- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 April 2016 17:32
- Hits: 1442
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1375-1380
SET Index: 1400.02 เคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่องที่บริเวณ 1400 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1410 และ 1420 จุด แต่ยังคงมีแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 1370 จุด ถ้าไม่มีแรงซื้อกลับเข้าไปจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด
แนวต้าน : 1404 และ 1407
แนวรับ : 1395 และ 1390
AOT = 394 / 397, ADVANC = 177 / 179, DTAC = 38.50 / 39.00, KBANK = 168 / 170, BANPU = 17.20 / 17.50
Superblock (SUPER TB; THB 1.26) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.35 และ 1.42
แนวรับ : 1.26 และ 1.25
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างที่บริเวณจุดสูงสุดในระยะสั้น แต่จุดต่ำยกตัวสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SUPER โดยมีแนวรับที่ 1.26 และ 1.25 และมีแนวต้านที่ 1.35 และ 1.42 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.22 ลงไป
SNC Former (SNC TB; THB 15.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 15.70 และ 16.00
แนวรับ : 15.10 และ 15.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก
MACD ปรับตัวเพิ่มเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SNC โดยมีแนวรับที่ 15.10 และ 15.00 และมีแนวต้านที่ 15.70 และ 16.00 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 14.80 ลงไป แนวรับถัดไป 14.30 เป็นจังหวะซื้อเพิ่ม
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ราคาน้ำมันเริ่มแกว่ง
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวันศุกร์ยังสามารถพุ่งขึ้นได้ 100 กว่าจุด จากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตัวเลข PMI ประจำเดือน มี.ค. ที่ปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าคาดและอยู่ในระดับเหนือ 50 ส่วนตัวเลขการจ้างงานก็ออกมาในเชิงบวก คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคาด ขณะที่อัตราการจ้างงานกลับเพิ่มขึ้น หลังจากนี้ไปดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะต้องเผชิญกับการประกาศผลการดำเนินงาน Q1/16 ของบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 ซึ่งตอนนี้คาดว่าจะติดลบ 7%
แม้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะยังมีแรงหนุน แต่คาดกันว่าจะเป็นช่วงสั้นๆ หลังจากนี้ไป เพราะจากผลสำรวจล่าสุดของบรรดานักลงทุน มองเป้าของดัชนีตลาดหุ้น S&P ปีนี้อยู่ที่ 2,100 จุด ส่วนดาวโจนส์ที่ 18,050 จุด ซึ่งมี upside แค่ประมาณ 2% จากราคาปิดในวันศุกร์ นอกจากตลาดหุ้นสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นยุโรป จะมี upside ที่ประมาณ 8% และเอเชียเหนือและอินเดียประมาณ 6% ส่วนมุมมองของบรรดากองทุนทั่วโลกหรือ Global fund manager จำนวน 49 กองทุนที่สำรวจโดย Thomson reuters เมื่อวันที่ 17 และ 30 มี.ค. พบว่ากองทุนยังลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นและพันธบัตรลงต่อจากเดือน ก.พ. และถือเงินสดเพิ่มแต่กลับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนทางเลือกอย่าง Hedge fund Private equity Commodity และ Infrastructure ส่วนผลสำรวจทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจากบรรดา ธนาคารและ Trader คาดจะขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจะขึ้นในเดือน มิ.ย.
ภาพการสำรวจข้างต้นกำลังสะท้อนให้เห็นความกังวลของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ แม้ตอนนี้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังปรับัตวขึ้นก็ตาม ส่วนประเด็นที่จะนำพาตลาดลงรอบนี้ นอกจากผลการดำเนินงานแล้ว ที่เห็นได้ชัดคือ ราคาน้ำมัน โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิ่งลงไปอีก 4% เมื่อคืนวันศุกร์ หลัง รมต. น้ำมันซาอุดิอาระเบียเผย การประชุมที่จะเกิดในวันที่ 17 เม.ย. เรื่องการ Freeze Production จะต้องมีอิหร่านเข้าร่วมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทางอิหร่านปฎิเสธ การเข้าร่วมมาโดยตลอด ดังนั้นหากผลการประชุมในวันที่ 17 เม.ย. ไม่มีอะไรออกมาหรือเลื่อนประชุมออกไปอีก น่าจะส่งผลต่อราคาน้ำมัน ล่าสุดจากการสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ 31 คน คาดราคาน้ำมันใน Q2/16 เฉลี่ยอยู่ที่ 38.6 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ และข้อมูลล่าสุดสิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. ทาง Hedge fund ลดการ Long Position น้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์
ภาพตลาดในบ้านเราในอาทิตย์นี้ น่าจะเริ่มแกว่งตัวแรงขึ้นหลังราคาน้ำมันกำลังดิ่งลง รวมทั้งข่าวที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินจะเข้าไต่สวน PTT กรณีฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ปัจจัยภายในไม่มีอะไรใหม่ๆ โดยค่า P/E เล่นกันเกือบสูงสุดรอบ 10 ปี เราจึงมองว่าในอาทิตย์นี้ดัชนี SET จะลงมาเล่นต่ำกว่า 1400 จุด จากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน สำหรับแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศมองไม่น่าจะมีเพิ่มขึ้นจนกว่าจะมีการประกาศงบ Q1/16 โดยวันนี้มองดัชนีเปิดขึ้นมาจะเทรดทั้งแดนบวกและลบ แต่สุดท้ายน่าจะปิดลบแรง โดยมีแนวต้านที่ 1406-1410 จุด ส่วนแนวรับที่ 1390-1385 จุด หุ้นที่แนะนำ เล่นเก็งกำไรในวันนี้ คือ LH และ ERW โดยดัชนีกลุ่มทั้ง 2 ยังขึ้นได้น้อยมาก
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,400.02 จุด ลดลง 0.70 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 17,182.58 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องหมาย XD (BIGC INTUCH SCC) และราคาน้ำมันปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กดดันกลุ่มพลังงาน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกง-จีน-ไต้หวันปิดทำการเนื่องในวันเชงเม้ง
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดแกว่งแคบ ด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวนต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลง อย่างกลุ่มการบิน อย่างไรก็ตามเรามองว่าการซื้อขายในช่วงนี้น่าจะชะลอตัว เนื่องจากเข้าใกล้วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ มองแนวรับระยะสั้น 1395-1390 จุด แนวต้าน 1402-1410 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Superblock (SUPER TB; THB 1.26) - ซื้อ
SNC Former (SNC TB; THB 15.10) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]