- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 March 2016 17:56
- Hits: 715
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ผันผวนและเริ่มย้อนลบ คาดยังลงได้อีก จึงยังรอเลือกซื้อช่วงลบ!
กลยุทธ์ : หลังจาก SET ปิดสิ้นสัปดาห์เป็นบวกถึง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ด้วยระยะทางบวกขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่ปัจจัยบวกใหม่ยังไม่ค่อยมีมากนัก ทำให้สัปดาห์ที่แล้วเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันมากขึ้น จน SET ย้อนปิดลบอีกครั้ง ทำให้ FSS คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่แรงขายทำกำไรช่วงนี้จะกดดันให้ SET ปรับตัวลงอีกสักพักได้ ซึ่งเราคาดหมายว่าดัชนีมีสิทธิปรับตัวลงไปแถว 1360 จุดหรือหลุดต่ำกว่า ให้เป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าซื้อรอบใหม่ได้ จึงแนะนำให้รอรับต่ำดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SCI, PIMO, CPN(buy back)
แนวโน้ม : ถึงแม้ว่าเมื่อค่ำวันศุกร์ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ยังสามารถปิดบวกได้ค่อนข้างดี แต่ยังเกิดจากปัจจัยหนุนเดิม ทั้งเรื่องการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่ต้องรอความชัดเจนในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลางเดือน เม.ย.อีกครั้ง รวมทั้งมาจากการขานรับมติเฟดในการประชุมรอบล่าสุดที่ผ่านมาเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว (15-16 มี.ค.) หลังเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน และปรับลดคาดการณ์จำนวนครั้งในการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลงด้วย ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ไม่ได้ตอบรับการบวกขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเท่าใดนัก โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบ ในขณะที่ SET เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เริ่มมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบบ่อยครั้งขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง FSS มองว่าเกิดจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเพิ่มเติม หลังจากตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นมาตอบรับข่าวดีในช่วงนี้ไปเกือบหมดแล้ว จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มหาจังหวะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงกับโอกาสที่ SET จะผันผวนและย้อนลบ โดย FSS ยังคาดหมายว่า SET มีโอกาสที่จะปรับพักตัวลงอีกสักพัก ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนตลาดให้แกว่งไต่ระดับขึ้นใหม่ได้อีกครั้งในช่วงถัดไป ดังนั้นจึงยังน่ารอเลือกหุ้นซื้อช่วง SET ปรับตัวลงดีกว่า
แนวรับ 1380-1376 , 1372-1366 จุด
แนวต้าน 1386-1392 , 1397-1400 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$1,061 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$567.5 ล้าน เกาหลีใต้ US$314.3 ล้าน และไทย US$104.5 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค หลังนโยบายธนาคารกลางประเทศหลักต่างๆหนุนสภาพคล่องในตลาดการเงินและการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าสนใจมากขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) คาด JAS จ่ายเงินและฉุดกลุ่มสื่อสารลง วันนี้ครบกำหนดยื่นแบงก์การันตีและชำระเงินค่าไลเซนส์บางส่วน (TRUE จ่ายแล้วเมื่อ 11 มี.ค.) มุมมองของเรายังเหมือนเดิมคือเชื่อว่า JAS จะหาแบงก์การรันตีได้และไม่ทิ้งไลเซนส์ หาก JAS จ่าย ราคาหุ้น JAS, ADVANC, DTAC จะปรับลงโดยเฉพาะ DTAC ที่ราคาเกินมูลค่าพื้นฐานมาก เพราะการเก็งกำไรว่าจะนำไลเซนส์ที่ JAS ทิ้งมาประมูลใหม่ หมดไป และการแข่งขันรุนแรงขึ้น และควรระวังแบงก์ที่การันตีให้ JAS ด้วย แต่หาก JAS ไม่จ่าย ราคา JASIF ควรปรับขึ้น ส่วน ADVANC และ DTAC อาจปรับขึ้นต่อแต่เป็นจังหวะขาย เพราะผลประกอบการที่แย่ลงทุกราย เริ่มตั้งแต่ 1Q16 ที่แข่งขันแย่งชิงลูกค้าโดยการแจกมือถือฟรี และ 3Q-4Q16 ที่ JAS เริ่มวางโครงข่ายเสร็จบางส่วนและเริ่มให้บริการ กำไรของกลุ่ม 4G ในปี 2015 +3% Y-Y แต่เราคาดปีนี้ -43% Y-Y และ +30% Y-Y ในปีหน้า เราแนะนำชะลอการลงทุนในกลุ่ม 4G ในปีนี้ ถ้าต้องเลือก เราจะเลือก ADVANC และ INTUCH เท่านั้นในแง่ปันผล ทั้งนี้ ในส่วนของ TRUE ราคาหุ้นจะเด่นกว่ากลุ่มจนถึง 30 มี.ค. เพราะราคาตลาดในช่วงนี้จะใช้กำหนดราคาใช้สิทธิเพิ่มทุน เราคาดเดาว่าราคา TRUE ในช่วงนี้ไม่ควรต่ำกว่า 7.5 บาทซึ่งเป็นต้นทุนของ China Mobile บวกกำไร
(+) คลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม โดยแจกเงินข้าราชการระดับกลาง-ล่างเฉลี่ยคนละกว่า 1 พันบาท รวมเป็นวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท คาดได้เงินช่วงสงกรานต์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย หากได้ผลจะดีต่อ GLOBAL, ROBINS
(+) กลุ่มรับเหมาน่าสนใจ AOT เปิดให้ซื้อซองประมูลก่อสร้างสาธารณูปโภคของสุวรรณภูมิเฟส 2 วันที่ 22 มี.ค.-4 เม.ย. ยื่นประมูล 21 มิ.ย. โดยกำหนดราคากลางที่ 2.265 พันล้านบาท และการก่อสร้างอาคารเทียบและลานจอดเครื่องบิน กำหนดยื่นประมูล 20 มิ.ย. กำหนดราคากลางที่ 1.34 หมื่นล้านบาท
(+) TISCO เราเห็นแต่ upside ของประมาณการจากการเข้าแผนฟื้นฟูกิจการของ SSI ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาอีก 4-6 เดือน หากสำเร็จคาดว่า TISCO จะกลับรายการเงินสำรองไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท และแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งยิ่งทำให้ต้นทุนทางการเงินให้ต่ำลง แม้ไม่รวม upside ดังกล่าว เราคาดกำไร 1Q16 น่าประทับใจ +8% Q-Q, +12.8% Y-Y และคาดกำไรสุทธิปีนี้ +17.9% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 52 บาท และยังได้เงินปันผลหุ้นละ 2.40 บาท Yield 5.2% XD 27 เม.ย. 2016
(0) TU บริษัทย่อยในสหรัฐเรียกคืนทูน่ากระป๋อง Chicken of the sea ราว 1.3 แสนกระป๋อง เพราะตรวจเจอความผิดพลาดของขั้นตอนการฆ่าเชื้อ ทั้งนี้ ยังไม่เกิดเหตุการณ์การเจ็บป่วยของลูกค้าหรือถูกฟ้องร้อง เรามองว่าความเสียหายเป็นเม็ดเงินจำกัด เบื้องต้นคาดไม่เกิน 20 ล้านบาท ซึ่งบริษัททำประกันความเสียหายสินค้าไว้ครอบคลุมทั้งหมด แต่ความเสียหายต่อภาพลักษณ์อาจมีบ้าง แต่ไม่กระทบประมาณการกำไรปกติของเราที่คาดโต 16.6% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 22.50 บาท
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดยนักลงทุนยังตอบรับเชิงบวกจาก FED ที่ยังคงดอกเบี้ยและจะเร่งรีบในการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ส่วนใหญ่ยังปิดในแดนบวกได้โดยนักลงทุนลดความกังวลในเรื่องราคาน้ำมันที่ผันผวนโดยตั้งความหวังกับการประชุมผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17 เม.ย.นี้
(0) ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในกรอบแคบโดยไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญให้ติดตามมากนักในสัปดาห์นี้ รวมถึงหลายตลาดที่ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday
(0) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-34.90 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 0.76 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 39.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง Baker Hughes รายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 13 สัปดาห์ ส่วนธนาคารกลางรัสเซียยังเตือนว่าน้ำมันยังอยู่ในภาวะ Oversupply จากอุปสงค์ที่อ่อนแอของจีนและอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากอิหร่าน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 10.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,254.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากพุ่งขึ้นแรงในวันก่อนหน้า รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข๋งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21-มี.ค. - ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ เนื่องในวัน Vernal Equinox Day
- ไทย: ครบกำหนดผู้ชนะประมูล 4G ชำระค่าไลเซ่นส์พร้อมแบงก์การันตี
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.พ.)
22-มี.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (มี.ค.)
23-มี.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)
24-มี.ค. - ไทย: TPBI เข้าเทรด (ราคา IPO 10.80 บาท)
- ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และอินเดีย ปิดทำการ
25-มี.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday
- สหรัฐ: 4Q15 GDP ตัวเลขสุดท้าย (ตลาดคาด +1% Q-Q)
28 มี.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต (ก.พ.)
29-มี.ค. - สหรัฐ: ดัชีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller
30-มี.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (มี.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภค (มี.ค.)
31-มี.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch