- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 March 2016 16:27
- Hits: 857
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความกลัวเศรษฐกิจโลกบรรเทาลง
หุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นวันนี้หลังจากมีการปรับการเติบโต GDP ไตรมาส 4/58 ของสหรัฐขึ้นและการกลับมาเติบโตของกำไรภาคอุตสาหกรรมจีนใน ม.ค.-ก.พ. 59 น่าจะผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี ตัวเลจเศรษฐกิจสหรัฐสัปดาห์นี้เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ควรจะออกมาอยู่ในระดับพอดี คือไม่ดีมากจนกระตุ้นให้ขึ้นดอกเบี้ยได้แรงหรือไม่อ่อนไปจนทำให้กลับมากังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย เพื่อให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น ปัจจัยในประเทศส่วนใหญ่เป็นบวกและน่าจะหนุนตลาด การส่งออกเดือน ก.พ. กลับมาโตได้เป็นเดือนแรกในรอบ 14 เดือนและยังมีมุมมองเชิงบวกที่ดีขึ้นต่อไป และรัฐบาลตัดสินที่จะเดินหน้ารถไฟความเร็วสูงปีนี้โดยไม่รอจีนมาร่วมลงทุน
หุ้นเด่นวันนี้ : CPF (ราคาปิด 23.40 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 26.00 บาท)
บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร มีแนวโน้มผลประกอบการที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในปีนี้ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคคอลที่แข็งแกร่ง เรายังเห็นปัจจัยบวกหลายอย่างโดยเฉพาะการฟื้นตัวของธุรกิจกุ้งและไก่ในปีนี้ ได้แก่ 1) ราคาสินค้าประเภทอาหารสัตว์ (ข้าวโพดและถั่วเหลือง) จะยังคงต่ำในปีนี้เนื่องจากมีปริมาณอุปทานวัตถุดิบที่ยังพอเพียงจากสหรัฐและบราซิล 2) ช่วงต้นปีบริษัทมียอดขายลูกกุ้งแก่เกษตรกรเพิ่มขึ้น ~20% YoY บ่งบอกถึงผู้ผลิตกุ้งมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์กุ้งในไทยหลังจากสิ้นสุดของการแพร่ระบาดของโรคตายด่วนในกุ้ง (EMS) 3) ราคาเนื้อหมูยังคงกระเตื้องขึ้นเนื่องจากภาวะอุปทานขาดแคลนในจีน และ 4) ธุรกิจไก่เนื้อจะดีขึ้นทั้งในแง่ของราคาและปริมาณซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการขาดแคลนปู่ย่าพันธุ์ไก่ (GP) จากสหรัฐส่วนปริมาณส่งออกไปที่ญี่ปุ่นจะเติบโตอย่างมีนัยฯ ด้วยมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น
5) การเข้าถือหุ้นของ C.P. Cambodia และ S&W ซึ่งประกอบธุรกิจสัตว์ปีกครบวงจรในรัสเซียจะช่วยกระตุ้นยอดขายและกำไรสุทธิในปีนี้ เราคาดการณ์ผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ 176% YoY ในปีนี้ และ 13% ในปี 60 จากติดลบ 58% ในปี 58 เรายังประมาณการอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่เกือบ 4% ในปีนี้และปีหน้า CPF เกิดสัญญาณทั้งในรายวันและรายสัปดาห์บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น หากสามารถปิดเหนือ 19.50 บาทได้สิ้นเดือนนี้จะกลับมาเกิดสัญญาณซื้อในรายเดือนซึ่งจะทำให้เนวโน้มขาขึ้นมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ราคาหุ้นสามารถยืนเหนือเป้าหมายแรกที่ 22.40 บาท แล้วจึงน่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 26.00 บาท ตามลำดับ จุด stop loss อยู่ที่ 21.00 บาท (แนวต้าน: 23.50, 23.70, 24.00; แนวรับ: 23.20, 23.00, 22.70)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
การส่งออก ก.พ. โตเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน อย่างไรก็ดีเป็นการเพิ่มขึ้นมากผิดปกติเนื่องจากการส่งออกทองและอุปกรณ์ขุดเจาะทางการทหาร การส่งออก ก.พ. เพิ่มขึ้น 10.3% เทียบปีก่อนไปสู่ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์หสรัฐเทียบกับร่วง 8.91% เมื่อ ม.ค. หากไม่คิดรายการอุปกรณ์ทางการทหารมูลค่า 683 ล้านดอลลาร์และทองคำ 1.89 พันล้านดอลลาร์ การส่งออกของไทยจะร่วง 2.0% เทียบปีก่อน (Bangkok Post/The Nation)
พาณิชย์คงเป้าส่งออกเชิงบวก ก.พาณิชย์คงเป้าการเติบโตของการส่งออกที่ 5% ในปีนี้ เนื่องจากการส่งออกน่าจะกลับมาอยู่ในแดนบวกได้ช่วงที่เหลือของปีเพราะแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศน่าจะดีขึ้น แม้ว่าจะมีปัจจัยลบ เช่น ภัยแล้ง พืชผลเกษตรไม่ดี ค่าเงินผันผวนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (The Nation)
โครงการไทยแลนด์ทีมเพื่อกระตุ้นการลงทุน โดยทีมดังกล่าวจะมีสมาชิกตัวแทนจากองค์กรภาครัฐและเอกชน ได้แก่ หอการค้า, บอร์ดการค้าและธนาคารพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศจะร่วมกันกระตุ้นการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศเริ่มต้นที่ CLMV ตามข้อมูลจาก รมว. กระทรวงพาณิชย์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ ได้กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความพยายามรวบรวมฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนซึ่งจะช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์และการตัดสินใจทางธุรกิจ (The Nation)
เลื่อนโครงการรถไฟความเร็วสูงจากปีนี้ ตามที่รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงไ ทย-ชิโนเพียงผู้เดียว ทำให้โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมาซึ่งเดิมกำหนดระยะทางในแผนที่ 845 กม. จะลดลงเป็น 250 กม. และโครงการจะเริ่มช้ากว่าเดิมกำหนดไว้ในเดือน ส.ค. และควรจะเสร็จภายในปี 62 (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
รายงานการจ้างงานในสหรัฐประจำเดือนมี.ค.และข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ช่วยพยุงตลาดหุ้นสหรัฐ ตราบเท่าที่ข้อมูลเหล่านี้ไม่แข็งแกร่งจนสร้างความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แต่ไม่อ่อนแอจนกังวลว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำ ผลสำรวจของรอยเตอร์สชี้มีการคาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขในเดือนก.พ. ที่เพิ่มขึ้น 242,000 ตำแหน่ง ข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยของสหรัฐจะรวมทั้งยอดขายบ้านใหม่ที่กำลังก่อสร้างและรอการปิดการขายและดัชนีราคาบ้าน S&P Case-Shiller Price Index (Reuters)
นางเจเน็ท เย็ลเลน ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินในวันอังคารนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดกำลังรอเบาะแสหลังจากผู้กำหนดนโยบายเฟดรายอื่น ๆ ต่างออกมาให้ความเห็นเชิง hawkish ในสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในเช้าวันนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 96.394 จุด เทียบกับเงินสกุลหลัก 6 สกุล สูงสุดในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ ดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.2% อยู่ที่ 113.40 เยน ฟื้นตัวอย่างคงที่หลังจากที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนครึ่งที่ 110.67 เยนเมื่อวันที่ 17 มี.ค. เงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1.1160 ดอลลาร์สหรัฐ ไม่เปลี่ยนแปลงมากจากวันพฤหัสที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1.1144 ดอลลาร์สหรัฐ(Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้สหรัฐปิดทำการเมื่อวันศุกร์ เนื่องในวัน Good Friday มีข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4/58 ไม่มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ส่วนกำไรของบริษัทจดทะเบียนร่วงลงเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ประกาศในช่วงนี้ ได้แก่ข้อมูลที่เกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดแรงงานแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว (Reuters)
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวในไตรมาส 4/58 แต่ไม่มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า เนื่องจากมีการใช้จ่ายผู้บริโภคค่อนข้างแข็งแกร่ง ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้น 1.4% YoY สูงกว่าตัวเลขประมาณการก่อนหน้าที่ 1.0% เศรษฐกิจเติบโต 2.0% ในไตรมาส 3/58 และขยายตัว 2.4% ในปี 2558 การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นมากกว่า 2 ใน 3 ของ GDP สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.4% ต่างจากเดือนที่แล้วที่มีรายงานตัวเลขเท่ากับ 2.0% ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในอนาคต (Reuters)
ประมาณการตัวเลขการขยายตัวของ GDP สหรัฐประจำไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 1.5% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปริมาณสินค้าคงคลังที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและปริมาณการจัดส่งของสินค้าทุนที่ลดลงในเดือนม.ค.และก.พ. ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการขยายตัวโดยมีความโน้มเอียงว่าจะเป็นขาลง (Reuters)
ผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ในงวด 4Q58 หดตัวลงเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน จากแรงกดดันของการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ ต่อบริษัทข้ามชาติ และราคาน้ำมันในระดับต่ำที่มีต่อบริษัทน้ำมัน โดยผลกำไรหลังหักภาษีแล้วในงสวด 4Q58 ปรับตัวลดลง 8.4% YoY ซึ่งเป็นการหดตัวที่มากที่สุดนับตั้งแต่งวด 1Q57 และเป็นการหดตัวลงต่อเนื่องจากงวด 3Q58 ที่ลดลง 1.7% โดยรวมแล้วผลกำไรสุทธิทั้งปี 2558 ปรับตัวลดลง 5.1% หดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากลดลง 0.6% ในปี 2557 ก่อนหน้า (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นและตลาดการเงินในยุโรปเมื่อวันศุกร์ปิดทำการซื้อขาย เนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) และจะปิดต่อเนื่องในวันจันทร์เป็นส่วนใหญ่เนื่องในเทศกาลวันอีสเตอร์ (Reuters)
เอเชีย :
ผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนขยายตัวในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ โดยขยายตัวสูงขึ้น 4.8% YoY มาอยู่ที่ 7.807 แสนล้านหยวน (1.198 แสนล้านดอลลาร์ฯ) แม้จะเผชิญกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจก็ตาม การขยายตัวดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วที่หดตัวลง 4.7% YoY ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน (Reuters)
อีกกว่า 30 ประเทศที่เตรียมเข้าร่วมกับ AIIB เพิ่มเติมจาก 57 ประเทศผู้ก่อตั้งก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าประเทศต่างๆ เหล่านี้จะเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ อยู่แล้วก็ตาม (Reuters)
ตลาดการเงินในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฮ่องกงปิดทำการซื้อขายในวันนี้เนื่องในเทศกาลวันอีสเตอร์ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ หลังหยุด 3 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายเบาบางเพราะหลายตลาดยังหยุดอีสเตอร์อยู่ ราคาน้ำมันสหรัฐเดือนใกล้เพิ่มขึ้น 37 เซนต์สู่ 39.83 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 00.50 GMT สำหรับรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 6 น้ำมัน Brent ปรับขึ้น 24 เซนต์ปิดที่ 40.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองอ่อนลงสุดใน 1 เดือนวันจันทร์ กดดันโดยดอลลาร์ที่แข็งขึ้นตามความเห็นเชิงเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ Fed ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.5% ปิด 1,210.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ 00.58 GMT ห่างจากจุดต่ำสุดของวันที่ 1,209.26 ดอลลาร์ เป็นระดับที่ต่ำสุดสำหรับทองแท่งนับแต่ 23 ก.พ. ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ เม.ย. ลดลง 0.9% ปิด 1,210.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331