล่าสุดของเฟดชี้ให้เห็นว่าเฟดไม่น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนมิ.ย. (Reuters)
ไฟเซอร์ บริษัทผู้ผลิตยาของสหรัฐและอัลเลอร์แกน บริษัทผู้ผลิตโบท็อกซ์จากไอร์แลนด์ ได้ยุติการควบรวมกิจการ หลังจากกฎการคลังใหม่สหรัฐซึ่งยับยั้งการควบรวมกิจการเพื่อลดการจ่ายภาษี ข่าวการยกเลิกการควบรวมกิจการได้กระตุ้นให้กลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวขึ้นด้วยความหวังว่าบริษัทยายักษ์ใหญ่จะหันมายังบริษัทที่เล็กกว่า (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธปรับตัวสูงขึ้น หลังจากทีก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวลงแรง โดยตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Healthcare เนื่องจาก Pfizer บริษัทยาสัญชาติสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกดีลการควบรวมกิจการกับบริษัทยา Allergan มูลค่า 1.6 แสนล้านดอลลาร์ฯ หลังจากที่กฎเกณฑืใหม่ทางด้านภาษีใหสหรัฐฯ มีแนวทางและความพยายามที่จะจัดการกับการหนีภาษีของการควบรวมกิจการ ขณะที่หุ้น Hennes & Mauritz ซึ่งประกอบธุรกิจขายปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่อันดับสองของโลก ปรับตัวสูงขึ่น 5.4% แม้ว่าจะรายงานกำไรสุทธิต่ำกว่าที่ตลาดคาดหมายเล็กน้อย โดยราคาหุ้นได้แรงหนุนจากที่บริษัทฯ กล่าวว่าผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ ค่อยๆ ลดน้อยลงไป และน่าจะกลับมาเสมอตัวหรืออาจเป็นบวกเล็กน้อยได้ในช่วงปลายปีนี้ (Reuters)
เอเชีย :
เงินเยนยังอยู่ในภาวะ Bullish หลังจากที่ Shinzo Abe นายกฯ ญี่ปุ่นกล่าวกับ Wall Street Journal ว่าญี่ปุ่นจะหลีกเลี่ยงการแทรกแซงค่าเงินเยนให้อ่อนค่า ทั้งนี้ค่าเงินเยนนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้น 8% เทียบดอลลาร์ฯ (Reuters)
กิจกรรมภาคการบริการญี่ปุ่นชะลอตัวในเดือน มี.ค. โดยดัชนี PMI ภาคการบริการญี่ปุ่น (จัดทำโดย Markit/Nikkei) ลดลงสู่ 50.0 จาก 51.2 ในเดือน ก.พ. แม้ว่าจะยังยืนเหนือระดับ 50.0 ได้แต่นับว่าเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการขยายตัวในเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว (Reuters)
กิจกรรมภาคการบริการจีนขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องในเดือน มี.ค. โดยดัชนี PMI ภาคการบริการจีน (จัดทำโดย Caixin/Markit) รายงานออกมาอยู่ที่ 52.2 สูงขึ้นจาก 51.2 ในเดือน ก.พ. การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งตลอดช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้นับว่าเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จและพยายามของรัฐบาลจีนในการออกมาตรการสนับสนุนต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 5% วันพุธ มากสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลัง US EIA ได้รายงานตัวเลขสต็อกถูกถอนออกไปผิดคาดจากที่ตลาดคาด ทำสถิติใหม่ US EIA กล่าวว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.9 ล้านบาร์เรลเหลือ 529.90 ล้านบาร์เรลอาทิตย์ที่แล้วจากยอดนำเข้าที่ต่ำลงและการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่น สวนกับนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าสต็อกจะแตะจุดสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์โดยคาดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 3.2 ล้านบาร์เรล ราคาน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์ (-5.2%) สู่ 37.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent ส่งมอบ มิ.ย. ปรับขึ้น 1.97 ดอลลาร์ (+5.2%) ปิดที่ 39.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองร่วง 1% ในวันพุธ เพราะตลาดหุ้นฟื้นตัวทำให้มีการขายทำกำไรทองหลังจากวันอังคารวิ่งขึ้นไป ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.6% ปิด 1,223.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ มิ.ย. ลดลง 0.5% ปิด 1,223.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331