- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 March 2016 16:04
- Hits: 798
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ค่าเงินบาทเริ่มเปลี่ยนทิศ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ กดดันจากราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าระดับ $40 และนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.45%, -1.10%, -0.64%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่หลังราคาน้ำมันร่วงลง ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.33%, 0.10%, -0.18%, -1.26%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.47 ดอลลาร์/บาร์เรล กดดันจากสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ ในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย มีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มสื่อสาร โดยเฉพาะ ADVANC, DTAC ที่ปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้ ส่วนกรณี JAS นั้น คณะกรรมการกทค. มีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบความเสียหายจากกรณี แจส โมบายฯ ที่ไม่ชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 MHz โดยคณะทำงานมี 9 คน เป็นตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการคลัง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)และสำนักงานกสทช. คาดว่าจะสรุปความเสียหายภายใน 30 วัน และกสทช. จะตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทในเครือ JAS ทั้งที่ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม รวมถึง MONO และ 3BB ส่วนการเปิดประมูลครั้งใหม่สำหรับคลื่นความถี่ 900 MHz ชุดที่ 1 คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปลายมิ.ย. 59 โดยกทค. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค. เพื่อหาข้อสรุปเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการกสทช. เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการประมูลต่อไป โดยอาจจะเพิ่มวงเงินหลักประกันเป็น 10-30% ของราคาเริ่มต้นประมูลใหม่
ส่วนการประชุมกนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ในคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ตามที่ตลาดคาด แต่ทางด้านธปท. ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงจากระดับ 3.5% เหลือ 3.1% เนื่องจากจากมองว่าการส่งออกของไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวช้าจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าหลัก การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการค้าโลก และปัญหาความสามารถในการแข่งขันของไทย ทำให้ธปท. ปรับลดการส่งออกเป็นติดลบ 2% จาก 0.0% และปรับลดการบริโภคภาคเอกชนจากระดับ 2.8% เหลือ 1.8% การลงทุนภาคเอกชนจากระดับ 3.9% เหลือ 2.4% แต่ได้เพิ่มการลงทุนภาครัฐจากระดับ 8.8% เป็น 10.7% ทางด้านค่าเงินดอลลาร์กลับมามีทิศทางแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ส่งผลให้ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าเหนือระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ กอปรกับธปท. กล่าวว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในบางช่วง อาจไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเท่าที่ควร ส่วนการปรับตัวขึ้นของ SET Index ที่ทำจุดสูงใหม่เมื่อวานนี้ ท่ามกลางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง ถือเป็นจังหวะในการขายทำกำไรมากกว่าจะไปไล่ราคา เนื่องจากในช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นประมาณ 2%
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ข้ามแนวต้านแถว ๆ 1,410-1,420 จุด แนะนำขายทำกำไร
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]