- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 March 2016 17:58
- Hits: 948
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET มีแรงขายกดดันให้เริ่มพักตัวแล้ว ดังนั้นยังน่ารอเลือกซื้อช่วงลบ!
กลยุทธ์ : หลังจาก SET แกว่งตัวผันผวนในกรอบจำกัดมาในสัปดาห์ก่อน ต้นสัปดาห์นี้ยังมีแรงขายกดดันต่อเนื่อง ทำให้เริ่มแกว่งด้านลบ ซึ่ง FSS คาดว่า SET ยังมีสิทธิอยู่ในรอบปรับพักตัวต่อเนื่องได้ ดังนั้นแม้ว่าอาจมีจังหวะรีบาวด์สลับ แต่กรอบบวกคาดว่าจะแคบ ดังนั้นยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : COM7, ASEFA, CPN(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET แกว่งตัวย้อนลบลงบ้างแล้ว หลังจากเริ่มมีแรงขายออกมาให้เห็นตั้งแต่ช่วงบ่ายวันก่อนหน้า โดยได้รับแรงกดดันจากการอ่อนตัวลงอีกครั้งของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังอิหร่านวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันให้เท่ากับระดับการผลิตช่วงก่อนถูกคว่ำบาตร ทำให้โอกาสที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะมีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหา Oversupply ของตลาดน้ำมันในช่วงนี้มีความเป็นไปได้ยากขึ้น นอกจากนี้ FSS คาดว่าแรงขายส่วนหนึ่งยังมาจากการที่นักลงทุนลดความเสี่ยงหลัง SET ขยับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่าตอบรับข่าวบวกที่ตลาดมีอยู่ไปเกือบหมดแล้ว ขณะที่เมื่อคืนนี้แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ยังปิดบวก แต่ก็มีกรอบบวกจำกัด และภาวะการซื้อขายยังเป็นไปอย่างผันผวนด้วย โดยยังมีแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐเพิ่มเติมอีกนอกเหนือจากประเด็นราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามเช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ยังสามารถเปิดเป็นบวกได้บ้าง โดยคาดว่าน่าจะมาจากแรงซื้อเก็งกำไรผลประชุมเฟดในค่ำวันนี้ ที่นักลงทุนมองเป็นเชิงบวกเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไร้ทิศทาง ทำให้ FSS คาดว่า SET มีโอกาสพลิกกลับไปแกว่งบวกได้เช่นกัน แต่เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม ทำให้กรอบบวกน่าจะยังจำกัด และสุดท้ายเราคาดว่า SET จะปรับพักตัวลงตามที่ได้คาดกันไว้ก่อนหน้าอยู่เช่นเดิม
แนวรับ 1380-1376 , 1372-1366 จุด
แนวต้าน 1385-1388 , 1390-1394 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$126ล้าน นำโดยไต้หวัน US$120.5ล้าน เกาหลีใต้ US$62.4ล้าน และฟิลิปปินส์ US$20ล้าน ขณะที่ไหลออกจากประเทศไทยเป็นวันแรกในเดือนนี้ราว US$74.6ล้าน และเวียดนาม US$4.7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค แม้ว่า BOJ จะไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่มาตรการที่ใช้อยู่ร่วมกับการอัดฉีดสภาพคล่องจาก ECB จะผลักดันสภาพคล่องสู่สินทรัพย์เสี่ยงในระยะนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานอาจเริ่มถ่วงตลาดหลังจากอิหร่านมีท่าทีจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันอีกเท่าตัว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) จับตาผลการประชุม FOMC หลัง BOJ ไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งตลาดคาดว่า FED จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึง ก.ค. 16 ขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เพิ่มขึ้น ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่ FED จะกลับมาผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า กระแสเงินมีโอกาสไหลออกต่อ
(+) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ ADVANC ต่อไปอีก 30 วัน ขยายมาตรการเยียวยาโดยให้ใช้งานคลื่น 5 MHz ในส่วนของ JAS จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งเป็น Positive Surprise สำหรับ ADVANC (ราคาพื้นฐาน 188 บาท) รวมถึง INTUCH (ราคาพื้นฐาน 68 บาท) ราคาหุ้นปรับตัวลงมาติดต่อกัน 2 วันถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ส่วน DTAC (ราคาพื้นฐาน 30 บาท) จะเสียประโยชน์จากการโรมมิ่งที่ลดลงเรายังแนะนำขาย ขณะที่ TRUE (ราคาพื้นฐาน 6 บาท) คาดว่าจะได้รับ Sentiment เชิงลบ
(+) ROBINS เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแผนการเติบโตในปี 2016 – 2020 แม้จะปรับลดการเปิดสาขาใหม่เป็นปีละ 2-3 แห่ง จากอดีตปีละ 4-5 แห่ง โดยจะหันมา Renovate สาขาเก่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับสินค้า Private Brand และ International Brand ที่มีอัตรากำไรสูงและยังมีฐานต่ำ รวมถึงได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ทำให้แนวโน้ม Same Store Sales Growth ใน 1Q16 ยังฟื้นตัวเป็นบวกต่อเนื่อง เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 4.5% เป็นโต 19.6% Y-Y และปรับเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 56 บาท โดยยังแนะนำซื้อ และยังเป็น Top Pick ของกลุ่มร่วมกับ HMPRO
(0) GUNKUL จะเริ่ม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม WED เฟสแรก 10 MW วันนี้ ส่วนเฟส 2 อีก 50 MW จะเริ่ม COD ใน 3Q16 ขณะที่ปีนี้โรงไฟฟ้า IEA 57 MW จะดำเนินงานเต็มปีเป็นปีแรก ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 600 MW จากปัจจุบันที่มีอยู่ 322 MW โดยจะเข้าร่วมประมูลโครงการทั้งโซลาร์ราชการ โรงไฟฟ้าชีวมวลรวมถึงโซลาร์รูฟท็อปที่คาดว่าจะทะยอยออกมาต่อเนื่อง ส่วนโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินเป็นบวกต่อธุรกิจ Trading เรายังคาดกำไรของ GUNKUL จะโตสูง 50% Y-Y และ 32% Y-Y ในปี 2016 และ 2017 ตามลำดับ GUNKUL จ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผลและจ่ายเป็นเงินสดอีก 0.625 บาทต่อหุ้น (XD 9 พ.ค.) และแตกพาร์จาก 1 บาทเหลือ 0.25 บาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเร็ว 21% YTD ทำให้ Upside จำกัดจากราคาพื้นฐานที่ 26 บาท (หลัง XD 22 บาทที่พาร์ 1 บาท) จึงแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(+) PT จาก Opportunity Day วานนี้ เรามั่นใจต่อการฟื้นตัวของกำไรในปีนี้มากขึ้นโดยยังคาดเติบโต 21 % Y-Y โดยผู้บริหารคาดว่าจะเห็นการเติบโต Y-Y ตั้งแต่ 1Q16 จากการเร่งลงทุนด้าน IT ของภาคเอกชนที่อั้นมาตั้งแต่ 1H15 และการเปิดตลาดใหม่ในภาคเหนือรวมถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ในภาคการผลิต ราคาหุ้นมีความสัมพันธ์กับการเติบโตของกำไรรายไตรมาสแบบ Y-Y ซึ่งหมายถึง Downside ของราคาหุ้นที่จำกัด ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อที่ PE เพียง 9 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 13 เท่า จึงคงคำแนะซื้อ ราคาพื้นฐาน 13.50 บาท
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดผสม โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 รวมถึงนักลงทุนจับตาผลการประชุม FED คืนนี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดลบ จากหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งได้รับผลกระทบตามการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมโดยนักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูผลการประชุม FED คืนนี้
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวในกรอบแคบๆ โดยล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 35.09-35.11 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 0.84 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 36.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง API คาดสต๊อคน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และ โอเปกปรับลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันของโอเปกปีนี้ลงราว 0.1 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 31.5 ล้านบาร์เรล/วัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 14.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,231.00 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงเทขายก่อนผลการประชุม FED คืนนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15-16 มี.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
16-มี.ค. - สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.พ.)
17-มี.ค. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
20-มี.ค. - การประชุมนัดพิเศษระหว่างกลุ่ม OPEC กับรัสเซีย
21-มี.ค. - ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ เนื่องในวัน Vernal Equinox Day
- ไทย: ครบกำหนดผู้ชนะประมูล 4G ชำระค่าไลเซ่นส์พร้อมแบงก์การันตี
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.พ.)
22-มี.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (มี.ค.)
23-มี.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)
24-มี.ค. - ไทย: TPBI เข้าเทรด (ราคา IPO 10.80 บาท)
- ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และอินเดีย ปิดทำการ
25-มี.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอินเดีย ปิดทำการ วัน Good Friday
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch