- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 March 2016 17:10
- Hits: 4789
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Bounce 2
วันนี้คาดดัชนีฯ เด้งไม่ไกล แนวรับ 1,375 จุด ต้าน 1,395 จุด
ดัชนีฯสัปดาห์นี้ไปไม่ถึง 1,415 (ทำได้แค่ 1,407) แต่ก็ยังไม่หลุด 1,370 จุด ส่วนสัปดาห์หน้าคาด แกว่งในกรอบเดิม 1370-1415 แนะขึ้นขายกระชับพอร์ตหุ้นใหญ่ High beta และ หุ้นเต็มมูลค่า
ปัจจัยที่ต้องตาม (+) รมว.คลังเผย ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เกิดแน่ภายใน 2 เดือน, (-) ประชุม กนง. 23 มีค. คาดปรับลด GDP ลง และ MS คาดคงดอกเบี้ย, (+/-) OPEC นัดประชุม 17 เมย. MS คาดเป้าน้ำมันดิบเฉลี่ย $42 (Goldman Sash มอง $40 ภายในครึ่งปีแรก) คาดราคาน้ำมันดิบแถวนี้เหลือช่องให้ขึ้นจำกัด
เดือน มีค. มองตลาดหุ้นขึ้นช่วงครึ่งแรกของเดือน กรอบรายเดือน แนวรับ 1,360 จุด (ขยับขึ้นจาก 1,300 จุด) ต้าน 1,420 จุด (ขยับขึ้นจาก 1,400 จุด) แล้วคาดเริ่มชะลอลงกลาง-ปลายเดือน กลยุทธ์แนะเลือกเล่นรายตัว เน้นหุ้นปันผลสูง, หุ้นมีประเด็น M&A, โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, สะสม กลุ่มโรงพยาบาล ค้าปลีก Low Beta-Earning resilient, หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน (ส่งออก ท่องเที่ยว) กับหุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันพักตัวลง (สายการบิน Logistic)
หุ้นแนะนำวันนี้ BTS รฟม.เผยจะเซ็นสัญญาสายสีเขียวเหนือ+ใต้ 20 เมย.นี้ คาด Upside to fair value เพิ่มประมาณ 0.90 บาท
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(0) VGI ประกาศซื้อหุ้น MACO เพิ่มอีก 375 ล้านหุ้น ราคา 1.10 บาท เมื่อรวมกับของเดิมที่ VGI ถืออยู่ 751 ล้านหุ้น สัดส่วนถือหุ้น VGI จะเพิ่มเป็น 1,126 ล้านหุ้น หรือ 37.42% ของทุนชำระแล้ว MACO เข้าเกณฑ์ต้องเทนเดอร์หุ้น (ตั้งโต๊ะรับซื้อ) : ราคาที่ VGI ซื้อครั้งนี้ถือว่าถูก เมื่อเทียบกับ PE ที่ต้องจ่ายไป 18.7 เท่า หรือ ให้ส่วนลด 34% จากค่าเฉลี่ย PE ของกลุ่มโฆษณาภูมิภาค 28.4เท่า ซึ่งเราคาดว่า VGI จะได้หุ้นเพิ่มเป็น 61.25% (เดิม 12.46%+48.79%) ส่งผลบวกต่อกำไร VGI เพิ่มขึ้นในระยะยาวประมาณ 6% และ ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปีนี้บวกเพิ่มอีก 0.36 บาท ต่อ หุ้นเราคงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 4.95 บาท (ราคานี้ยังไม่ได้รวมกำไรส่วนเพิ่มจากการซื้อ MACO ครั้งนี้)
กลยุทธ์ ระยะสั้น แนะนำ ขายล็อกกำไร เพราะ ส่วนเพิ่มที่คำนวณเข้ามาจากกรณีเทนเดอร์สำเ็ร็จ จะเพิ่ม TP ประมาณ 6-7% (0.36บาท) ซึ่งราคาหุ้น ได้แรลรี่เกิน 6.5% รับไปแล้ว)
(+) BR เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11 บาท PE ตอนนี้ลงมาเหลือ 9.5 เท่า ให้ส่วนลด 31% เทียบกับกลุ่มที่ 13.7 เท่า คาดปัจจัยหนุนราคาหุ้นจะมาจาก การประกาศ JV พันธมิตรที่อินโดนีเซีย ในเดือน พค. (คาดเข้าถือหุ้น 40%) โดยจะส่งผลบวกต่อกำไรในปี 2018 ให้ขยายตัวสูงอย่างมีนัยยะ จากคาดรายได้จะ รับรู้ราว 330 ล้านบาท และ เพิ่มเป็น 700 ล้านบาทในปี 2019 นอกจากนี้ยังมีการขยายกำลังการผลิตในประเทศ อีก 50% คาดรับรู้ปลายปี 2017 หนุนกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง
(+) กลุ่มบ้าน AREA’s survey in Feb 2016 illustrates a slightly improving demand-supply dynamic after fewer launches MoM and better take-up rates. Although we are disappointed by the setting of aggressive business targets in FY16 of our coverage (aggregate launch value growth of 14% to Bt276bn, with a 15% presales growth target to Bt253bn), government stimulus measures will help pursing real demand until the expiration date on 28 Apr 2016. However, we are concern about disappearing demand and margin cuts after the stimulus packages end. Only cheap valuations will mitigate sharp price falls, as our coverage ResDev index trades at a FY16 PER of only 7.8x, 1SDs below its FY06-15 mean and near its last trough levels
หุ้นมีข่าว
(+) BTS กำหนดวันเซ็นสัญญาสายสีเขียวเหนือ+ใต้ เบื้องต้นแล้ว คือ 20 เมย.นี้ รฟม. เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติเห็นชอบให้โอนการบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ที่กำลังก่อสร้าง และเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทร ปราการ) ไปอยู่ในความดูแลของกรุงเทพ มหานคร ขั้นตอนต่อไปทาง รฟม.จะจัดตั้งคณะกรรมการ โดยแบ่งเป็น 3 ชุดได้แก่ 1.คณะกรรมการประเมินทรัพย์สิน 2.คณะกรรมการประสานงาน 3.คณะกรรมการติดตามผล และจะต้องมีการประสานงานกับ กทม.ในการจัดการระบบการเดินรถ ซึ่งคาดว่าจะเป็นบริษัทกรุงเทพธนาคมรับผิดชอบและจะเปิดการเดินรถในกลางปี 60 ส่วนค่างานโยธาที่ กทม.จะต้องจ่ายให้ รฟม.นั้น เป็นจำนวนประมาณ 6 หมื่นกว่าล้านบาท โดยแบ่งเป็นสายสีเขียวใต้ 21,000 ล้านบาท สายสีเขียวเหนือ 39,000 บาท อย่างไรก็ตามคาดว่าสามารถลงนามความร่วมมือได้ในวันที่ 20 เม.ย. นี้
(*) รองนายกสมคิด เผย ได้ให้กระทรวงคมนาคมเร่งนำ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู เข้าสู่การพิจารณา ของ ครม. ภายในเดือนมี.ค.นี้ ก่อนจะประกวดราคาต่อไป
(*) รฟท.ได้เพิ่มการวางแผนลงทุนโครงการรถไฟทางคู่เพิ่มอีก 2 เส้นทาง คือ เส้นทาง แยกเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงินลงทุน 7.7 หมื่นล้านบาท และเส้นทาง บางไผ่-นครพนม วงเงินลงทุน 6.6 หมื่นล้านบาท รวมวงเงินประมาณ 1.43 แสนล้านบาท หลังจากนายกรัฐมนตรีสนับสนุนเร่งดำเนินโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโดยใช้มาตรา 44 เพื่อให้ขั้นตอนการดำเนินการรวดเร็วขึ้น
ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่ 4 เส้นทางเดิมคาดว่าจะเปิดประมูลและได้ผู้รับเหมาก่อสร้างภายในปีนี้ โดยเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางจิระ และเส้นทางประจวบ-ชุมพร ทั้ง 2 โครงการ ได้ผ่านการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ และใช้เวลาดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าวภายใน 3 เดือนจากนี้ หรือภายในไตรมาส 2/59
(*) JAS วันนี้ กสทช.จะสอบถามความคืบหน้าเรื่อง การจ่ายเงินค่าใบอนุญาติ 4G
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค