WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1340-1350
  SET Index: 1382.03 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1370 จุด แต่ยังสามารถฟื้นตัวกลับเหนือระดับ 1390 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง และมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 1400 จุดยังคงมีแรงขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง จึงทำให้ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด เป็นจังหวะเข้าซื้อเก็งกำไร


  แนวต้าน : 1385 และ 1388
  แนวรับ : 1378** และ 1370

PTTEP = 70.00 / 71.00, IRPC = 4.90 / 5.00, PTT = 280 / 284, KBANK = 170 / 172, ADVANC = 168 / 171

S11 Group (S11 TB; THB 9.75) – ซื้อ
  แนวต้าน : 10.30 และ 10.70
  แนวรับ : 9.75 และ 9.70
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากปรับตัวลดลงไปสร้างฐานที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ S11 โดยมีแนวรับที่ 9.75 และ 9.70 และมีแนวต้านที่ 10.30 และ 10.70 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.50 ลงไป

JAS Asset (J TB; THB 2.92) – ซื้อ
  แนวต้าน : 3.08 และ 3.18
  แนวรับ : 2.92 และ 2.90
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายลงไปสร้างฐานเหนือจุดต่ำสุดเดิม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
  แนะนำซื้อ J โดยมีแนวรับที่ 2.92 และ 2.90 และมีแนวต้านที่ 3.08 และ 3.18 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.80 ลงไป

SET50 Index Futures
  S50H16 ฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 890 และ 895 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าระดับ 890 แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 882 ได้ต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงหลุดเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 900 ลงไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบ 865 และ 850
  แนวต้าน : 890 และ 894
  แนวรับ : 885 และ 882
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short เอาไว้ที่บริเวณ 884-886 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 865-870 และมีแนวรับถัดไปที่ 850
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50H16 ปิดยืนเหนือระดับ 892 กลับขึ้นไป

JASH16
  เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 3.50 หลังปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 3.60 ลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 3.34-3.38 และมีแนวต้านที่ 3.60 แต่เราแนะนำให้เน้นการ Open Long ถ้าไม่หลุดต่ำกว่า 3.34 ลงไป
  แนวต้าน : 3.60 และ 3.68
  แนวรับ : 3.44 และ 3.40
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน JASH16 หรือJASM16 ที่แนวรับ 3.40-3.44 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบ 3.80 และ 4.00
  STOP LOSS สถานะ Long ใน JASH16 ถ้าปรับตัวลดลงหลุด 3.34 ลงไปต่อเนื่อง

IRPCH16
  ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับไปทดสอบแนวต้านที่ 5.20 ซึ่งเราแนะนำให้ Open Short ที่บริเวณแนวต้าน 4.95-5.00 เนื่องจากเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวที่ 5.20 โดยมีแนวรับที่ 4.60 เป็นจังหวะขายทำกำไร
  แนวต้าน : 5.10 และ 5.20
  แนวรับ : 4.80 และ 4.70
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน IRPCH16 หรือ IRPCM16 ที่แนวต้าน 5.10-5.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.70
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCH16 ทะลุผ่าน 5.25 ขึ้นไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

Technical highlights
SET Index : แนวรับสำคัญ 1378-1380 ถ้าหลุดเป็นสัญญาณขาย
  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1380.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,663 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรมาปิดที่บริเวณแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1378-1380 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1390 จุด
  Daily: ปรับตัวลดลงจากแรงขายต่อเนื่องหลังจากพยายามฟื้นตัวที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1378-1380 จุด ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1400 จุด จะต้องมีมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง จึงยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1430 จุด แต่ถ้าปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป จะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนรับที่ 1340 จุด
  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1380 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค และมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด แนะนำให้รอสัญญาณฟื้นตัวเมื่อกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1397 จุดอีกครั้ง

Most Active Value:       แนวรับ   แนวต้าน
PTTEP ถูกขายที่แนวต้านสำคัญ 75.00-76.00 แนวรับ 70.00 71.50 / 71.00 74.00 / 75.00
PTT แนวต้าน 284-285 แนวรับสำคัญ 275 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 260 278 / 276 284 / 285
KBANK สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 170 และ 165 แนวต้านสำคัญ 175 171 / 170 173 / 174
JAS แนวโน้มขึ้นทดสอบ 4.00 และ 4.40-4.50 แนวรับสำคัญ 3.30-3.34 3.40 / 3.34 3.60 / 3.70
IRPC ขายที่แนวต้าน 5.20 และ 5.30 แนวรับ 4.80 และ 4.70 5.00 / 4.90 5.10 / 5.20
ADVANC แนวโน้มลงทดสอบ 165 และ 160 แนวต้าน 172 167 / 165 170 / 172
TOP สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 72.00 แนวรับสำคัญ 67.00 69.00 / 68.00 71.00 / 72.00
CPALL แนวโน้มลงทดสอบ 44.00 และ 43.00 แนวต้าน 45.50-46.00 44.50 / 44.00 45.50 / 46.00
PTTGC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 62.00 และ 63.00 แนวรับสำคัญ 57.00 60.00 / 59.00 61.50 / 62.00
AOT แนวรับสำคัญ 400 ถ้าหลุดแนวโน้มลงทดสอบ 370 400** / 380 404 / 408

Com 7 (COM7 TB; THB 6.85) – ซื้อ
  แนวต้าน : 7.30 และ 7.50
  แนวรับ : 6.80 และ 6.60
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
  แนะนำซื้อ COM7 โดยมีแนวรับที่ 6.80 และ 6.60 และมีแนวต้านที่ 7.30 และ 7.50 เป็นจุดขายทำกำไร
  ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.60 ลงไป แนวรับสำคัญ 6.20

Synnex (Thailand) (SYNEX TB; THB 4.86) – ซื้อ
  แนวต้าน : 5.20 และ 5.40
  แนวรับ : 4.86 และ 4.80
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ SYNEX โดยมีแนวรับที่ 4.86 และ 4.80 และมีแนวต้านที่ 5.20 และ 5.40 เป็นจุดขายทำกำไร
  ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.76 ลงไป แนวรับสำคัญ 4.56

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET… ราคาน้ำมันยังคงเป็นตัวแปรหลัก
  หลังการประชุม FOMC ของสหรัฐ ทาง FED ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ 2 ครั้งจากเดิมที่คาดว่าจะขึ้น 4 ครั้ง โดยเปอร์เซ็นของการขึ้นยังอยู่ที่เดือน มิ.ย. กับเดือน ธ.ค. ผลของการส่งสัญญาณครั้งนี้ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้น แต่ไม่แรงมากนัก เนื่องจากอยู่ในความคาดหมายของตลาด หลังจากนี้เรามองว่าตลาดหุ้นทั่วโลก จะกลับมาให้ความสนใจ 2 เรื่อง คือ 1. ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป และจีน 2. ทิศทางราคาน้ำมัน หลังทางกลุ่มยืนยันจะจัดการประชุมเพื่อคงกำลังการผลิต ในวันที่ 17 เม.ย.
  ราคาน้ำมันเบรนท์ที่ยังทรงตัวในระดับ 40+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์ จากแรงหนุนของการคาดการณ์เรื่องการประชุมและตัวเลขปริมาณสต๊อกน้ำมันของสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลง หลังจากนี้ไปราคาน้ำมันยังคงเป็นตัวแปรหลักต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั้งในเชิงบวกและลบ จากรูปด้านซ้าย เราแสดงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 จะเห็นได้ว่า การขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ในรอบนี้มาจากราคาน้ำมันล้วนๆ หากราคาน้ำมันยังสามารถขึ้นต่อ ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ก็ยังขึ้นได้ต่อ แต่จะอยู่กรอบจำกัด
  เหตุที่มองขึ้นได้กรอบจำกัดมาจาก 1. ยังมีโอกาสที่จะเกิดความผันผวนได้อีก ทั้งจากการปรับฐานของดัชนีดาวโจนส์จากผลการดำเนินงาน Q1/16 ออกมาแย่และตัวเลขเศรษฐกิจจีน 2. ความผันผวนที่จะเกิดจากราคาน้ำมัน เนื่องจากมองราคาน้ำมันในรอบนี้มีโอกาสขึ้นไปที่ 42-43 ดอลลาร์ต่อบารเรล์แล้วจะย่อลง หลังรับข่าวการประชุมกลุ่ม OPEC ในวันที่ 17 เม.ย. แม้จะมองกันว่าราคาน้ำมันผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่การดีดตัวขึ้นแรงๆ ยังต้องรอการฟื้นตัวของปริมาณการใช้ในครึ่งปีหลัง สำหรับกรอบราคาน้ำมัน เบรนท์ ในปีนี้จากนักวิเคราะห์ที่เข้ามา Cover ในช่วงเดือน ก.พ. ถึงปัจจุบันจะอยู่ที่ 30-50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ โดย Goldman Sach มองที่ 45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ 3. ค่า Earning revision ratio ของตลาดหุ้นไทย เริ่มผงกหัวลงรอบใหม่ สะท้อนกำไรของตลาด จะกลับมาไม่ดี
  หากราคาน้ำมันยังขึ้นต่อและทะลุ 42-43 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ หุ้นกลุ่มน้ำมันจะขึ้นต่อและจะดันให้ดัชนี SET ขึ้นแต่คงไม่เกิน 1400 จุด เนื่องจากมองว่าจะเกิดแรงขายหุ้นในกลุ่มอื่นออกอย่าง ที่โยงท่องเที่ยว รับเหมา วัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนั้นตลาดกำลังเผชิญกับแรงกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารรอบใหม่ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจภายใน ภัยแล้ง จากความกังวลเรื่องการพุ่งขึ้นของ NPL
  เมื่อดัชนีพยายามขึ้นให้ถึง 1400+/- จุด แต่เผชิญกับแรงขายออกมาตลอด เรามองว่าในสัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์ที่ดัชนีจะผันผวน ทั้งข่าวเรื่อง JAS วางเงิน 4G ในวันจันทร์และประชุม กนง. คาดกันว่าจะคงดอกเบี้ย แต่ให้จับตาดูคะแนน หากจำนวนคะแนนโหวตการคงดอกเบี้ยไม่ขาด มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปหรือในครึ่งปีหลัง วันนี้คาดดัชนี SET เปิดแดนบวกแต่จะค่อยๆ ซึมลงจนลงมาในแดนลบ จากแรงขายหุ้นกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1388-1392 จุด ส่วนแนวรับที่ 1375-1370 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEM

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)

Investment Strategy
  กลยุทธ์ : หากราคาน้ำมันยังขึ้นต่อและทะลุ 42-43 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ หุ้นกลุ่มน้ำมันจะขึ้นต่อและจะดันให้ดัชนี SET ขึ้นแต่คงไม่เกิน 1400 จุด เนื่องจากมองว่าจะเกิดแรงขายหุ้นในกลุ่มอื่นออกอย่าง ที่โยงท่องเที่ยว รับเหมา วัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์นอกจากนั้นตลาดกำลังเผชิญกับแรงกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารรอบใหม่ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจภายใน ภัยแล้ง จากความกังวลเรื่องการพุ่งขึ้นของ NPL เมื่อดัชนีพยายามขึ้นให้ถึง 1400+/- จุด แต่เผชิญกับแรงขายออกมาตลอด เรามองว่าในสัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์ที่ดัชนีจะผันผวน ทั้งข่าวเรื่อง JAS วางเงิน 4G ในวันจันทร์และประชุม กนง. คาดกันว่าจะคงดอกเบี้ย แต่ให้จับตาดูคะแนน หากจำนวนคะแนนโหวตการคงดอกเบี้ยไม่ขาด มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปหรือในครึ่งปีหลัง วันนี้คาดดัชนี SET เปิดแดนบวกแต่จะค่อยๆ ซึมลงจนลงมาในแดนลบ จากแรงขายหุ้นกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1388-1392 จุด ส่วนแนวรับที่ 1375-1370 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEM

Themes play :
  CPALL : เราแนะนำ ซื้อ CPALL โดยมีราคาเป้าหมาย 51 บาท ยอดขายจากสาขาใหม่ประกอบด้วยร้านสะดวกซื้อ 705 สาขาและ Makro 14 สาขาทำให้ CPALL มีรายได้เติบโตใน 4Q15 โดยบริษัทมีสาขาเปิดให้บริการทั้งหมด 8,832 สาขาในสิ้นปี FY15 และมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 700 สาขาในปี FY16 ขณะเดียวกัน CPALL มีอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ 21.8% (vs. 21.7% ใน 4Q14) และมีอัตราส่วน SG&A ต่อรายได้ลดลงเหลือ 19.0% (vs. 19.7% ใน 4Q14) ส่วนดอกเบี้ยจ่ายลดลง 12% yoy หลังบริษัทรีไฟแนนซ์หนี้โดยเปลี่ยนเป็นหุ้นกู้ ทั้งนี้ CPALL มี SG&A ลดลงจากความสำเร็จของแคมเปญโปรโมชั่น บวกกับค่าใช้จ่ายในการบริหาร ค่าโลจิสติกส์และค่าสาธารณูปโภคลดลงเพราะโครงการลดต้นทุน ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อเนื่องจนถึงปี FY16-17 เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรเติบโตเฉลี่ย 19% CAGR ในปี FY15-18 เพราะการประหยัดต่อขนาดที่โดดเด่นในธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่เติบโตรวดเร็ว ธุรกิจค้าส่งสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มของ Makro และมาร์จินที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

ประเด็นในสัปดาห์
  21 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนก.พ. จากเดือนก่อนหน้าที่ 5.47 ล้านยูนิต
  23 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข New Home Sales เดือนก.พ. จากเดือนก่อนหน้าที่ 494,000 ยูนิต
  23 มี.ค. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อกำหนดนโยบายการเงินโดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
  24 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit US Manufacturing PMI เดือนมี.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 51.3

Opportunity Day
  18 มี.ค. : COL JUBILE TSR AF XO TISCO OISHI
  21 มี.ค. : KBS MEGA SCN WICE TKS DEMCO
  22 มี.ค. : MK PJW MSC SAT CCP SOLAR
  24 มี.ค. : TTA APCO HPT AIT BJC ICHI
  25 มี.ค. : SAMCO UREKA BEAUTY PM K PLAT
  28 มี.ค. : PPS NWR IEC MBKET ANAN
  29 มี.ค. : PB TPCH TACC FUTUREPF TMC
  30 มี.ค. : KIAT SUPER WINNER AAV

Fundamental Stock :
  VGI : COMPANY NOTE (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท )

Technical Pick:
  กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1370 จุด แนวต้าน 1390 จุด
  Com 7 (COM7 TB; THB 6.85) - ซื้อ
  Synnex (Thailand) (SYNEX TB; THB 4.86) - ซื้อ

SET Index : Sideways
Retail Research Team

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!