WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวต้าน Uptrend Line 1,525
Technical : แนวรับ 1,507 /1,497 แนวต้าน 1,525 / 1,535
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTT แนวรับ 325/320 แนวต้าน 328/332
หุ้นเด่นรายวัน : TMT TISCO

  วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 10.09 จุด ตามตปท.จากเก็งงบฯ Q2/สัปดาห์หน้าตลาดยังมีโมเมนตัมบวก ดัชนี SET ปิดที่ 1,518.01 จุด เพิ่มขึ้น 10.09 จุด(+0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 45,273.80 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,691.88 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,485-1,525 ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยที่ทรงตัวในระดับสูงและการเพิ่มปริมาณการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ 4 วันทำการที่ผ่านมาสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อปรับตัว และยังคงถือครองหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง ในขณะที่ SET50 การเรียงตัวแท่งเทียนที่สร้างจุดสูงใหม่โดยแกว่งตัวขึ้นตามกันกับSMA5วัน(ที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้น) เป็นสัญญาณบวกในการทดสอบแนวต้าน 1,025 / 1,030 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,310-20,690 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 20,370-20,750
  กลยุทธ์ การเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ช่วยสร้างความมั่นใจต่อการถือครองหุ้นขนาดใหญ่ ในขณะที่แรงขายระยะสั้นเกิดขึ้นต่อหุ้นขนาดเล็ก กลุ่มธนาคาร ยังคงปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการ โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง KTB BBL SCB KBANK กลุ่มพลังงาน PTTEP PTT หรือซื้อเก็งกำไรเล่นรอบ SOLAR กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ICHI MINT หุ้นรายหลักทรัพย์ VGI TCJ PAE ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTT (ปิด326 ซื้อเป้าปี 57: 375) เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTT ใน 2Q57 จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1Q57 โดยมีแรงหนุนจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของ PTTEPและ PTT โดย PTTEP จะมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand ซึ่งจะทำให้PTTEP มีปริมาณการผลิตใน 2Q57 เพิ่มขึ้นประมาณ 8,000 -10,000 BOED ส่วน PTT จะมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน ขณะเดียวกันธุรกิจโรงแยกก๊าซก็มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากโรงแยกก๊าซ 5 ที่ทำการผลิตเพียง 50%ใน 1Q57 จะกลับมาทำการผลิตที่ระดับ 100%ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิปี 57 ประมาณ 107,200ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%yoy

หุ้นเด่นรายวัน
  TMT (ปิด 11.10 ซื้อเก็งกำไร) ผลประกอบการดีปันผลเด่น เราคาดว่า TMT จะมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในครึ่งปีหลังและต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าเนื่องจากธุรกิจได้แรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทำให้ยอดขายเหล็กจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ TMT ยังมีเงินปันผลจ่ายอย่างสม่ำเสมอโดย 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ทุกปีโดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่ 9%
  TISCO (ราคาปิด 42 ซื้อ เป้าหมาย 48) แจ้งผลประกอบการในช่วง 2Q57 มีกำไรสุทธิ 992 ล้านบาทลดลง 14%YoY จากการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น 51% แต่เพิ่มขึ้น 6%QoQ จากต้นทุนเงินฝากลดลง ทั้งนี้ยังหดตัวอีกเป็นไตรมาสที่ 2

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* RASA                  มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV         มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC              มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
* EFORL / TSF               มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE    มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK      มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57

     ***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 28.74 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 28.74 จุด เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเงินในโปรตุเกสหลังรัฐบาลโปรตุเกสออกมาประกาศและให้ความเชื่อมั่นกับนักลงทุนว่าระบบการเงินของประเทศนั้นยังแข็งแกร่ง และโปรตุเกสจะไม่มีปัญหาการชำระหนี้ระยะสั้น อย่างไรก็ตามดัชนีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐอีกหลายแห่งจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 28.74 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 16,943.81 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.89 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 1,967.57 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 19.29 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 4,415.49 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 2.1 ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 2.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบในอิรักและลิเบีย โดยสถานการณ์ความรุนแรงไม่ได้ขยายตัวไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันใหญ่ที่สุดของอิรัก และรายงานล่าสุดระบุว่าอิรักมีการส่งออกน้ำมันในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 2.6 ล้านบาร์บาร์เรลจาก 2.42 ล้านบาร์เรลในเดือนมิ.ย. ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบของลิเบียก็เพิ่มขึ้นหลังจากที่แหล่งน้ำมันเอล ชารารา และคลังส่งออกน้ำมันอีกสองแห่งเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 100.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ BRENT ลดลง 2.01 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 106.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!