- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 March 2016 15:43
- Hits: 931
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1375-1380
SET Index: 1390.73 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1390 จุดหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับสำคัญที่ 1397-1400 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1375-1380 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งเราคาดว่า น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1390 จุด แต่ถ้าไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามาแนวโน้มของ SET Index จะมีแนวรับถัดไปที่ 1340-1350 จุด
แนวต้าน : 1395 และ 1397
แนวรับ : 1386 และ 1380
KBANK = 165 / 167, CPALL = 43.00 / 44.00, DTAC = 42.00 / 42.50, SCB = 135 / 137, ADVANC = 186 / 188
Tipco Asphalt (TASCO TB; THB 24.80) – ซื้อ
แนวต้าน : 26.00 และ 27.80
แนวรับ : 24.80 และ 24.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือจุดต่ำสุดเดิม แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง สะท้อนถึงแรงขายที่เริ่มลดลง ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องในระยะสั้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ TASCO โดยมีแนวรับที่ 24.80 และ 24.60 และมีแนวต้านที่ 26.00 และ 27.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 24.00 ลงไป
TPC Power Holding (TPCH TB; THB 16.70) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.40 และ 18.00
แนวรับ : 16.70 และ 16.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนเข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงในระยะยาวขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 60
แนะนำซื้อ TPCH โดยมีแนวรับที่ 16.70 และ 16.50 และมีแนวต้านที่ 17.40 และ 18.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.20 ลงไป
SET50 Index Futures
S50H16 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากปรับัตวลดลงหลุดระดับ 900 ลงไป แต่เมื่อพิจารณาปริมาณการซื้อขายที่ไม่สูงมาก ทำให้การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ 886-888 น่าจะมีการฟื้นตัวในระยะสั้น เพื่อกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 900 และ 906 โดยมีแนวรับสำคัญ 880
แนวต้าน : 894 และ 897
แนวรับ : 890 และ 888
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50H16 ที่แนวรับ 888 หรือ S50M16 ที่แนวรับ 884 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวรับสำคัญไปทดสอบ 900
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50M16 ปรับตัวลดลงหลุด 880 ลงไป
JASH16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับสำคัญที่ 3.44 ลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 3.20 และมีแนวรับสำคัญที่ 3.12 ถ้าหลุดลงไปต่อเนื่อง จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 2.80
แนวต้าน : 3.34 และ 3.40
แนวรับ : 3.24 และ 3.20
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Long ใน JASH16 หรือ JASM16 ออกไปก่อนหลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 3.44 ลงไป
STOP LOSS สถานะ Long หลังจาก JASH16 ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 3.40 ลงไป
TPIPLH16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างที่บริเวณ 2.60 แต่เราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 2.70-2.74 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น น่าจะใช้เป็นจังหวะขายทำกำไร และรอ Open Short บริเวแนวต้าน 2.80 ตามโครงสร้างของการฟื้นตัวทางเทคนิค แนวรับสำคัญ 2.50
แนวต้าน : 2.70 และ 2.74
แนวรับ : 2.60 และ 2.58
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายสถานะ Long ใน JASH16 ที่แนวต้าน 2.74 และรอ Open Short ใน TPIPLM16 ที่แนวต้าน 2.78-2.80
STOP LOSS สถานะ Short ใน TPIPLM16 ถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 2.82 ขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ตลาดอยู่ในภาวะซึมตัว
สถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลก ดูเหมือนกำลังรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ และกำลังเข้าสู่ช่วงปิดงบ 1Q16 โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในอาทิตย์นี้ คือ การแถลงของประธาน FED ที่นิวยอร์ก การรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์ โดยตลาดคาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 4.9% ส่วนทิศทางดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ กลับมาแกว่งในกรอบแคบและทรงตัว หลังตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้การคาดการณ์ว่าทาง FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. มีเพียง 10% และขึ้นในเดือน มิ.ย. 37% ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 50%
หุ้นใหญ่ใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของไทย อย่าง พลังงาน สื่อสารและธนาคารพาณิชย์ ปรากฏว่าต่างขึ้นมาในระดับที่ไปต่อลำบาก กล่าวคือ ส่วนใหญ่ขึ้นมาที่ระดับราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลาง ซึ่งโดยปกติราคาหุ้นใหญ่จะผ่านขึ้นไปที่ราคาเป้าหมายสูงสุดลำบาก อย่าง PTT และ PTTEP ต่างขึ้นมาอยู่ในระดับราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลาง (รูปด้านซ้ายและขวา) สำหรับทิศทางราคาน้ำมันแม้ส่วนใหญ่ยังมีความเห็นว่ายังสามารถขึ้นได้ต่อในช่วงสั้น แต่ล่าสุดทาง Barclays และ Macquarie ออกมาเตือนว่าราคาน้ำมัน ยังมีสิทธิปรับตัวลงไปที่ระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางพื้นฐานที่ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะปริมาณสต็อกน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง
ปัจจัยหนุนในสัปดาห์นี้ ยังคงเป็น เรื่องมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาล ในช่วงสงกรานต์ ที่คาดว่าจะเข้า ครม. วันนี้ นอกนั้นอาจจะรอการทาปิดงบรายไตรมาส(หากมี) อย่างไรก็ตามดูเหมือนภาพการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วเอเชียในช่วงนี้จะกลับมาเงียบเหงา เนื่องจากไม่มีปัจจัยทั้งเชิงบวกและลบ หลังค่าเงินดอลลาร์กลับแข็งตัวขึ้นมา ขณะที่ราคาน้ำมันแกว่งตัวในกรอบแคบ ได้ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเบาบาง
ดัชนีในระดับที่เป็นอยู่ หากมาวิเคราะห์ถึงความถูกความแพงผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของดัชนี MSCI Thailand จะพบว่ากำลังอยู่ในระดับ 14 เท่าซึ่งถือใกล้จุดสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 14.1 เท่า การที่ดัชนีขึ้นได้แค่ใกล้ 1400 จุดแต่ค่า P/E กลับสูงมากๆ เทียบปี 2015 ที่ตอนนั้นดัชนี SET ขึ้นไปถึง 1600 จุดและค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าสูงที่ 14 เท่า เหตุมาจากแนวโน้มกำไรของตลาดหุ้นไทยเริ่มทรุดตัวลงรอบใหม่
วันนี้คาดดัชนี SET จะซึมๆ คือ เทรดทั้งแดนบวกและลบ ตามดัชนีในภูมิภาคและราคาน้ำมัน โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1394-1398 จุด ส่วนแนวรับที่ 1384-1378 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร MINT
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,390.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 15,117.13 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่ตลาดรอดูการแถลงของประธานเฟดว่าจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ (คืนนี้) บ้านเราติดตามการประชุมครม. พิจารณานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม (วันนี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบๆ รอความชัดเจนเรื่องเฟดในคืนนี้ อย่างไรก็ตาม แรงขายต่างชาติยังกดดันตลาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคารที่แนวโน้มผลการดำเนินงานอาจจะถูกกดดันจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น เรายังมองว่าระยะสั้นตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับฐานย่อย หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง เนื่องจากเริ่มมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยในรอบเดือนเม.ย.นี้ โดยประเด็นที่ต้องจับตา คือการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดคืนนี้ หากส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะมีการขึ้นดอดเบี้ย ตลาดน่าจะเกิดแรงขายตามมา ระยะสั้นถือเงินสดเพิ่มไปก่อน รอซื้อกลับที่แนวรับ 1375 จุด และถัดไปที่ 1354 จุด ส่วนแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1395 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Tipco Asphalt (TASCO TB; THB 24.80) - ซื้อ
TPC Power Holding (TPCH TB; THB 16.70) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]