- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 March 2016 16:50
- Hits: 1077
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
แรงหนุนต่อเนื่องจาก Fed
คาด SET ในวันนี้ยังสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้จากแนวทางการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ซึ่งยังเป็นแรงหนุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของ SET น่าจะเป็นไปในกรอบแคบเนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาทรวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จะส่งกดดันต่อภาคการส่งออก ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงเป็นไปในเชิงบวก อาทิ เงินปันผลจ่ายของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเห็นการขยายตัวทำระดับสูงสุดใหม่ รวมถึงแนวทางของรัฐบาลในการเยียวยาและช่วยเหลือเศรษฐกิจรากหญ้า และการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนที่ยังเห็นการขยายตัว ซึ่งโดยรวมแล้วน่าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยได้ส่วนหนึ่ง
หุ้นเด่นวันนี้ : BDMS (ราคาปิด 21.70 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 23.43 บาท)
บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ เป็นหุ้นเด่นวันนี้จากมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพในประเทศไทยและปัจจัยสนับสนุนทางเทคนิค BDMS น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการที่ไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ, ความต้องการมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้นและต้องการได้รับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ BDMS ยังน่าจะได้รับผลบวกจากการที่เมืองไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ต้องการรับการรักษาที่มีคุณภาพสูงในราคาไม่สูงเกินไป นอกจากนี้ จากการที่เศรษฐกิจของประเทศในแถบอินโดจีนยังคงเติบโตดี ทำให้ผู้คนในภูมิภาคนี้มีความต้องการการรักษาที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นและเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพของบริษัท BDMS มีแผนขยายเครือข่ายโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 43 แห่งเป็น 50 แห่งภายในปี 2560 เพื่อเตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังเปิด AEC จาก Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่า BDMS จะมีกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 12% ในปีนี้และเร่งตัวเป็น 19% ในปี 60 บริษัทยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 0.26 บาทต่อหุ้น (XD 29 มี.ค.) ในส่วนของPrice Pattern ของ BDMS ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างแข็งแกร่งจากการเกิดทั้ง Weekly & Monthly Buy Signal เพียงแต่ในระยะสั้นคาดจะยังอยู่ในช่วงของการสะสมกำลังเนื่องจากเกิด Daily Sell Signal ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นในรอบใหม่อย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามเรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าทยอยเก็บ BDMS อีกครั้ง ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BDMS แล้ว คาดว่าเมื่อการปรับฐานระยะสิ้นสุดลงจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 28.25 บาท (แนวต้าน: 21.50, 21.30, 20.80; แนวรับ: 21.90, 22.10, 22.60)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
บริษัทจดทะเบียนใน SET&MAI ทำสถิติจ่ายปันผลสูงสุดใหม่ ข้อมูลสิ้นสุดวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทจำนวน 406 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็ม เอ ไอ ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลรวม 381.65 แสนลบ. จากผลประกอบการปี 58 ซึ่งเป็นจำนวนเงินจ่ายปันที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีอัตราจ่ายปันจากกำไรสุทธิอยู่ที่ 61% คิดเป็นอัตราปันผลตอบแทน 3.55% สูงกว่าปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 2.95% (The Nation)
รัฐบาลเตรียมงบช่วยพื้นที่ชนบท รัฐบาลเตรียมงบ 9 หมื่นลบ. ช่วยพัฒนาพื้นที่ชนบท บรรเทาปัญหาภัยแล้งและเศรษฐกิจที่ชลอตัว รมว.การคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวว่าเงิน 6 หมื่นลบ. จากเงินงบประมาณคงเหลือขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และอีก 3 หมื่นลบ. จะใช้จากงบประมาณส่วนกลางประจำปี 59 (Bangkok Post)
เปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนจำนวนมากในไตรมาส 1/59 โครงการที่พักอาศัยคอนโดและบ้านสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบนได้เปิดตัวหลายโครงการในไตรมาสแรกของปีเพื่อจับกำลังซื้อที่ยังแข็งแกร่งของกลุ่มดังกล่าวและกระตุ้นยอดพรีเซลในครึ่งปีแรก ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ยังคุ้มเข้มการปล่อยสินเชื่อบ้านแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง จากข้อมูลของ เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ได้กล่าวว่าในปีที่ผ่านมา ยอดขายบ้านที่มีราคาสูงกว่า 15 ลบ. อยู่ที่ 460 หลัง ทำให้มียอดขายรวมอยู่ที่ 1.21 หมื่นลบ. และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 29.6 ลบ. ต่อหลัง (The Nation)
MAKRO (33.75 บ.) จะใช้งบประมาณ 6 พันลบ. ขยายสาขา 10 แห่งในปีนี้ซึ่งจะทำให้มีสาขาทั่วประเทศ 108 แห่ง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชลอตัวเหมือนปีก่อน แต่ค้าปลีกไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบมากนักเนื่องจากขายสินค้าหลักที่จำเป็น (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ด้วยมติ 9-0 ส่วนแนวโน้มในระยะใกล้เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากรายงานภาวะเงินเฟ้อประจำเดือนก.พ. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับเงินสกุลหลักอื่น ๆ เมื่อวันพฤหัส ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อจากแถลงการณ์ของเฟดในเชิง dovish เกี่ยวกับ แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลงกว่า 1.5% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในช่วงระหว่างการซื้อขาย (Reuters)
นายดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยหรืออาจลดอัตราดอกเบี้ย สำหรับการขยายระยะเวลาการกระตุ้นเศรษฐกิจและอาจไปจนถึงเวลาสิ้นสุดโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัส ดันให้ดัชนีดาวโจนส์อยู่ในแดนบวกในปีนี้เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นอันเป็นผลมาจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงหลังจากเฟดมีท่าทีแบบ dovish ซึ่งทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่และวัสดุก่อสร้างปรับตัวขึ้น (Reuters)
ตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัว จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน 7,000 ราย อยู่ที่ 265,000 ราย ของสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 มี.ค. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่า 300,000 รายเป็นเวลา 51 สัปดาห์แล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดนับแต่ปี 1973 (Reuters)
ยุโรป :
เงินเฟ้อยูโรโซนยังอ่อนแอ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.พ. หดตัวลง 0.2% YoY แต่ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดก่อนหน้านี้ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวลดลงเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากมุมมองในเชิงผ่อนคลายของ Fed ล่าสุดทำให้ ECB มีแนวโน้มที่จะยังผ่อนคลายทางการเงินเช่นเดียวกัน (Reuters)
เอเชีย :
ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้ดัชนี Ex-Japan Asia MSCI กลับมาเป็นบวกในปีนี้ ส่วนดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากแถลงการณ์ของเฟดในเชิงระมัดระวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตส่งผลให้นักลงทุนกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นรวมทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียซึ่งได้สะท้อนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ หุ้นในตลาดโตเกียวปรับตัวขึ้นสวนทางกับดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเทียบกับเงินเยนซึ่งถูกมองว่าเป็นผลลบต่อผู้ส่งออกของญี่ปุ่น (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบโลกเมื่อวันพฤหัสบดีทำระดับสูงสุดในรอบปีนี้ และกลับมายืนเหนือระดับ 40 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล จากความคาดหวังว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบจะสามารถเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงในการควบคุมปริมาณ Supply น้ำมันดิบของโลก โดยคาดจะได้ข้อสรุปในเดือนหน้า โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ล่าวหน้าปรับตัวสูงขึ้น 1.74 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล (+4.5%) มาอยู่ที่ 40.20 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 1.21 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 41.54 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากมุมมองตลาดต่อสินทรัพย์เสี่ยงมีความเป็นบวกมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาทองคำดีดตัวแรงขานรับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ โดยราคาทองคำตลาดจรปรับตัวลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 1,257.11 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331