- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 March 2016 17:43
- Hits: 1839
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
แรงหนุนจากมุมมองเชิงผ่อนคลายของ Fed
คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้จะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยจะได้แรงหนุนหลักๆ จากปัจจัยภายนอกประเทศหลังจากที่ Fed มีมมุมมองการกำหนดนโยบายทางการเงินในเชิงผ่อนคลายมากขึ้น โดยมีมติคงดอกเบี้ยไว้และระบุว่าจะลดจำนวนการขึ้นดอกเบี้ยลงครึ่งหนึ่ง ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางอื่น เช่น ธนาคารกลางอังกฤษก็จะคงนโยบายไว้เช่นกัน ขณะที่ปัจจัยในประเทศแม้มีแรงกดดันจากความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงแต่เชื่อว่าปัจจัยบวกจากภายนอกประเทศจะสามารถหักล้างความกังวลดังกล่าวได้
หุ้นเด่นวันนี้ : GLOBAL (ราคาปิด 10.30 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 59 13.30 บาท)
บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ เป็นหุ้นแนะนำวันนี้ เนื่องจากเป็นหุ้นที่จะได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากมาตรการที่ลดหย่อนค่าจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอนซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 28 เม.ษ. ซึ่งน่าจะกระตุ้นยอดขายภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวมและส่งผ่านไปกระตุ้นยอดขายของวัสดุอุปกรณ์สำหรับบ้านของ GLOBAL ด้วยเช่นกัน ความกังวลต่อสถานการณ์ภัยแล้งในไทยจะยิ่งช่วยกระตุ้นยอดขายแท้งก์น้ำของบริษัทในปีนี้ นอกจากนี้ การเข้าลงทุนในบริษัท สุวันนี โฮมเซ็นเตอร์ ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผู้นำตลาดที่มีชื่อเสียงในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านในตลาดสาธารณรัฐประชาชนลาว จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของผลประกอบการตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เราประมาณการกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้จะเติบโต 19% และเติบโตชลอลงเป็น 11 % ในปี 60 สำหรับรูปแบบราคาของ GLOBAL ขณะนี้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยเกิดสัญญาณซื้อทั้งรายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ราคากำลังปรับตัวขึ้นไปเพื่อทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 12.00 บาท โดยมีจุด Stop Loss อยู่ที่ 8.60 บาท(แนวต้าน: 10.50, 10.70, 11.00; แนวรับ: 10.20, 10.00, 9.70)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมลดลงอีกครั้ง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยวานนี้ได้รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันมาอยู่ที่ 85.1 จุดจาก 86.3 จุดในเดือน ม.ค. ผู้ผลิตอุตสาหกรรมยังคงกังวลต่ออุปสงค์ของโลกที่ยังอ่อนแอ ปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นและมุมมองเศรษฐกิจโลกที่ยังบอบบาง (Bangkok Post)
เอ็กซิมแบงค์จะขยายสาขาไปต่างประเทศ ธนาคารเพื่อการส่งออกนำเข้าแห่งประเทศไทย จะนำส่งแผนกลยุทธ์สามปีแก่ รมว.กระทรวงการคลังภายในสามสัปดาห์ข้างหน้า โดยกลยุทธ์สำคัญคือการขยายสาขาไปยังต่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ส่งออกไทยและบริษัทที่เข้าไปลงทุนในประเทศดังกล่าวโดยเฉพาะอาเซียน ในปี 58 เอ็กซิมแบงค์ยังตั้งเป้าเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้มากกว่า 1.9 หมื่นลบ. หรือเพิ่มขึ้น 4-5% YoY (The Nation)
ร่าง พรบ. มุ่งลดการใช้งบประมาณลวง ร่าง พรบ.การเงินและการคลังซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ระบุต้องการให้รัฐบาลในปัจจุบันและอนาคตตั้งงบประมาณสำหรับชำระคืนหนี้ที่เกิดจากการดำเนินนโยบายกึ่งการคลังผ่านธนาคารรัฐและธนาคารรัฐวิสาหกิจภายในระยะเวลาสองปีเพื่อลดปัญหาการใช้เงินนอกงบประมาณที่ไม่แสดงในงบสถานะทางการเงินในการสนับสนุนนโยบายประชานิยม อย่างไรก็ตามเงื่อนไขของการชำระคืนหนี้ดังกล่าวยังต้องหารือกับสำนักกฤษฎีกาหลังหน่วยงานรัฐหลายแห่งกล่าวเตือนว่าการชำระหนี้ที่สูงขึ้นจะก่อให้เกิดภาระทางการคลังเพิ่มเติม (Bangkok Post)
ADVANC (168.00 บ., ซื้อ, AWS 59 TP 199.00 บ.) จะได้ใช้คลื่น 900 MHz ในส่วนของที่ JAS ประมูลได้หลังได้รับคำสั่งคุ้มครองจากศาลปกครองให้ขยายระยะเวลาในการใช้คลื่นสำหรับลูกค้า ADVANC ในระบบ 2G (Post Today)
GL (19.80 บ., AWS 59 TP 28.00 บ.) มีแผนออกหุ้นกู้รอบใหม่วงเงิน 2,000 ลบ. เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนขยายธุรกิจในอาเซียนและทำดีล M&A ควบรวมกิจการ GL จะขยายธุรกิจใน CLMV และอินโดนีเซียรวมถึงการเข้าซื้อกิจการทางการเงินที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสแรกของปียังมีแนวโน้มที่จะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงจาก 7.3% ในปีก่อนเป็น 6.5% ณ ปัจจุบัน (The Nation)
JAS (3.60 บ.) ต้องเผชิญกับการขีดเส้นตายในการชำระค่าใบอนุญาตหลัง AIS ได้รับการคุ้มครองคลื่น 2G จากศาลปกครอง ทั้งนี้ หาก JAS สามารถจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกได้ทันตามกำหนด คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติจะพิจารณาการยื่นอุทรณ์ต่อคำตัดสินของศาลปกครอง (The Nation)
ต่างประเทศ
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นตามคาด ซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวปานกลางและตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานที่แข็งแกร่งจะทำให้เฟดดำเนินนโยบายการเงินหดตัวในปีนี้ โดยตัวเลขประมาณการใหม่ชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะปรับขึ้นครั้งหนึ่งในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐระบุว่าสหรัฐยังเผชิญความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากเฟดตั้งใจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยครั้ง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.1% อยู่ที่ 95.751 จุด หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 95.539 จุด หลังจากแถลงการณ์ของเฟด (Reuters)
ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ถูกมองว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม ผลสำรวจของรอยเตอร์สระบุว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนมากคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยและจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงไตรมาสแรกของปี 60 ทั้งนี้ ธนาคารอังกฤษจะประกาศผลการประชุมนโยบายในวันนี้ (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดสูงสุดในปี 2559 เมื่อวันพุธ หลังจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมและส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดจำนวนครั้งของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ (Reuters)
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งและเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนที่แล้วหลังจากที่เพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. และปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 0.2% จากผลสำรวจของรอยเตอร์ส ส่วนข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยปรับตัวดีขึ้นจากตลาดแรงงานที่มีความแข็งแกร่ง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยว่ายอดขายที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 5.2% อยู่ที่ 1.18 ล้านยูนิตในเดือนก่อน สูงสูดในช่วง 5 เดือน (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธค่อนข้างทรงตัว โดยตลาดโดยรวมยังได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาแข็งแกร่ง ขณะที่การปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นยุโรปในกลุ่มพลังงานและยานยนต์ช่วยชดเชยกับการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่ม ธ.พ. ดัชนี FTSEurofirst 300 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.02% มาอยู่ที่ 1,341.8 จุด ขณะที่ดัชนี Euro STOXX 50 ซึ่งรวบรวมหุ้นประเภท Blue chip ในยูโรโซนเอาไว้ปรับตัวลดลง 0.2% (Reuters)
ยอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรปขยายตัว 14% ในเดือน ม.ค. หนุนจากการจัดงานขายรถยนต์เป็นพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว และยังทำให้ยอดขายรถยนต์ของ Voklswagen กลับมาเติบโตได้อีกครั้งถึงแม้จะมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับประเด็นการปกปิดข้อมูลการปล่อยไอเสียของรถยนต์ก็ตาม (Reuters)
เอเชีย :
ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ เนื่องจากเฟดดูเหมือนจะดำเนินนโยบายแบบ dovish ซึ่งลดจำนวนครั้งของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งดัชนี S&P500 ปิดสูงสุดในปีนี้หลังจากแถลงการณ์ของเฟด ดัชนี MSCI Broadest of Asia-Pacific (ไม่รวมญี่ปุ่น) ปรับตัวขึ้น 0.9% (Reuters)
ยอดส่งออกญี่ปุ่นลดลง 4.0% ในเดือนก.พ. เทียบกับ 1 ปีก่อนหน้านี้ ซึ่งลดลงน้อยกว่าในเดือนม.ค. ที่ลดลงถึง 12.9% YoY แต่การลดลงดังกล่าวสูงกว่า ค่าประมาณการเฉลี่ยที่คาดว่าจะลดลง 3.1% ของผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ส นักเศรษฐศาสตร์มีความกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่ที่กลับมาอีกครั้งจะยับยั้งการขยายตัวของยอดส่งออกในอนาคต ทั้งนี้ ยอดนำเข้าลดลง 14.2% YoY ในเดือนก.พ. เทียบกับประมาณการที่ลดลง 15.2% (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ เมื่อวันพุธดีดตัวแรงถึง 6% ฟื้นกลับจากการปรับตัวลดลงเมื่อสองวันที่ผ่านมา หลังจากที่เหล่าผู้ผลิตน้ำมันดิบโลกยืนยันแผนการเจรจาเพื่อควบคุมอุปทานน้ำมันดิบโลก รวมถึงปัจจัยหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาด โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 2.12 ดอลลาร์/บาร์เรล (+5.8%) มาอยู่ที่ 38.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 1.59 ดอลลาร์/บาร์เรล (+4%) มาอยู่ที่ 40.33 ดอลลาร์/บาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำสหรัฐฯ ดีดตัว 2% มาอยู่ที่ระดับ 1,260 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงท้ายตลาดเมื่อวันพุธ หลังจากที่ Fed ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงผลบวกจากค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลง (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331