- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 April 2016 17:03
- Hits: 847
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตั้งรับ
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ สอดคล้องกับการเปิดปรับตัวลงของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเซีย และตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลงเมื่อคืนหลังจากราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ยังร่วงแรงต่อ สัญญาณที่ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ เจ้าหน้าที่ Fed ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในแต่ละประเภทที่ผิดปกติ ภายในประเทศภาวะอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มล้นตลาด และการปรับลดเป้าส่งออกของภาคเอกชน สะท้อนอุปสงค์ที่อ่อนแอภายในประเทศ และจากต่างประเทศ การค้าชายแดนกลับกลายเป็นภาคส่วนเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มสดใสเพียงไม่กี่ภาคส่วนในเวลานี้
หุ้นเด่นวันนี้ : UNIQ (Bt18.20; NR Bloomberg 16TPBt24.00)
เราเลือก Unique Engineering Plc.(UNIQ) เป็นหุ้นลงทุนวันนี้ บนกระแสการลงทุนเรื่องการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐบาล โดย UNIQ ถือว่ามีความสามารถในการทำกำไรสูงสุดในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่ม ซึ่งในปี 2015 มีการเติบโตของยอดขายมากถึง 24% YoY และกำไรสุทธิ 40% YoY ทั้งนี้จากเครื่องชี้วัดในเรื่องยอดการบริโภคปูนซีเมนต์ ชี้ว่าภาครัฐบริโภคซีเมนต์เพิ่มขึ้นในปีก่อนถึง 11% ขณะที่ภาคก่อสร้างเชิงพาณิชย์มียอดการบริโภคลดลง 2% และภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลงมากถึง 5% ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง แต่ภาครัฐกลับมีการเติบโตด้านภาคการก่อสร้าง UNIQ เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เน้นงานภาครัฐบาลเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นโครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ Backlog รวมของ UNIQ ณ สิ้นปี 2015 เหลือ 24,000 ล้านบาท เพียงพอสร้างรายได้ใน 2 ปีข้างหน้า ขณะที่บริษัทเพิ่งชนะประมูลการสร้างทางเชื่อมถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนภิเษก มูลค่า 6,700 ล้านบาท นอกจากนี้ ด้วยงานประมูลภาครัฐที่ทยอยออกมาในสองปีนี้ ทั้งงานรถไฟฟ้าสายใหม่ งานสร้างทางรถไฟรางคู่ และงานมอเตอร์เวย์ UNIQ และบริษัทรับเหมาก่อสร้างอื่น ๆ คาดการณ์ว่าจะมี Backlog เพิ่มเข้ามาได้อีกมาก โดย UNIQ ยังตั้งเป้าจะมีงานเพิ่มอีก 50,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2016-2017 Bloomberg Consensus ประเมินว่าในปี 2016 และ 2017 UNIQ จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 28% และ 17% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33% และ 16% ตามลำดับ ในปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ PER ปี 2016 ที่ 27.5 เท่า คิดเป็นค่า PEG ที่ 0.83 เท่า แนะนำซื้อ นอกจากนี้ Price Pattern ของ UNIQ มีความแข็งแกร่งจากการเกิด Daily & Monthly Buy Signal และหาก Price Pattern ของ UNIQ สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือกว่า 18.50 บาท ก็จะทำให้ Price Pattern ของ UNIQ กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ส่งผลให้ Price Pattern ของ UNIQ กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างเต็มตัว จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ UNIQ ที่ได้สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายเบื้องต้นที่ 17.50 บาทไปแล้ว คาดว่า Price Pattern ของ UNIQ น่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 18.40 บาท และเป้าหมายสำคัญที่ 19.20 บาท ตามลำดับ โดยมีจุด Stop Loss ของ UNIQ ในรอบนี้อยู่ที่ 16.40 บาท (Resistance: 18.40, 18.60, 18.80; Support: 18.00, 17.80, 17.60)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กนง. จับตาอุปทานภาคอสังหาริมทรัพย์ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้จับตาภาวะอุปทานล้นของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด หนี้ครัวเรือนสูงและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานล่าช้าทำให้อุปสงค์ความต้องการลดลง อย่างไรก็ดี กนง. ชี้ว่าฐานะการเงินของผู้พัฒนาโครงการยังแข็งแรงและสามารถทนต่อความเสี่ยงจากอุปทานล้นเกินในตลาดได้ (Bangkok Post)
ภาคเอกชนปรับลดการคาดการณ์ส่งออก สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ได้ปรับลดการคาดการณ์การส่งออกของประเทศเติบโตเหลือ 0-2% ในปีนี้จากก่อนหน้าคาดการณ์ไว้ที่ 2% เนื่องจากเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่จะยังคงกดดันต่อการขนส่งสินค้าทางเรือของไทย (Bangkok Post)
คาดการเข้าร่วมทีพีพีจะตัดสินใจในเดือนนี้ การประชุมของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจต่างประเทศซึ่งมีนายกรัฐมนตรี นายประยุทธ์ จันโอชาเป็นประธาน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 29 เม.ษ. นี้ คาดว่าจะให้ความชัดต่อจุดยืนของประเทศไทยต่อความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์กล่าว รัฐบาลมีมุมมองเชิงบวกต่อกาประชุมครั้งนี้ว่าน่าจะอนุญาตให้เริ่มเจรจาต่อประเทศสมาชิกของทีพีพีในต้นปีหน้า (Bangkok Post)
รัฐบาลจะพิจารณาประเด็นการค้าชายแดน รัฐกำลังพยายามจัดการประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการค้าชายแดนเพื่อกระตุ้นการค้าชายแดนให้ได้ 21.4% ในปีนี้เป็น 1.7 ล้านล้านบาท กล่าวโดยนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ประเด็นดังกล่าวรวมถึงการหิ้วสินค้า การขยายเวลาทำงานของจุดตรวจสินค้าและการขนส่งระหว่างการค้าชายแดน (Bangkok Post)
PTT (280.00 บ.) และกระทรวงการคลังรวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 9 คนเมื่อวานนี้ได้ถูกผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นฟ้องในกรณีที่ PTT ยังส่งมอบสินทรัพย์ท่อก๊าซธรรมชาติส่วนที่ผูกติดมาก่อนที่ PTT จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2544 มูลค่าทั้งสิ้น 6.9 หมื่นลบ. กลับคืนมาให้ภาครัฐไม่ครบถ้วน โดยเมื่อปี 2550 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ PTT คืนท่อก๊าซฯ กลับมาเพียงบางส่วนมูลค่า 1.6 หมื่นลบ. (Bangkok Post) ความเห็น: เราพบว่าไม่มีประเด็นใหม่เพิ่มเติมไปจากการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในลักษณะเดียวกัน 4 ครั้ง ในช่วงปี 2550-55 โดยศาลปกครองได้มีคำสั่งยืนยันทั้ง 4 ครั้งว่า PTT. ได้คืนและแบ่งแยกทรัพย์สินตามคำพิพากษาให้แก่กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ศาลปกครองสูงสุดยังได้อ่านคำสั่งยืนยันอีกครั้งในประเด็นเดิมเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา
THCOM (29.50 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 49 บาท) บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มฟอร์เอฟเวอร์ ผู้ประกอบธุรกิจสื่อ และผู้ให้บริการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมชั้นนำของพม่า โดยเช่าเพิ่มช่องสัญญาณอีก 5 ช่องจากเดิมเช่าอยู่แล้ว 3 ช่องสัญญาณ ซึ่งจะช่วยหนุนอัตราการใช่ช่องสัญญาณดาวเทียมของไทยคมได้ (The Nation) ความเห็น: จำนวนช่องสัญญาณที่เพิ่มขึ้นจาก 3 ช่องเป็น 8 ช่องถือว่าเพิ่มกว่าเท่าตัว สะท้อนความแข็งแกร่งของไทยคมในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาเซียน โดยยังมีช่องให้โตอีกมากในตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) เพราะการเติบโตน่าเป็นไปตามขั้นพัฒนาการตามที่ไทยเคยได้เป็น เราคงคำแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายปี 59 เท่ากับ 49 บาท
ต่างประเทศ
ความเห็นที่ต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตันเป็นคนล่าสุดที่ให้มีความเห็นในแนว hawkish เมื่อวันจันทร์ โดยกล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่ตลาดฟิวเจอร์สคิดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวหรือไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นการมองโลกในแง่ร้ายเกินไป นายโรเซนเกรนโดยปกติแล้วจะเป็นฝ่าย dovish ได้เน้นว่านางเยลเลน ประธานเฟดมีความเห็นต่างจากประธานเฟดคนอื่น ๆ อย่างไรในสัปดาห์ที่แล้ว (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดเทียบกับเงินเยนในช่วงกว่า 2 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ จากความคาดหวังต่อเนื่องเกี่ยวกับเส้นทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างช้า ๆ ในปีนี้ ดอลลาร์ล่าสุดปรับตัวลงเทียบกับเงินเยน 0.32% อยู่ที่ 111.31 เยน
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐล่าสุดปิดลดลง 0.07% อยู่ที่ 94.551 จุด และใกล้กับระดับต่ำสุดที่ 94.319 จุดในสัปดาห์ก่อน ส่วนเงินยูโรแข็งค่าสูงสุดแข็งค่าขึ้น 0.04% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.1390 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งที่ 1.1437 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นลดลงเมื่อวันจันทร์ ด้วยอัตราผลตอบแทนอ้างอิงใกล้แตะระดับต่ำสุดเนื่องจากข้อกังขาเกี่ยวกับความทนทานของการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งหนุนความเห็นของเฟดอาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลง 0.02% อยู่ที่ 1.772% โดยแตะระดับ 1.753% เมื่อวันจันทร์ซึ่งต่ำสุดนับแต่ 1 มี.ค. (Reuters)
“Panama Paper” เผยความเชื่อมโยงทางเครือข่ายสำคัญ รัฐบาลทั่วโลกเริ่มตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายทางการเงินของผู้ที่ร่ำรวยและมีอำนาจหลังจากมีการรั่วไหลของเอกสารอายุ 4 ทศวรรษ จาก Mossack Fonseca ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งในปานามาซึ่งเชี่ยวชาญในการจัดตั้งบริษัทลูกในต่างประเทศ (offshore company) “Panama Papers” เผยถึงการจัดการทางการเงินของนักการเมืองและบุคคลสาธารณะรวมถึงเพื่อน ๆ ของนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ญาติของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไอซ์แลนด์ และปากีสถาน และประธานาธิบดียูเครน เอกสารดังกล่าวมีหลักฐานการเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน การทำธุรกรรมผิดกฎหมาย การค้ายาและความผิดทางอาญาอื่น ๆ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันจันทร์ ถอยกลับจากที่ทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมาซึ่งทำระดับสูงสุดใหม่โดยมีสาเหตุจากการขาดทุนของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมได้หักกลบการขึ้นของหุ้นในกลุ่มเวชภัณฑ์ นักลงทุนยังคงรอฤดูการประกาศผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/59 ซึ่งคาดว่าบริษัทที่อยู่ในการคำนวณดัชนี S&P500 จะมีกำไรสุทธิลดลง 7.1% YoY จากข้อมูลของทอมสันรอยเตอร์ส (Reuters)
ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐลดลงในเดือนก.พ. และการใช้จ่ายทางธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าทุนน้อยกว่าที่คาดไว้มาก มีข้อมูลบ่งบอกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงในไตรมาส 1/59 ยอดสั่งซื้อใหม่ลดลง 1.7% เนื่องจากความต้องการสินค้าลดลงมาก สวนทางกับการเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนม.ค. ยอดสั่งซื้อได้ลดลง 14 ใน 19 เดือนที่ผ่านมา การจัดส่งสินค้าทุนหลักซึ่งเคยใช้คำนวณการใช้จ่ายอุปกรณ์ธุรกิจในรายงาน GDP ลดลง 1.7% ในเดือนก.พ. มากกว่าเดิมที่รายงานไว้อยู่ที่ 1.1% (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปดีดกลับจากระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อวันจันทร์ นำโดยการปรับตัวขึ้นของกลุ่มหุ้นที่ไม่ผันผวนตามวัฎจักรเศรษฐกิจ แต่หุ้นกลุ่มเทเลคอมปรับตัวลงหลังมีการพูดคุยระหว่าง Orange และ Bouygues เพื่อขยายบริการทดแทนผู้ประกอบการฝรั่งเศสที่ล้มลง (Reuters)
เอเชีย :
คาดการแปลงหนี้เป็นทุนของจีนจะช่วยแก้ปัญหา NPL ได้ถึง 1.0 ล้านล้านหยวน (1.54 แสนล้านดอลลาร์ฯ) ภายในเวลา 3 ปีหรือน้อยกว่านั้น อ้างอิงจากรายงานของบริษัทมีเดีย Caixin ทั้งนี้ NPL ในจีน ณ สิ้นปี 2558 สูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.27 ล้านล้านหยวน (Reuters)
David Cameron ปธน. อังกฤษ ต้องการให้อังกฤษและจีนร่วมมือกันรับมือกับภาวะการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรมเหล็ก และจะเป็นประเด็นสำคัญที่จะหยิบยกขึ้นมาในที่ประชุม G20 โดย Cameron ระบุว่าสาเหตุหลักมาจากกำลังการผลิตที่มีมากเกินไปในจีน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันร่วงกว่า 2% วันจันทร์ โดย Brent ได้แตะจุดต่ำสุดรอบ 1 เดือน เพราะนักลงทุนยังสงสัยว่าประเทศผู้ผลิตจะลดการผลิตเพื่อคุมจำนวนน้ำมันล้นตลาดได้หรือไม่ Brent ส่งมอบ มิ.ย. ปรับลง 98 เซนต์ (-2.5%) ปิดที่ 37.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แตะจุดต่ำสุด ณ 4 มี.ค.ที่ 37.60 ดอลลาร์ ลดลง 11% จากจุดสูงสุดปี 59 ที่ 42.54 ดอลลาร์ในวันที่ 18 มี.ค. ราคาน้ำมันสหรัฐลดลง 1.09ดอลลาร์ (-2.9%) สู่ 35.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองร่วงในวันจันทร์ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ หนุนให้นักลงทุนกล้าเสี่ยงมากขึ้น และเจ้าหน้าที่ Fed กล่าวว่าการขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเร็วกว่าที่ตลาดส่วนใหญ่คาดเพราะความกังวลด้านเศรษฐกิจได้แผ่วลงแล้ว ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.5% ปิด 1,216.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ มิ.ย. ลดลง 0.3% ปิด 1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
ทองแดงแตะจุดต่ำสุดในรอบเดือนและนิกเกิลร่วงไปต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์วันจันทร์ เพราะนักลงทุนขายปิดสถานะซื้อจากความกังวลเศรษฐกิจจีนและความต้องการโลหะ ทองแดง 3 เดือนตลาด LME ร่วงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ราคาลดลงสู่ 4,757.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ต่ำสุดนับแต่ 3 มี.ค. ก่อนที่จะกลับขึ้นมาปิดที่ 4,760.50 ดอลลาร์หรือลบ 1.5%
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331