- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 March 2016 18:01
- Hits: 919
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : แนวรับสำคัญ 1380 ถ้าหลุดเป็นสัญญาณขาย
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1382.93 จุด ลดลง 11.34 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,431 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคในระยะสั้นลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1380 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด
Daily: ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1397-1400 จุด แต่มีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มสื่อสารออกมา และปรับตัวลดลงมาปิดที่บริเวณแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1380 จุด หรือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ถ้าไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในระยะสั้นเพื่อคาดหวังการฟื้นตัวไปทดสอบ 1430 จุด การปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1380 จุดลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1380 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค และมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด แนะนำให้รอสัญญาณฟื้นตัวเมื่อกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1397 จุดอีกครั้ง
Asia Fund Flow : 15 มีนาคม 2559
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 30 ล้านเหรียญ (16 มี.ค.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 120 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 2 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 20 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 75 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
ADVANC แนวโน้มลงทดสอบ 165 และ 163 แนวต้าน 170 และ 174 167 / 165 170 / 172
PTTEP ระยะสั้นซื้อเก็งกำไรที่แนวรับ 65.00 แนวต้าน 71.00-72.00 68.00 / 67.00 71.00 / 72.00
PTT สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 260 แนวต้าน 274-278 267 / 264 274 / 278
AOT แนวรับสำคัญ 400 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 370 408 / 404 414 / 418
JAS แนวโน้มขึ้นทดสอบ 4.00 และ 4.40-4.50 แนวรับ 3.30-3.34 3.40 / 3.34 3.60 / 3.70
IRPC แนวโน้มลงทดสอบ 4.70 และ 4.60 แนวต้าน 5.00 เป็นจังหวะขาย 4.80 / 4.70 4.90 / 5.00
TASCO สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 29.00 และ 30.00 เป็นจังหวะขาย 26.00 / 25.00 28.00 / 29.00
INTUCH แนวโน้มลงทดสอบ 55.00 แนวต้าน 60.00-60.50 เป็นจังหวะขาย 57.00 / 56.00 58.50 / 59.00
KBANK แนวโน้มขึ้นทดสอบ 185 และ 190 แนวรับสำคัญ 175 182 / 180 185 / 186
BEM สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 5.40 และ 5.50 แนวรับ 5.20 5.25 / 5.20 5.40 / 5.50
T. A. C. Consumer (TACC TB; THB 6.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 6.60 และ 7.00
แนวรับ : 6.25 และ 6.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TACC โดยมีแนวรับที่ 6.25 และ 6.20 และมีแนวต้านที่ 6.6 และ 7.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.90 ลงไป
VGI Global Media (VGI TB; THB 4.58) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.80 และ 4.90
แนวรับ : 4.58 และ 4.54
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มแนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ VGI โดยมีแนวรับที่ 4.58 และ 4.54 และมีแนวต้านที่ 4.80 และ 4.90 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.40 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ภาพตลาดใน 1-2 เดือนข้างหน้าต้องระวัง
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ แม้จะยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นต่อ แต่คงไม่ไกลมากนัก โดยสถานะการณ์ในปัจจุบันดูเหมือนภาพการลงทุนเริ่มดีขึ้นหลัง ECB กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นและสหรัฐมีแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งสะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐยังเติบโต แต่อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีตลาดหุ้นขึ้นมาสูงและเริ่มไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ส่งผลให้มีแนวโน้มสูงที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวลง ท่ามกลางความผันผวนของราคาน้ำมันและผลการดำเนินงาน Q1/16 ที่คาดว่าจะออกมาแย่กว่า Q4/15
ภาพที่จะสะท้อนให้เห็นแนวโน้มว่าผลการดำเนินงานของสหรัฐกำลังแย่ลง ดูได้จากค่า Earning Momentum ratio ของดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงมาลึกใกล้เคียงจุดต่ำสุดที่เคยเกิดในปี 2015 จากรูปด้านซ้าย เราแสดงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 โดยให้ค่า Earning Momentum เป็นตัวนำ 3 เดือนนั่นก็หมายความว่าตอนนี้ค่า Earning Momentum กำลังลง หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน ดัชนี S&P500 น่าจะลงตาม เนื่องจากที่ผ่านมาหากค่า Earning Momentum ลง ดัชนี S&P จะลงตาม เหตุที่ค่า Earning Momentum ปรับตัวลงมาจากการมองแนวโน้มกำไรของตลาดสหรัฐยังไม่ดี ทั้งจากผลของค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวและเศรษฐกิจคู่ค้ายังไม่ฟื้น โดยจากการสำรวจของ Thomson Reuters พบว่าอัตราการทำกำไรของหุ้นใน S&P 500 ใน Q1/16 คาดจะติดลบประมาณ 6.8% เทียบ Q4/15 ที่ติดลบ 2.9%
หากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเกิดการปรับตัวลง ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกคงจะผันผวนตาม โดยแนวโน้มที่จะเกิดเรามองในเดือน เม.ย. หรือ พ.ค.เพราะเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันน่าจะอ่อนตัวลงมาในกรอบ 35-30 ดอลลาร์หรือต่ำกว่านี้จากการเข้าสู่ช่วงซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในสหรัฐที่จะทำให้สต๊อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหรือผิดหวังหรือรับข่าวผลการประชุมของกลุ่ม OPEC แต่หากยังขึ้นต่อก็ขึ้นได้ในกรอบจำกัดที่ประมาณ 42-43 ดอลลาร์ต่อบารเรล์นอกนั้นเป็นผลจากการรับข่าวผลการดำเนินงาน Q1/16 ที่จะทยอยประกาศ
ในตลาดหุ้นไทยเองตอนนี้ก็ขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่เริ่มมีแรงกดดดันจากภาวะเศรษฐกิจภายในอย่าง ปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มกลับมาแย่ลง ดัชนี SET ขึ้นมาสูงและเริ่มแพงขึ้น หากมามองดูว่ากลุ่มไหนที่ยังพอโตได้ในช่วงนี้ จากการปรับขึ้นค่า EPS ของหุ้นจากนักวิเคราะห์หรือ ค่า Earning revision ratio เป็นบวก ของหุ้นใน SET 100 มีเพียง 28 บริษัท (จากรูปด้านขวา) จะอยู่ในกลุ่ม ธนาคารเล็ก ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ทั้งหมด (โดยเฉพาะ HANA) โยงท่องเที่ยว พลังงาน โรงพยาบาล สื่อสาร หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ราคาหุ้นขึ้นมาตอบรับพอสมควรแล้ว
หลังการประชุม FOMC ซึ่งคาดกันว่า FED คงจะพูดในทำนองเดิม คือ ยังมีแนวโน้มในการขึ้นดอกเบี้ยและจำนวนครั้งในการขึ้นจะแปรผันตามภาวะเศรษฐกิจ หากเป็นอย่างคาด ตลาดคงไม่ตอบสนองในเชิงบวกมาก ดังนั้นทิศทางดัชนี SET ในช่วงสั้นๆนี้จะแกว่งตามราคาน้ำมัน โดยวันนี้คาดดัชนียังคงอยู่ในภาวะซึมตัวลง ตามแรงกดหุ้นพลังงานและตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแนวต้านที่ 1386-1390 จุด และแนวรับที่ 1375-1370 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPN และ CENTEL
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: ในตลาดหุ้นไทยเองตอนนี้ก็ขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่เริ่มมีแรงกดดดัน จากภาวะเศรษฐกิจภายในอย่าง ปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มกลับมาแย่ลง ดัชนี SET ขึ้นมาสูงและเริ่มแพงขึ้น หากมามองดูว่ากลุ่มไหนที่ยังพอโตได้ในช่วงนี้ จากการปรับขึ้นค่า EPS ของหุ้นจากนักวิเคราะห์หรือ ค่า Earning revision ratio เป็นบวก ของหุ้นใน SET 100 มีเพียง 28 บริษัท จะอยู่ในกลุ่ม ธนาคารเล็ก ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ทั้งหมด (โดยเฉพาะ HANA) โยงท่องเที่ยว พลังงาน โรงพยาบาล สื่อสาร หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ราคาหุ้นขึ้นมาตอบรับพอสมควรแล้ว หลังการประชุม FOMC ซึ่งคาดกันว่า FED คงจะพูดในทำนองเดิม คือ ยังมีแนวโน้มในการขึ้นดอกเบี้ยและจำนวนครั้งในการขึ้นจะแปรผันตามภาวะเศรษฐกิจ หากเป็นอย่างคาด ตลาดคงไม่ตอบสนองในเชิงบวกมาก ดังนั้นทิศทางดัชนี SET ในช่วงสั้นๆนี้จะแกว่งตามราคาน้ำมัน โดยวันนี้คาดดัชนียังคงอยู่ในภาวะซึมตัวลง ตามแรงกดหุ้นพลังงานและตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแนวต้านที่ 1386-1390 จุด และแนวรับที่ 1375-1370 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPN และ CENTEL
Themes play :
EPG SAWAD SVI LPN KTC : เราแนะนำ ซื้อ EPG SAWAD SVI LPN และ KTC ซึ่งเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีแต่ราคาปรับลดลง (laggard) ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาที่นักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยรวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท โดยตลาดหุ้น (SET) ปรับตัวขึ้นได้ +7.2% ในขณะที่ EPG -14.1%, SAWAD -9.5%, SVI -8.8%, LPN -6.4% และ KTC -5.0% โดยเราคาดว่าหุ้นดังกล่าวจะเริ่มมีราคาฟื้นตัวหลังจากที่หุ้นในกลุ่มหลักอย่างพลังงาน (+10.9%) ธนาคาร (+9.6%) และ ICT (+7.5%) ปรับขึ้นมามากแล้วในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนจะเริ่มมองหาหุ้นพื้นฐานดีทีราคายังคง laggard หุ้นกลุ่มหลักอยู่ในช่วงนี้ โดย EPG จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่เริ่มปรับฐานลง ในขณะที่ SAWAD KTC และ LPN อาจมีแรงเก็งกำไรการประชุมกนง. วันที่ 23 มี.ค. ว่าอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงและ SVI ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงนี้ โดยเราให้ราคาเป้าหมาย KTC 120 บาท (upside 42%), SAWAD 58 บาท (upside 34%), EPG 16.75 บาท (upside 32%), SVI 6.29 บาท (upside 18%) และ LPN 14.50 บาท (upside 11%)
ประเด็นในสัปดาห์
16 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือน ก.พ. โดยตลาดคาด 1.0% จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.4%
16 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production MoM เดือนก.พ. โดยตลาดคาด -0.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ +0.9%
17 มี.ค. : การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) โดยตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5%
Opportunity Day
16 มี.ค. : ORI S FIRE BIG CHO DAII TKT
17 มี.ค. : SINGER ATP30 COLOR PTG PHOL TMILL DSGT
18 มี.ค. : COL JUBILE TSR AF XO TISCO OISHI
21 มี.ค. : KBS MEGA SCN WICE TKS DEMCO
22 มี.ค. : MK PJW MSC SAT CCP SOLAR
24 มี.ค. : TTA APCO HPT AIT BJC ICHI
25 มี.ค. : SAMCO UREKA BEAUTY PM K PLAT
28 มี.ค. : PPS NWR IEC MBKET ANAN
Fundamental Stock :
BANKS : SECTOR NOTE (คำแนะนำ : Underweight)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1380 จุด และ 1370 จุด แนวต้าน 1390 จุด
T.A.C. Consumer (TACC TB; THB 6.25) - ซื้อ
VGI Global Media (VGI TB; THB 4.58) - ซื้อ
SET Index : แกว่งในกรอบ
Retail Research Team