- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 March 2016 18:17
- Hits: 1571
บล.โนมูระ พัฒนสิน : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ประธาน FED ส่งสัญญาณ Dovish ต่อเนื่อง กด Dollar อ่อน หนุนสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว เน้น Inflation Hedge PTTEP, PTTGC, BRR
Nomura : Key Factors
(+) Ex Factor: ถ้อยแถลงเยนเลนมีมุมมอง Dovish มากยิ่งขึ้น บวกต่อสินทรัพย์เสียงฟื้น
(+) Int Factor: ครม.อนุมัติมาตรการลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายกิน-เที่ยวช่วงสงกรานต์
(+) Int Factor: ครม.อนุมัติหลักการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู
(+) Int Factor: สถิติสัปดาห์สุดท้ายของ ไตรมาส 1 SET บวกเฉลี่ย 0.95% โอกาส 71.43%
(+) TFEX: สถานะสะสมของต่างชาติใน TFEX ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบันสูงถึง 128,400 สัญญา
(+/-) TH Econ: ดัชนี MPI ไทย เดือน ก.พ. ที่ -1.6% ดีกว่าตลาดคาดที่ -3.1%
(*) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 718 ลบ., Short Future 2590, ซื้อ Bond 2689 ลบ.
(*) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F ที่ 14.76 เท่า ใกล้เคียง LT Avg PER 14.7 เท่า
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบ WTI -2.8% สู่ $38.28/bbl / Brent -2.8% สู่ $39.14/bbl
SET PER 16F: CNS 13.78x (EPS 101) vs Cons.14.76x (LT-Avg 14.7x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 101, PER15x)
Nomura Daily Top Picks: PTTEP, PTTGC, BRR
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ แกว่งขึ้น ในกรอบแนวต้าน 1402/1411จุด และแนวรับ 1382/1376จุด จากถ้อยแถลงของนางเจนเนต เยนเลน ประธาน FED ในงาน Economic Club ที่นิวยอร์ก วานนี้ ส่งสัญญาณ Dovish มากยิ่งขึ้น หลังจากมีความกังวลต่อ 1) ภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และ 2) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงแกว่งตัวในระดับต่ำ คาดจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัว บ่งชี้เป็นนัยฯต่อโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อรอสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และรออัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ ก่อนที่จะพิจารณาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป (Bloomberg Consensus ให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยรอบเดือน เม.ย. นี้ เหลือ 0% จากเดิมที่ 6%) ดังนั้นจากมุมมองของประธาน FED ดังกล่าว กดดันให้ค่าเงิน Dollar Index วานนี้อ่อนค่าลงมากถึง -0.82% สู่ระดับ 95.126 จุด (ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์) คาดจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงถัดไปได้ ผสานสภาพคล่องส่วนเกินจากนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ คาดยังคงเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง Emerging Market ได้โดดเด่น กว่า Developped Market
ส่วนปัจจัยในประเทศ แนวโน้มดัชนีชี้นำเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว นำโดย Mfg Production Index เดือน กพ 2016 ที่ติดลบเพียง -1.6% ดีกว่าตลาดคาด -3.1% และเดือนก่อน -3.3% ผสานกับล่าสุด ครม ได้อนุมัติ รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ในแง่หลักการเรียบร้อยแล้ว คาดจะหนุนการลงทุนภาคเอกชนค่อยๆ ฟื้นตัว รวมถึง เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายท่องเที่ยว-รับประทานอาหารในประเทศ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 9-17 เม.ย. มาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท และต่ออายุค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อไปอีก 1 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนการบริโภค การท่องเที่ยว ฟื้นตัวขึ้น สำหรับเช้านี้ Nomura มีการออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ ASEAN Bank โดยสำรวจจาก นักลงทุนชาวสิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซีย พบว่านักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจใน Indonesian Banks จากความเป็นไปได้ที่รัฐจะยื่นมือช่วยในเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่ สิงคโปร์ และมาเลเซีย ยังขาด catalysts มาผลักดัน ส่วน BANK ไทย นักลงทุนมีความกังวล cycle ของ NPLs ว่าพ้นจุดสูงสุดแล้วหรือไม่ หลังราคาหุ้น Outperform ภูมิภาคค่อนข้างมาก
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Short-Term Strategy : มุมมอง Dovish จากประธาน FED คาดกดดัน Dollar อ่อนค่า เป็นบวกต่อการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แนะนำ Inflation Headge (PTTEP, PTTGC, BRR, KSL, CPF) ผสานกับกลุ่ม BANK รับโอกาสฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังแผนการลงทุนรัฐฯเดินหน้า BBL, SCB , TMB (laggard) เด่น รวมถึงหุ้นที่ได้รับอานิสงค์นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ นำโดย มาตรการลดหย่อนท่องเที่ยว&อาหาร (ERW, MINT, ROBINS) , ความคืบหน้าโครงสร้างพื้นฐาน (CK, PYLON, SCC) ส่วนนักลงทุนระยะกลางแนะสะสมหุ้น2Q15 Top Picks Theme : Bottom & Laggard Play : SCC, SCB, BDMS, CK, PTT, IVL, VIBHA สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: PTTEP, PTTGC, BRR*
Mid-Long Term Strategy : คาด มี.ค. 2016 หุ้น Big Cap ได้แรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าเอเซียต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจ DM ชะลอตัวกว่า EM-ASIA ผสานสภาพคล่องโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายการเงินผ่อนคลาย หนุน SET สู่ต้าน 1378/1411จุด โดยคาดกลุ่มนำตลาด คือ Big Cap Domestic & High Yield เช่น BBL, SCB, KTB, SCC ผสานหุ้นน้ำมันที่มีลักษณะเก็งกำไรระหว่างเดือนได้ PTT, PTTEP, PTTGC และให้เริ่มจับตา Mid-Small Cap ที่คาดจะเริ่ม Outperform ต่อเนื่อง นำโดย 1) กลุ่ม Module oil and gas (STPI, BJCHI) ลุ้นโครงการ LNG กลับมาเดินหน้าหลังน้ำมันฟื้น 2) Earning Momentum ปี 2016 เด่น (TPCH, ERW, CI) 3)กำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว CK, BRR 4) High Yield BJCHI, QTC, SC, AP, CI, PS, QH ส่วนหุ้น Dark Horse แนะนำ DTAC ในฐานะ Laggard Downside จำกัด และมีจิตวิทยาบวกหากธุรกิจ ICT พลิกมีผู้แข่งขันในกลุ่มเท่าเดิม สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้ เช่น TASCO, EPG หากน้ำมันฟื้นตัวอาจถูกขายทำกำไร และ MEDIA(BEC) ที่กำไรมีแนวโน้มชะลอตัว สำหรับ Portfolio Top picks MAR 16: DTAC, BRR, TPCH, CI, ERW, PYLON
Investment Theme:
· 2016 AEC Connectivity : WISE
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT
. 2Q16 Top Picks : SCC, SCB, BDMS, CK, PTT, IVL, VIBHA
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTTEP (TP97*): Support 66/64.5 Resistance 70.5/72.5
Theme: Oil Recovery
Earning Outlook : คาดกำไรสุทธิ 2016F พลิกกลับมาเป็นกำไร 13.25 พันลบ. ฟื้นตัว y-y จากสมมติฐานราคาน้ำมันดิบที่ US$40/bbl
Valuation : มูลค่าเหมาะสมปี 2016F ที่ 97 บาท อิงตาม Nomura PER16F 21.6x
Catalyst : การชะลอขึ้นดอกเบี้ยของ FED กระตุ้นราคาสินค้า Commodity น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะสั้นจากค่าเงินดอลล์อ่อนค่าลง
PTTGC (TP68*): Support 58/56 Resistance 61/63
Theme: Oil Recovery
Earning Outlook : Spread ของกลุ่มธุรกิจโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์มีแนวโน้มดีขึ้น q-q หนุนผลประกอบการ1Q16F ทรงตัว ที่ 4.0 พันลบ.
Valuation : ราคาปัจจุบันเทรดที่ P/BV ต่ำ 0.96x ขณะที่ผลประกอบการได้ประโยชน์เมื่อราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว Upside 14.3%
Catalyst : การชะลอขึ้นดอกเบี้ยของ FED กระตุ้นราคาสินค้า Commodity น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะสั้นจากค่าเงินดอลล์อ่อนค่าลงย
BRR (TP15.6*): Support 13.1/12.9 Resistance 13.5/14.0
Theme: Complete Utilization of Sugar
Earning outlook: ก้าวสู่การบันทึกกำไรที่จุดสูงสุดใหม่ใน 1Q16F คาดที่ระดับ 156.7 ลบ. +11.5% y-y และเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจนถึง 2Q16F เป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย
Valuation: มูลค่าเหมาะสมปี 2016F ที่ 15.60 บาท Upside 17.29% โดยคาด EPS growth ในปี 16F เติบโตกว่า 81.9% y-y และเติบโตต่อเนื่องสามปีข้างหน้าเฉลี่ย (16F-18F) กว่า 55.2%
Catalyst: ราคาน้ำตาลปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 15.86 เซนต์/ปอนด์ -0.5% อย่างไรก็ตาม การชะลอขึ้นดอกเบี้ยของ FED กระตุ้นราคาน้ำตาล มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะสั้นจากค่าเงินดอลล์อ่อนค่าลง
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)